Wolf Hall by
Hilary Mantel My rating:
3 of 5 stars Wolf Hall ของฮิลลารี แมนเทล
เป็นหนังสือที่ทำให้เราแปลกใจมาก เพราะเราไม่ชอบหนังสือที่ได้รางวัล และคำชื่นชมจากเหล่านักวิจารณ์มืออาชีพ (พวกที่วิจารณ์ตามหนังสือพิมพ์ชื่อดัง ๆ) เพราะเรารู้ตัวว่าเป็นคนพื้น ๆ ไม่ได้มีรสนิยมสูงส่ง สรุปคือ ชอบนิยายแนวตลาด หรือแนว Genre แบบโรแมนซ์ สืบสวน
นอกจากนี้แล้วเรายังเป็นคนยึดมั่นถือมั่น คือลองมีความเชื่อแบบใดแบบนึงแล้ว มักไม่ค่อยเปลี่ยน (ในแง่ของการตัดสินไปล่วงหน้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประวัติศาสตร์ว่า ใครเป็นคนผิด เป็นตัวร้าย เป็นคนฉลาด/โง่) เรารู้นะคะว่า ประวัติศาสตร์มีหลายด้าน แต่เราก็ห้ามตัวเองไม่ได้
เล่มนี้เล่าเรื่องในประวัติศาสตร์ยุคทิวดอร์ รัชสมัยของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 (ผู้มีเมียหกคน) ประวัติศาสตร์ที่เราอ่านมาหลายรอบจากหนังสือหลายเล่ม ทั้งที่เป็นนิยาย และแนวสารคดี เรามีความคิดปักหลักเชื่อว่า ใครเป็นยังไง เรียบร้อยแล้ว
แต่เล่มนี้ทำให้เราแปลกใจสุด ๆ เพราะมันทำให้เราทบทวนความเชื่อของตัวเอง ทำให้เราคิด และมองสิ่งที่ตัวเอง (ปักใจเชื่อ แม้จะไม่มีเหตุผล แต่ก็เป็นสิ่งที่เราเชื่อว่าจริง) ใหม่อีกครั้ง ที่สำคัญสิ่งที่เล่มนี้ทำได้ดีที่สุดก็คือ การเขียนอย่างเป็นกลาง ซึ่งยากมาก ๆ ในการเล่าเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์
ตัวเอกของเรื่องนี้ คือตัวร้ายในประวัติศาสตร์ หรือที่แย่ไปกว่านั้น คือคนที่ไม่มีความสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์เอาเสียเลย ท่ามกลางเรื่องราวมาก ๆ ในสมัยพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ในเวลาที่พระองค์ต้องการเปลี่ยนราชินีจากพระนางแคธเทอรีน มาเป็นแอนน์ โบลีน เรื่องยุคนี้ถูกเขียนบ่อย และทำเป็นหนังก็บ่อยกว่า มีใครจดจำคาแร็คเตอร์ของโธมัส ครอมเวลล์ได้บ้างคะ
ก่อนหน้าเรื่องนี้เราจำเขาได้อย่างลางเลือนในแง่ที่ไม่ดีนัก
อย่างที่บอกค่ะ สิ่งที่คนแต่งทำได้ดีมาก ๆ ชนิดที่เราไม่เคยเจอในหนังสือเล่มไหน (ในแนวนิยาย) ก็คือ ความเป็นกลางในการเล่าเรื่อง หลายส่วนอาจจะทำให้คนอ่านเอนเอียงไปทางครอมเวลล์บ้างนะคะ แต่ก็เข้าใจได้ เพราะนี่คือเรื่องราวที่เล่าจากมุมมองของเขา แต่คนแต่งไม่ได้ทำให้เขาเป็นคนดีเลิศ หรือเลวร้าย เรื่องราวถูกถ่ายทอดแบบให้คนอ่านตัดสินใจเอาเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากในยุคที่ไม่มีอะไรง่ายดายเป็นขาวและดำ
เราเป็นคนกลุ่มที่ชื่นชอบและอาจจะเรียกได้ว่าเทิดทูนโธมัส มอร์มาก ๆ นะคะ กับการที่เขายอมตายเพื่อความเชื่อ เล่มนี้ทำให้เราตั้งคำถามความคิดนั้น และนี่เป็นสิ่งที่แทบจะไม่เกิดขึ้นกับเรามาก่อน (กับเรื่องอื่น ๆ ที่นำเสนอด้านที่แตกต่างของโธมัส มอร์ เรามักจะโมโห และอ่านเลิกอ่าน หรืออ่านไปบ่นไป เพราะเราปักใจไปแล้ว) เล่มนี้เล่าเรื่องอย่างเป็นกลาง ไม่ได้มีใครเป็นคนดี หรือเลว
ที่สำคัญเล่มนี้ทำให้เรามองสังคมในยุคทิวดอร์ในช่วงพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ใหม่ ก่อนหน้าเราคิดว่า จุดเปลี่ยนของอังกฤษเกิดขึ้นในยุคของพระนางอลิซาเบ็ธที่ 1 เมื่ออังกฤษเปลี่ยนจากเกาะเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครสนใจ มาเป็นชาติผู้นำในยุโรป เราไม่ได้มองรัชสมัยของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 เป็นอะไรมากไปกว่าการที่ผู้นำเปลี่ยนแปลงความเชื่อทางศาสนาเพียงเพราะอยากมีรัชทายาท
เล่มนี้นำเสนอการขึ้นมามีบทบาทของชนชั้นกลาง การเสื่อมอำนาจของกลุ่มขุนนาง การต่อสู้เพื่อความเชื่อ การปลดแอกตัวเองจากศาสนาที่ครอบงำ เราเคยคิดว่า อังกฤษก้าวเข้าสู่ยุคเรเนซองค์ช้ากว่าชาติอื่น ๆ ในยุโรป เล่มนี้เปลี่ยนความคิดของเรา
หนังสือเล่มนี้อ่านยาก เราไม่ค่อยชินกับวิธีการเล่าเรื่องของคนแต่ง ทำให้ช่วงต้นเรื่องอ่านได้ช้ามาก ๆ แต่หลังจากอ่านไปสักระยะ จนเริ่มค้นกับวิธีการเล่าเรื่อง ก็ไปได้เรื่อย ๆ ค่ะ และคงต้องบอกว่า เป็นเรื่องที่ยิ่งอ่าน ก็ยิ่งสนุก
สำหรับหนังสือที่เล่าเรื่องราวที่เรารู้ดีอยู่แล้วว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป (เพราะเราอ่านประวัติศาสตร์ในยุคนั้นมาจนจำได้) เรื่องนี้กลับเป็นหนังสือที่สนุก และน่าติดตามมาก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เราแนะนำเลยนะคะ สำหรับคนที่อยากอ่านอะไรที่มากกว่านิยาย แต่ยังให้ความสนุกแบบนิยายอยู่
View all my reviews
No comments:
Post a Comment