Friday, March 7, 2014

Review: The Vincent Boys


The Vincent Boys
The Vincent Boys by Abbi Glines

My rating: 1 of 5 stars



เราสะสมงานเขียนของแอ็บบี้ ไกนส์มาไม่น้อย (โอเคค่ะ เยอะเลยล่ะ แบบว่า มีทุกเล่ม) แต่ไม่ได้ฤกษ์อ่านซะที

เหตุผลที่เราหยิบเล่มนี้มาอ่านก่อนเล่มอื่น ๆ ทั้งที่เป็นเรื่องที่อาจจะเรียกได้ว่า ไม่ค่อยถูกพูดถึง และไม่ใช่เล่มที่ติดอันดับหนังสือในใจของใครสักคน ก็เพราะนี่เป็นเล่มที่เราซื้อมาเองแบบมึน ๆ งง ๆ คือไปเดินร้านหนังสือวันนึง แล้วเห็นเข้า อ่านปกหลัง ดูปกหน้า ก็คิดว่า น่าสนใจดี พอดีลดราคายี่สิบเปอร์เซ็นต์ก็เลยตัดสินใจง่าย ซื้อมาโดยไม่รู้ว่า นี่เป็นงานของนักเขียนที่ต่อมาในอีกไม่กี่เดือนจะดังขนาดนี้

อ่านจบแล้วขอบอกว่า ไม่แนะนำให้ใครเริ่มต้นงานของแอ็บบี้ ไกนส์ที่เล่มนี้นะคะ เชื่อว่า ถ้าอ่านแล้วจะทำให้กลัวงานเขียนของเธอไปอีกนาน มีปัญหามากมายในเรื่องนี้ ทั้งพล็อต คาแร็คเตอร์ และการเล่าเรื่อง

แอชตัน, โบ, และซอว์เยอร์เติบโตมาพร้อม ๆ กัน และแม้แอชตันจะเป็นผู้หญิง แต่เธอคือเพื่อนสนิท และทำเรื่องบ้า ๆ ห่าม ๆ ไปกับโบ ในขณะที่ซอว์เยอร์รับบทเด็กดีที่คอยช่วยพวกเขาให้รอดจากเรื่องเดือดร้อน (อันเกิดจากการกระทำของตัวเอง) แต่วันนึงทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อแอชตันและซอว์เยอร์กลายเป็นแฟนกัน และโบถูกกันออกห่างจากชีวิตของเพื่อนรักของเขา เพื่อนรักที่โบแอบรักมาตลอดชีวิต และถ้าซอว์เยอร์เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติที่โบที่รักที่สุด เขาก็คงจะแย่งแอชตันมา แต่เมื่อความจริงเป็นเช่นนั้น โบจะพยายามเอาตัวออกห่าง

ความสัมพันธ์ของทั้งสามดำเนินไปเรื่อย ๆ แอชตันและซอว์เยอร์กลายเป็นคู่ขวัญของโรงเรียน ลูกสาวของนักเทศน์ผู้เรียบร้อย กับควอเตอร์แบ็คผู้เพียบพร้อม ทั้งสองเป็นคู่ที่เหมาะสม จนกระทั่งในฤดูร้อนที่ซอว์เยอร์ไม่อยู่ (เขาไปปีนเขากับครอบครัว) และทิ้งให้แอชตันอยู่ตามลำพัง

ทุกอย่างในเรื่องนี้เป็นองค์ประกอบที่เราไม่ชอบ นางเอกทรยศแฟนตัวเองมามีความสัมพันธ์กับพระเอก พระเอกทรยศญาติสนิท คนที่เขารักและนับถือด้วยการตีท้ายครัวระหว่างที่คนเป็นญาติไม่อยู่ มันเป็นพฤติกรรมที่เราไม่ชอบ และไม่อยากอ่าน

ดังนั้นจึงต้องบอกว่า เป็นข้อดีที่การเขียนของเรื่องนี้ไม่ดีนัก การเล่าเรื่องไม่น่าสนใจ เราก็เลยอ่านไปแบบผ่าน ๆ ไม่ใส่ใจ และเพราะหนังสือบาง อ่านแป๊บเดียวก็จบ ก็เลยไม่ต้องทนอะไรมากมาย และเพราะไม่ได้ตั้งใจอ่าน ก็เลยไม่ได้ลงทุนทางอารมณ์อะไรลงไป ประกอบกับความจริงที่ว่า เรื่องนี้ไม่ได้เขียนดีขนาดให้ต้องมีอารมณ์ร่วม เราก็เลยไม่ได้เกลียด หรือชอบนางเอกพระเอก ก็แค่อ่านให้จบ

ข้อดีเดียวก็คือ เนื่องจากซื้องานเขียนของคนแต่งคนนี้มาเยอะมาก แล้วคิดไม่ออกว่า จะอ่านอะไรต่อ เราเลยหยิบเรื่องของซอว์เยอร์มาอ่านต่อ

สำหรับเล่มนี้ คะแนนที่ 50



View all my reviews

Review: Rock Chick Regret


Rock Chick Regret
Rock Chick Regret by Kristen Ashley

My rating: 3 of 5 stars



เสียงเล่าลือที่ได้ยินก็คือ เล่มนี้เป็นเล่มที่สนุกที่สุดในชุด นั่นจึงทำให้เราคาดหวังมาก ยิ่งเรื่องผู้หญิงลึกลับของเฮคเตอร์ถูกพูดถึงใน Rock Chick Reckoning เอาไว้ด้วย เราก็ยิ่งอยากอ่าน ดังนั้นแม้จะเกิดอาการเซ็งมาก ๆ หลังจากจบเล่มก่อนหน้านี้ไป เราก็หยิบมาอ่านอย่างคาดหวัง

ในแง่นึงเราคงต้องบอกว่า เล่มนี้เขียนได้ดีอย่างที่พูดกันนะคะ เราถือว่า คาแร็คเตอร์ของซาดี้ถือเป็นการเขียนเรื่องราวของนางเอกได้ดีที่สุดของคริสเตน แอชลีย์เลย เราได้เห็นการเติบโตของเธอ ได้เห็นเธอเปิดหัวใจยอมรับคนเข้ามาในชีวิต เรียนรู้ว่า เธอมีเพื่อน และมีคนที่ห่วงใย เราไม่มีปัญหากับนางเอกแม้แต่นิดเดียว

แต่เรามีปัญหาอย่างมากกับพระเอก และคนอื่น ๆ ในเรื่อง (อาจจะยกเว้นให้กับราล์ฟและบัดดี้เพื่อนของซาดี้ เพราะพวกเขาไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ๆ) บอกตามตรงว่า มันรบกวนใจของเรามาก ๆ ขนาดที่เรารู้สึกว่า สิ่งที่เราได้อ่านมาเกี่ยวกับคนเหล่านี้คือ คำโกหก และเล่มนี้เปิดเผยธาตุแท้ของพวกเขา (ว่าเป็นมนุษย์ที่ห่วยแตก)

บทนำเรื่องเมื่อซาดี้เดินไปขอความช่วยเหลือจากลีถึงที่สำนักงานของเขา เธอเล่าถึงความไม่สบายใจ และภัยที่กำลังมาถึงตัว กับผู้หญิงคนอื่น ๆ ไม่มีใครต้องทำขนาดนี้ พวกเธอปฏิเสธความช่วยเหลืออย่างงี่เง่า และโง่เขลา แต่ไม่มีใครสนใจ ทุกคนทุ่มเทที่จะคุ้มครองพวกเธอ เราอ่านแล้วไม่เข้าใจค่ะ ลีปฏิเสธที่จะช่วยซาดี้ โดยเรื่องให้เหตุผล (ที่คิดว่าจะช่วยอธิบายได้) ว่า เพราะเฮ็กเตอร์บอกว่า เขาจะจัดการดูแลซาดี้เอง

ขอบอกว่า เราอึ้งค่ะ เราไม่เชื่อว่า ตัวละครที่เราอ่านมาตลอดหลายเล่ม คนที่ยื่นมือช่วยเหลือทุกคน (แม้กระทั่งคนที่ไม่ต้องการ) ไม่กระทั่งจะทำอะไรเพื่อช่วยผู้หญิงที่ใช้คำว่า "please" แต่มันก็เกิดขึ้น และผลลัพธ์ร้ายแรงเกิดขึ้น

ดังนั้นเราคงต้องบอกว่า เราโทษทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับซาดี้ที่ตัวละครทุกคนที่เกี่ยวข้องกับไนท์ติงเกล และจนตลอดทั้งเรื่อง เราพบว่า ตัวเองไม่อาจให้อภัยพวกเขาได้

ซาดี้อาจจะทำได้ และเรายินดีที่เธอทำได้ เราไม่มีปัญหากับการที่เธอลงเอยกับเฮกเตอร์ และให้อภัยทุกคนที่เกี่ยวข้อง เราโอเคกับเธอที่กลายเป็นสมาชิกกลุ่ม Rock Chick มีชีวิตใหม่ เริ่มต้นใหม่กับเพื่อน และครอบครัว เราชอบการเติบโตในคาแร็คเตอร์ของเธอ

แต่เราลืมไม่ได้ค่ะว่า เกิดอะไรขึ้นตอนต้นเรื่อง และมันเป็นสิ่งที่เราไม่อาจชอบเล่มนี้ได้เต็มที่ เราไม่ชอบพระเอก ทุกครั้งที่เขาออกมา เราคิดถึงความล้มเหลวของเขา สำหรับเราไม่มีคำแก้ตัว เฮกเตอร์บอกลีว่า จะดูแลซาดี้เอง และให้ลีปฏิเสธที่จะคุ้มครองเธอ แต่ท้ายที่สุดเขาก็ดูแลเธอไม่ได้

และเราไม่เข้าใจความรักหรือความรู้สึกที่เฮกเตอร์มีต่อซาดี้ เริ่มต้นเรื่องเฮกเตอร์บอกว่า เขารอให้ซาดี้เป็นคนเดินมาหาก่อน แล้วการที่เธอมาขอความช่วยเหลือไม่ใช่การเดินมาหานั่นเหรอ และเขาทำเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างเขาและซาดี้ลึกล้ำมาก ๆ มาตั้งแต่ต้นเรื่อง ว่าเขารู้สึกบางอย่างกับเธอ แต่ความจริงก็คือ เฮกเตอร์มีเซ็กส์กับผู้หญิงคนอื่นในช่วงเวลาที่เขาบอกว่า รู้สึกบางอย่างกับเธอ และกำลังรอให้เธอมาหาเขาก่อน คือเราไม่ได้มีปัญหากับการที่พระเอกมีเซ็กส์กับผู้หญิงคนอื่นนะคะ ตอนนั้นทั้งคู่ยังไม่ได้เริ่มความสัมพันธ์กัน แต่เรื่องพยายามบอกมาตลอดว่า เฮกเตอร์รู้สึกบางอย่าง และกำลังรอ แล้วจะให้เราคิดว่าไงดีล่ะ ระหว่างรอให้ซาดี้มาหา เขาก็เลยนอนกับผู้หญิงคนอื่นไปก่อนเหรอ

คือเรารู้สึกว่า ทุกอย่างช้าเกินไป สายเกินไป ลีที่ปฏิเสธจะช่วยซาดี้ตอนที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำมาเป็นฮีโร่ด้วยการคุ้มครองเธอตลอดเวลา จะทำไปทำไม และการทำอย่างนั้นก็ยิ่งตอกย้ำให้เรานึกถึงความใจร้ายของพวกเขา แล้วยังกลุ่มร็อคชิก เรารู้สึกมาพักใหญ่แล้วล่ะค่ะว่า กลุ่มนี้ก็เหมือนกับนักเรียนมัธยมที่ป๊อปปูล่าร์มาก ๆ แล้วก็กำหนดว่า ใครควรจะเข้ากลุ่ม หรือใครไม่คู่ควร พวกนี้มองว่าซาดี้ไม่คู่ควร และแสดงอาการรังเกียจในฉากเปิดเรื่อง แต่เมื่อเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น ตอนนี้มาทำตัวเป็นนางเอก (ที่พวกเธอเป็น) กันใหญ่ ทำมาเป็นเอาใจใส่ ดูแล เป็นเพื่อน เช่นเดียวกันค่ะ มันช้า และสายเกิดไป (สำหรับเรานะคะ คือเราเข้าใจที่ซาดี้ยอมรับมิตรภาพเหล่านี้ เธอต้องการมัน)

ดังนั้นจะสรุปว่า เราเป็นคนเคียดแค้น ไม่ให้อภัยก็บอกได้ค่ะ เพราะเรารู้สึกเช่นนั้น เราพบว่าตัวเองไม่อาจให้อภัยพระเอก (และพวกในกลุ่มของเขาทุกคน) ได้ และนั่นจำกัดความสนุกที่เรารู้สึกกับเรื่องนี ทั้งที่เล่มนี้เราคิดว่า เป็นเล่มที่คริสเตน แอชลีย์เขียนได้ดีที่สุด และมีนางเอกที่น่ารำคาญน้อยที่สุด และเป็นเรื่องที่เขียนถึงการเติบโต และการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นได้ดีมาก ๆ

คะแนนที่ 70



View all my reviews

Review: Rock Chick Reckoning


Rock Chick Reckoning
Rock Chick Reckoning by Kristen Ashley

My rating: 2 of 5 stars



ไม่รู้ว่าเพราะกำลังเมาได้ที่หลังจากจบเรื่อง Rock Chick Revenge มารึเปล่านะคะ พอมาอ่านเล่มนี้ก็เลยเกิดอาการเมาค้าง คือเหมือนเจอเรื่องที่สนุกมาก ๆ แล้วก็จะต้องกลับคืนสู่สามัญ บอกตามตรงค่ะว่า อ่านเล่มนี้ไม่ไปเอาเสียเลย ซึ่งอาการแบบนี้ไม่ค่อยเกิดกับการอ่านงานเขียนของคริสเตน แอชลีย์นะคะ (คือจะชอบมาก หรือน้อย การอ่านลื่นไหลตลอดถ้าหากผ่านช่วงร้อยหน้าแรกไปได้)

เล่มนี้น่าเบื่อมาก ๆ บอกไม่ถูกค่ะว่า เป็นที่อะไรกันแน่ คือเหมือนความไม่ชอบทั้งหลายทั้งปวงที่เรารู้สึกกับหนังสือชุดนี้ ข้อเสียที่เราเคยมองข้ามได้ตอนที่อ่านเล่มอื่น ๆ ในชุด เมื่อมาปรากฎในเล่มนี้ เรากลับแทบจะทนไม่ได้

เราไม่ชอบนิสัยเป็นแม่พระของนางเอก รู้สึกว่าเธอเห็นแก่ตัว เอาตัวเองเป็นที่ตั้งไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คิดว่า ตัวเองเท่านั้นจะต้องเป็น "คนช่วยเหลือ" สมาชิกทุกคนในวงดนตรี ไปจนถึงการที่เธอตัดสินใจอนาคตของวงดนตรีโดยไม่สนใจว่า ใครจะคิดยังไง ในเรื่องอาจจะบอกว่า นางเอกคือดาราหลัก คือพรสวรรค์ที่แท้จริง คนอื่นในวงเป็นตัวประกอบ นั่นยิ่งทำให้เราไม่ชอบเธอค่ะ เราไม่เชื่อว่า จะมีใครประสบความสำเร็จได้โดยปราศจากคนรอบตัว แต่เขียนไปทั้งหมดนั่นไม่ใช่เรื่องแปลกในคุณลักษณะของนางเอกของคริสเตน แอชลีย์เลยนะคะ มีนางเอกคนอื่น ๆ ในเล่มก่อนหน้าที่มีลักษณะอย่างที่บอกไป แต่เราไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับพวกเธอเท่าที่เรารู้สึกกับสเตลลา

และเช่นเดียวกันเราก็รู้สึกเบื่อหน่ายไปกับเมซ ไม่รู้ว่า เป็นเพราะอะไร ไอ้เจ้าความรู้สึกที่ว่า พระเอกของแอชลีย์น่ากรี๊ด มันหายไปหมดตอนที่อ่านเล่มนี้ เราเฉยมาก ๆ กับเขา

พล็อตเรื่องก็ธรรมดามาก ๆ ตามสูตร และเช่นกัน นี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เล่มอื่น ๆ ก็เป็นแบบนี้

มันเลยนำเรามาสู่คำถามที่ว่า เล่มนี้มีอะไรเสียหายร้ายแรงนั้นเหรอ เราจึงชอบน้อยขนาดนี้ อันที่จริงไม่ใช่ชอบน้อยหรอกนะคะ แต่เป็นความเบื่อมากกว่า

เราเลยคิดว่า มันอาจจะมาถึงจุดอิ่มตัวของเรากับงานเขียนของคริสเตน แอชลีย์รึเปล่า

ไม่ชอบตอนจบของเรื่องมาก ๆ สปอยล์สุด ๆ ไม่รู้สึกว่าจำเป็นจะต้องเขียน ทั้งที่ชุดก็ยังไม่จบ

คะแนนที่ 57



View all my reviews

Review: Rock Chick Revenge


Rock Chick Revenge
Rock Chick Revenge by Kristen Ashley

My rating: 4 of 5 stars



แล้วก็มาถึงเล่มนี้ ซึ่งต้องบอกว่า จนถึงวันนี้ที่เขียนรีวิว (5/3/14) เป็นหนังสือของคริสเตน แอชลีย์ที่เราชอบที่สุด แต่เรายังถือเป็นมือใหม่กับงานเขียนของคริสเตน แอชลีย์นะคะ อ่านมาแค่ชุดนี้ชุดเดียว

กว่าเราจะมาถึงเล่มนี้ เราเริ่มเกิดอาการเบื่อหน่ายสูตรสำเร็จของเรื่องชุดนี้แล้วล่ะค่ะ เรื่องราวที่เมื่อพระเอกเห็นนางเอกก็รู้ในทันทีว่า เธอคือผู้หญิงที่ใช่ จากนั้นก็จะเอาตัวเข้าไปใกล้ชิดอย่างรวดเร็วตามประสาอัลฟ่าเมล แล้วก็ต้องเข้าไปวุ่นวายกับอันตรายที่มาพร้อมกับนางเอก จากนั้นบรรดาตัวละครผู้หญิง (คนอื่นที่ไม่ใช่นางเอก) ก็จะโผล่เข้ามาแจม ให้คำแนะนำ สร้างความเป็นเพื่อนชนิดรวดเร็วเกินเหตุ ไม่พอตัวละครผู้ชายที่เหลือ (ที่ยังไม่เป็นพระเอกในเล่มก่อนหน้า) ก็จะเกิดอาการหลงรักนางเอกไปด้วยแบบเล็ก ๆ ตามมาด้วยคำพูดที่ว่า ถ้านางเอกเลิกกับพระเอกเมื่อไหร ให้แวะมาหาด้วยนะ

เรื่องนี้เข้าสูตรนั้นเกือบทั้งหมดค่ะ แต่ที่แปลกก็คือ เราดันชอบเรื่องนี้มาก ทั้งที่คาดการณ์เหตุการณ์ได้ เดาเรื่องได้ แต่เรากลับชอบ

และเป็นความชอบตั้งแต่หน้าแรกไปจนหน้าสุดท้ายได้

พยายามใช้สติวิเคราะห์นะคะว่า มันเป็นเพราะอะไรกันแน่

ส่วนหนึ่งเพราะความสัมพันธ์ที่เคยมีมาแต่อดีตระหว่างลุค และเอวา นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เราเชื่อว่า ทำไมลุคจึงต้องตามติดเอวาซะขนาดนี้ตั้งแต่แรกเห็น (หลังจากที่เธอกลับเข้าไปในชีวิตของเขา) แม้ว่า มันจะไม่ได้ตอบคำถามว่า ถ้าลุครู้สึกขนาดนี้กับเธอ ทำไมปล่อยเวลาให้ผ่านไปนาน และไม่ติดต่อเธออีกครั้ง

ด้วยความสัมพันธ์แต่เก่าก่อน ทำให้อาการรักเมื่อแรกเห็นที่เกิดขึ้นเข้าใจได้ และมีคำอธิบาย ดีกว่าเล่มก่อนหน้า ที่ดูเหมือนถ้าสมาชิกในสำนักงานไนท์ติงเกลเห็นผู้หญิงคนไหน (ที่สมาชิกร็อคชิกเห็นว่า คู่ควรกับสมาชิกภาพ) ก็จะตกหลุมรัก ประมาณว่า เห็นก่อนก็ได้ไป ผู้หญิงกลุ่มนี้คู่ควรกับทุกคน แค่เป็นเรื่องของโชคที่ใครจะได้เจอกันก่อน

จุดที่เราชอบเล่มนี้อีกอย่างนึงก็คือ คนแต่งเอาสูตรสำเร็จของตัวเองมาเป็นมุขตลกในเรื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เธอก็รู้ตัวอยู่นะว่า เขียนเรื่องเป็นสูตรมาก เริ่มตั้งแต่ฉากที่ลุคเจอกับเอวาเมื่อเธอมาขอความช่วยเหลือ และเขาพบกับเธอเป็นคนที่สอง ต่อจากเมซ ซึ่งได้เห็นเธอก่อน ถ้าเป็นเล่มอื่น ๆ นั่นหมายความว่า เมซได้จองตัวเอวาไปแล้ว ซึ่งในเรื่องลุคก็เปรยออกมาว่า "ช้าไปอีกแล้ว" หรือกระทั่งฉากที่ทุกคนพนันกันว่า ลุคจะใช้เวลาเท่าไหรในการได้ตัวเอวามาอยู่ด้วยกัน การจัดแทงพนันขันต่อในเรื่องเหล่านี้ เราขำนะคะ

กระทั่งพล็อตที่เรารู้สึกว่า น่าเบื่อมาก ๆ ซึ่งก็คือ พล็อตที่ผู้ชายที่ยังว่างอยู่จะต้องมาตกหลุมรักนางเอก เล่มนี้ก็เป็นแบบนั้นอยู่นะคะ เพียงแต่เราชอบตรงที่คาแร็คเตอร์ที่มาหลงรักเอวาไม่ใช่สมาชิกชาวไนท์ติงเกล หากแต่เป็นผู้ชายคนอื่นที่รู้จักเธอมาก่อน คีย์เวิร์ดคือรู้จักเธอมาก่อนค่ะ นั่นทำให้การมารุมรักนางเอกดูน่าเชื่อ ที่สำคัญการวางเรื่องจนนำไปสู่การชกต่อยกันในลานจอดรถของบาร์ระหว่างลุคและเรน เราถือว่า เซ็กซี่มาก ๆ (อินขนาดคิดว่า ชีวิตนึงควรจะมีผู้ชายฮ็อต ๆ เท่ห์มาชกกันเมื่อแย่งเราบ้างสักครั้ง)

แต่เหตุผลที่เราชอบเรื่องนี้มากที่สุด เป็นเพราะเรารู้สึกสื่อถึงตัวละคร ก่อนหน้าเล่มนี้เรารู้สึกว่า คาแร็คเตอร์ของคริสเตน แอชลีย์เป็นตัวละครที่น่ากรี๊ด (สำหรับพระเอก) น่ารำคาญ (สำหรับนางเอก) เราไม่รู้สึกว่า พวกเขาเป็นมนุษย์แบบที่เราจินตนาการว่าเดินถนนเหมือนคนธรรมดาได้ พวกเขาอยู่ห่างไกลออกไป เป็นสิ่งที่ไม่จริง เป็นเรื่องราวที่ไม่น่าเชื่อ แม้ว่าจะอ่านสนุก แต่เป็นอะไรที่ไกล ไกลออกไปมาก ๆ

เล่มนี้เราค่อนข้างสื่อกับเอวา ที่มากไปกว่านั้นคิดว่า นี่เป็นเล่มแรกของแอชลีย์ที่เรารู้สึกว่าพระเอกมีความรู้สึก คือเล่มก่อนหน้า แม้เราจะกรี๊ดพระเอก แต่เราไม่รู้สึกว่า พวกเขาเป็นตัวละครที่มีชีวิต ส่วนหนึ่งเพราะเรื่องเล่าผ่านมุมมองของนางเอก พระเอกเป็นอย่างที่เราเห็นว่า นางเอกคิดว่า พวกเขาเป็น แต่ก็เหมือนรูปปั้นที่ถูกมองและชื่นชมจากคนภายนอก เราไม่อาจสัมผัสได้ถึง ตัวตนของพวกเขา แต่เล่มนี้แม้เรื่องจะยังคงเล่าผ่านมุมมองของเอวา แต่ลุคเป็นมนุษย์มาก ๆ เราคิดว่า ลุคเป็นพระเอกของคริสเตนที่แสดงอารมณ์ออกมามากที่สุดแล้ว (เท่าที่เราได้อ่านงานของเธอมานะคะ)

เราชอบเล่มนี้ตั้งแต่หน้าแรกไปจนหน้าสุดท้าย อ่านแบบมีความสุขมาก ๆ ไม่เปิดหน้าสุดท้าย หรือนับถอยหลังรอให้หนังสือจบเลย เราทำแบบนี้กับหนังสือของแอชลีย์ทุกเล่ม เพราะแม้จะอ่านสนุกติดพันยังไง เรารู้สึกเสมอว่าเรื่องยาวเกินไป แต่เราไม่รู้สึกเช่นนั้นเลยกับเล่มนี้

สรุปเขียนไปเยอะก็จับใจความไม่ได้นะว่า ทำไมเราชอบเล่มนี้ ทั้งที่พล็อต และคาแร็คเตอร์ไม่ได้แตกต่างไปจากเล่มอื่น ๆ มากนัก เราคิดว่า คงต้องกลับไปอ่านใหม่ค่ะ จะได้วิเคราะห์ให้ลงลึกมากขึ้น

คะแนนที่ 83



View all my reviews

Wednesday, March 5, 2014

Review: Rock Chick Renegade


Rock Chick Renegade
Rock Chick Renegade by Kristen Ashley

My rating: 4 of 5 stars



เราเริ่มอ่านเล่มนี้แบบเตรียมใจเอาไว้หน่อย ๆ เนื่องจากตอนจบของเล่มก่อนหน้า (Rock Chick Redemption) เราไม่ชอบการแนะนำตัวนางเอกของเล่มนี้เอาเสียเลย จูลส์ออกมาพร้อมกับคำโปรยที่ว่า ผู้หญิงแบบที่เป็น Rock Chick มันทำให้เราสงสัยว่า สรุปว่ากลุ่มของสาว ๆ ในเล่มนี้เลือกสมาชิกกันที่หน้าตา หรือรูปลักษณ์ภายนอกงั้นเหรอ หรือประมาณว่า มีเรดาร์ในตัว ที่เห็นปุ๊บจะรู้ว่า ใครมีนิสัยยังไง และจะเหมือนสมคู่ควรกับกลุ่มของพวกเธอ (สรุปคือ เรานึกถึงอดีตสมัยเรียนมัธยม ที่มีกลุ่มเด็กป๊อปปูล่าร์ที่ไม่ยอมเลือกเราเข้ากลุ่มน่ะค่ะ)

แต่พออ่านเข้าจริง เราขอบอกว่า เล่มนี้เป็นความหวังของเราเลยนะคะ นี่เป็นเล่มแรกที่เราเริ่มรู้สึกว่า คริสเตน แอชลีย์เป็นนักเขียนที่น่าสนใจ และน่าติดตาม ก่อนหน้านั้นเราอ่านงานของเธอ เราจะรู้สึกว่า ยาวเกินไป พระเอกน่าสนใจ แต่นางเอกไม่ไหว คือจะรู้สึกเหมือนว่า เธอเขียนดีนะ แต่... อยู่เสมอ จนมาถึงเล่มนี้ที่คำว่า แต่ แม้จะยังมีอยู่ แต่ (อีกแล้ว) ไม่สำคัญเท่าไหร ความน่าสนใจของเนื้อเรื่อง และตัวละครมีมากกว่า สามารถกลบทุกอย่างได้

ส่วนที่เราคิดว่า คนแต่งทำได้ดีจริง ๆ ก็คือ เราไม่ได้สนใจคาแร็คเตอร์ของทั้งพระเอกและนางเอกเป็นพิเศษ (แตกต่างจากที่เรารู้สึกในเล่มก่อนหน้า ที่เราอยากอ่านเรื่องของเอ็ดดี้ และแฮงค์) เราไม่คิดว่าแวนซ์น่าสนใจ เราไม่ชอบจูลส์ตอนที่เธอออกมามีบทด้วยซ้ำ แต่เพียงแต่ไม่กี่บทหลังจากนั้น เรากลับมาสนใจเรื่องราวของทั้งสองอย่างเต็มที่

เราคิดว่า เหตุผลใหญ่ที่เราชอบเล่มนี้ก็คือ จูลส์ไม่ใช่สมาชิกกลุ่ม Rock Chick นั่นทำให้ช่วงครึ่งเล่มแรก เราไม่ต้องมาให้ความสนใจสมาชิกสาว ๆ ในกลุ่มมากมายนัก พวกเธอไม่ได้มีบทเกินเหตุ หรือวุ่นวายมากมายอะไร มันเป็นการเล่าชีวิตของจูลส์ และเราชอบเรื่องราวของเธอ

อีกแง่นึงก็คือ เราว่า เล่มนี้เล่นกับอารมณ์ซึ้งมากกว่าเล่มอื่น ๆ ค่ะ เล่มแรก ๆ เรารู้สึกถึงเรื่องแนวชิคลิกเล็ก ๆ แต่เล่มนี้เราว่า มีความเป็น Contemporary Romance เยอะมาก

และแม้การกระทำของจูลส์จะดูโง่เขลา เราเข้าใจว่า ทำไมเธอจึงต้องทำ และเราชอบที่แวนซ์ก็เข้าใจว่า ทำไมเธอจำเป็นต้องทำ (เขาไม่ห้าม หรืออย่างน้อยก็ไม่ออกอาการอัลฟ่าห้าม) ที่สำคัญที่สุด เมื่อความเศร้าเริ่มจางลง สติกลับคืนมา เราชอบที่สุดเมื่อจูลส์ยอมรับความจริงว่า ตัวเองโง่มาก ๆ ที่ทำแบบนั้น นี่เป็นสิ่งที่เราไม่เคยเห็นในคาแร็คเตอร์ผู้หญิงของคริสเตน แอชลีย์ (ในสามเล่มแรก) และนั่นทำให้จูลส์กลายเป็นนางเอกของแอชลีย์ที่เราชอบมาก ๆ

พล็อตแนวผู้ชายทุกคนต่างตกหลุมรักนางเอกก็ยังถูกเอามาใช้ บอกตามตรงค่ะ นี่เป็นส่วนที่เราเบื่อมาก ๆ แต่อย่างน้อยในเล่มนี้ พฤติกรรมของจูลส์ก็ยังมีคำอธิบาย (แม้จะดูปัญญาอ่อนไปบ้าง) เรารู้สึกว่า การที่สาว ๆ Rock Chick ต้องอ้าแขนเปิดรับจูลส์เข้าไปเป็นสมาชิกในกลุ่มดูเวอร์เกินไป จูลส์แตกต่างจากนางเอกคนอื่น ๆ ในเล่มก่อนหน้า เธอไม่ได้อยู่ในกลุ่มมาก่อน ไม่ได้เป็นญาติสนิทมิตรสหายของพวกนั้น เรารู้สึกว่า Rock Chick รับจูลส์ก็เพียงเพราะจูลส์คือ นางเอก (แต่ในชีวิตจริง จะรู้ได้ยังไงว่า ใครเป็นนางเอก)

เรื่องนี้พล็อตมีส่วนเหมือนกับ Rock Chick Redemption ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างพระนาง ที่เจอกันวันเดียวพระนางก็นอนร่วมเตียงเดียวกันแล้ว นิสัยของจูลส์ในตอนต้นเรื่องที่ชอบปฏิเสธไว้ก่อน ทำให้เราเกือบฝันร้าย เพราะนึกว่า ร็อคซี่รีเทิร์น แต่เมื่ออ่านไปเรื่อย ๆ เล่มนี้พิสูจน์ว่า สนุกกว่า ลงตัวกว่า

เราชอบช่วงท้าย ๆ เรื่อง เมื่อจูลส์เปิดหัวใจยอมรับคนเข้ามาในชีวิตมากขึ้น และเริ่มรู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้อยู่ตามลำพัง (อย่างที่เธอคิดมาตลอดชีวิต) อ่านแล้วอบอุ่น น่ารักดีค่ะ

คะแนนที่ 77



View all my reviews

Review: Rock Chick Redemption


Rock Chick Redemption
Rock Chick Redemption by Kristen Ashley

My rating: 3 of 5 stars



คาดหวังไว้เยอะเกินไปหน่อยค่ะ สำหรับเล่มนี้ เนื่องจากเรารู้สึกว่า คาแร็คเตอร์ของแฮงค์น่าสนใจดี (ตอนที่เขาออกมาในสองเล่มแรก) แต่คงต้องบอกตามตรงว่า เห็นนางเอกครั้งแรกก็รู้สึกไม่เวิร์คแล้ว เรารู้สึกว่า เธอเป็นสาวที่ดูจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เอาเสียเลย

เราพยายามอ่านเรื่องนี้ไปแล้วครั้งนึง แต่ไม่รอดค่ะ ต้องวางลงซะก่อน เพราะคิดว่า เรื่องน่าจะสนุกกว่านี้ (แต่เราไม่รู้สึกร่วมไปด้วยเลย) ซึ่งถือว่าคิดถูกนะคะ เพราะเมื่อกลับมาอ่านใหม่อีกครั้ง ก็เหมือนสตาร์ทเครื่องติด อ่านแล้วไหลลื่นติดลมบน

ข้อดีก็คือ นางเอกไม่ได้ออกแนวช่วยตัวเองไม่ได้ แม้ว่าเธอจะต้องการความช่วยเหลือจากกลุ่มของพวกพระเอกก็ตาม แต่สิ่งที่ทำให้เรารำคาญเธอมาก ๆ ก็คือ นิสัยพูดจากเรื่อยเปื่อย เชื่อถือไม่ได้

ตอนแรกก็ดูน่ารักดีนะคะ ฉากที่แฮงค์พาเธอไปทานอาหารค่ำด้วยกันเป็นครั้งแรก (แล้วพาต่อกลับบ้าน) อ่านแล้วขำดี เมื่อเธอบอกว่า "ไม่" แต่แฮงค์บอกว่า "ใช่" แล้วมันก็มีผลลัพธ์เป็นอย่างที่แฮงค์ต้องการ ช่วงแรก ๆ เราชอบค่ะ คิดว่า เข้ากับเนื้อเรื่องด้วย เพราะตัวละครเพิ่งรู้จักกัน ถ้าพระเอกไม่รวบรัดแบบนี้ เรื่องคงไม่น่าสนใจเท่าไหร

ยอมรับว่าตกใจกับตอนจบภาคหนึ่ง (ในเล่ม) เมื่อร็อคซี่ถูกลักพาตัว เราคิดว่า พล็อตส่วนนี้คือจุดสำคัญที่ผลักดันให้เราอ่านเรื่องนี้ได้ต่อจนจบ (เราเริ่มเบื่อ ๆ กับเรื่องแล้ว) เป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกว่า คนแต่งทำให้เราแปลกใจได้ (คือเราคิดว่า คริสเตน แอชลีย์เป็นนักเขียนที่เล่าเรื่องได้น่าสนใจ แต่พล็อตคาดเดาได้เกินเหตุ การที่ร็อคซี่ถูกลักพาตัวกลางเรื่อง เหนือคาดดีค่ะ)

กลับมาที่ปัญหาของนางเอกต่อ ขอบอกว่า ร็อคซี่เป็นนางเอกที่เราชอบน้อยที่สุด (เท่าที่เราได้อ่านไปเจ็ดเล่มในชุด) ก็ด้วยนิสัยที่ชอบพูดไปก่อนว่า ตัวเองจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็ทำไม่ได้ คือขอบอกว่า รำคาญมาก ทั้งเรื่องเธอบอกว่า จะออกไปจากเดนเวอร์ จะเลิกกับแฮงค์ จะย้ายไปอยู่กับลุง จะทำโน่น จะทำนี่ สุดท้ายลงเอยไม่ได้เป็นอย่างนั้นสักอย่าง ไม่ใช่ว่า เราอยากให้เธอทำได้อย่างที่พูดนะคะ (คือถ้าทำอย่างที่พูดได้ ก็จะไปเข้าข่าย นางเอกโง่สมควรตายอีก) แต่มันทำให้เธอกลายเป็นตัวตลก (และไม่ใช่เราคนเดียวที่คิดแบบนั้น ตัวละครในเรื่องทั้งเรื่องก็คิดแบบนั้น) เราชอบนางเอกที่ตลกนะคะ แต่ไม่ใช่ตัวตลก

ขอบอกว่า รู้สึกเสียดายพระเอกหน่อย ไม่ใช่เพราะว่า ร็อคซี่มีอดีต หรือไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ แต่การจับคู่เขากับนางเอกที่ไร้สาระ เพ้อเจออย่างเธอ มันทำให้เราตั้งคำถามเกี่ยวกับวิจารณญาณของเขา

โดยรวมเรื่องนี้อ่านได้สนุก แต่ต้องใช้ความอดทนกับนางเอกเป็นอย่างมาก

คะแนนที่ 70



View all my reviews