Friday, May 30, 2014

Review: Manic


Manic
Manic by J.A. Huss

My rating: 3 of 5 stars



หนังสือสามเล่มในชุดที่เล่าเรื่องราวของรุกและโรนิน (Tragic, Manic, และ Panic) สำหรับเราแล้วเหมือนตุ๊กตารัสเซียน่ะค่ะ (ตุ๊กตาที่เมื่อเปิดออกจะพบว่า มีตุ๊กตาตัวเล็กกว่าซ่อนอยู่ข้างใน) เพราะเมื่อเราคิดว่า เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น และรู้จักตัวละครดีแล้ว ก็พบว่า ยังมีบางสิ่งซ่อนอยู่ มีอะไรที่มากกว่านั้นซ่อนอยู่

ใน Tragic ความรักระหว่างรุกและโรนินเหมือนจะลงตัว แต่ทุกอย่างก็ยังใหม่ และความจริงก็คือ รุกยังไม่ได้รู้จักโรนินอย่างแท้จริงด้วยซ้ำ (ด้วยเวลาในเรื่อง Tragic ก็แค่ไม่กี่วัน) วิธีการที่ง่ายที่สุดที่จะเขียนเล่มสองก็คือ สร้างความร้าวฉาน หาคาแร็คเตอร์ผู้ชายอีกคนเข้ามาในเนื้อเรื่อง ทำให้นางเอกต้องเลือก (และจะเป็นการทำลายหนังสือทั้งชุดนั้นไป อย่างที่เรารู้สึกกับเรื่อง Twilight) เล่มนี้มองเผิน ๆ ดูเหมือนว่ากำลังจะทำเช่นนั้น

รุกซึ่งเซ็นต์สัญญาเป็นนางแบบให้กับแคมเปญโฆษณารถมอเตอร์ไซด์ให้กับสเปนเซอร์ ไชค์ ซึ่งไม่ใช่แค่การโชว์ตัว หากแต่หมายถึงการที่เธอต้องเปลือยร่างให้สเปนเซอร์เพ้นส์สีลงเป็นเรือนร่าง และถ่ายรูปคู่กับนางแบบหนุ่ม ๆ ในท่าทียั่วยวน ในเวลาเดียวกับที่โรนินแฟนหนุ่มของเธอต้องจากไปใช้เวลากับอดีตแฟนเก่าที่ตอนนี้กำลังต่อสู้กับอาการติดยา สถานการณ์มันง่ายมากที่คนแต่งจะเอาสูตรสำเร็จนางเอกหลายใจ หรือมีชายหนุ่มมารุมมาตุ้มรุมรักเธอง่ายมาก ๆ

แต่คนแต่งไม่ได้เลือกทำเช่นนั้น และนี่เป็นสิ่งที่เราชอบในเล่มนี้ กระนั้นในแง่ความโรแมนติก ก็ต้องบอกว่า เทียบกับ Tragic ไม่ได้ เพราะครึ่งเล่มแรก พระนางแทบไม่ได้อยู่ด้วยกันเลยด้วยซ้ำ แต่ท่ามกลางสถานการณ์ที่น่าจะสร้างความเข้าใจผิดให้กับตัวละคร เรากลับรู้สึกว่า เป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น เราชอบที่รุกไม่ได้ออกแนวไม่หวั่นไหวเอาเสียเลย แต่การเขียนออกมาชัดเจนมากว่า เป็นเรื่องความรู้สึกทางเพศมากกว่าความหวั่นไหวทางอารมณ์ นั่นคือ การถ่ายแบบที่แนบชิดกับนายแบบคนอื่น ๆ หรือกับสเปนเซอร์ ทำให้รุกรู้สึกบางอย่างทางเพศ แต่เธอแยกแยะออกว่า นั่นไม่ใช่"อารมณ์รัก" ซึ่งจุดนี้แตกต่างจากหนังสือแนวรักสามเส้าหลายต่อหลายเล่ม

ที่มากไปกว่านี้ เล่มนี้เริ่มลงลึกถึงตัวตนของโรนิน ที่ใน Tragic เขาเหมือนหนุ่มหน้าสวย เป็นอัศวินที่ขี่ม้าขาวมาช่วยซินเดอเรลลาอย่างรุก เล่มนี้คนอ่านได้รับรู้ว่า ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลานั้น มีอะไรซ่อนอยู่มากมาย และมันไม่ได้สวยงามเหมือนภาพที่เขาแสดงออกต่อสาธารณะชน และนี่ดูเหมือนจะเป็นธีมของเล่มต่อ ๆ มา ซึ่งก็คือ คนอ่านไม่ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวละครจนกระทั่งได้เข้าไปอยู่ในหัวของพวกเขา เมื่อพวกเขาเป็นคนเล่าเรื่อง

ในแง่ของตัวละคร เล่มนี้แนะนำตัวละครใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นหลายตัว บางคนมีบทบาทเล็กน้อยใน Tragic มาในเล่มนี้บทเริ่มเยอะขึ้น แต่อย่างที่บอกค่ะ อย่าคิดว่า รู้จักพวกเขาดีจนกระว่าจะได้เห็นความคิดของพวกเขา สิ่งที่เราชอบก็คือ คนแต่งไม่ได้มุ่งเน้นการขายคาแร็คเตอร์เหล่านี้ในฐานะของพระนางในเล่มถัด ๆ ไป โฟกัสไม่ได้เปลี่ยนไปจากรุกและโรนินเลย

อีกส่วนที่ชอบมาก ๆ ก็คือ คาแร็คเตอร์ของรุก ที่เราเคยบอกว่าไปว่า ชอบความลงตัวของ "ความไร้เดียงสา" และ "กร้านโลก" ของเธอ เล่มนี้ก็ยังคงรักษาสมดุลนั้นเอาไว้ นั่นทำให้เธอดูน่าค้นหา เพราะด้านนึงเธอดูใสซื่อและเด็กเหลือเกิน แต่อีกด้านกลับชาชินกับหลายสิ่งที่เข้ามาในชีวิต ซึ่งเมื่อเรื่องเปิดเผยถึงปูมหลังของเธอที่มากขึ้น ก็ทำให้เราเข้าใจเธอมากขึ้น ซึ่งจุดนี้สำคัญมากเลยนะคะ

นั่นเพราะเราเริ่มอ่านหนังสือชุดนี้ที่เรื่อง Taut ซึ่งเป็นเล่มที่ห้าในชุด (เล่มนีคือเล่มที่สอง) และบทบาทที่รุกออกมาในเล่มนั้นทำให้เราไม่ชอบเธออย่างรุนแรง เราคิดว่า การกระทำของเธอหลายอย่างดูไร้หัวใจ และน่ารังเกียจ (เล่าคร่าวแบบไม่สปอยล์ก็คือ เรื่อง Taut เป็นเรื่องของคาแร็คเตอร์ฝ่ายชายคนนึงที่หลงรักรุก แต่อกหักเพราะเธอเลือกโรนิน) อย่างที่บอกค่ะ ตอนอ่านเรื่อง Taut เรามองเห็นรุกผ่านสายตาของคาแร็คเตอร์อื่น (ซึ่งเป็นชายที่อกหักมาจากเธอ) ดังนั้นตัวตนของเธอที่เราเห็นในเล่มนั้น แตกต่างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในเล่มนี้ เล่มนี้เป็นเล่มแรกที่ฟอร์ดออกมามีบทบาท (เขาคือชายที่อกหัก) เราอ่านเล่มนี้แล้วเข้าใจได้เลยว่าทำไมรุกถึงทำอย่างที่เธอทำในเรื่อง Taut

สรุปเราอยากบอกว่า อ่านเรื่องชุดนี้เรียงกันเถอะค่ะ คือสามารถอ่านข้ามได้รู้เรื่องนะคะ แต่คุณจะไม่ได้เห็นภาพทั้งหมดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วนที่เราขอติก็ตรง "กับดัก" ที่วางไว้สำหรับจับผู้ร้ายในตอนท้ายเรื่อง เรารู้สึกว่า มันง่าย และไม่ได้มีแผนการที่แยบยลอะไรเท่าไหรนัก



View all my reviews

No comments: