Sunday, March 22, 2009

ร้ายนักรักเสียจริง

เมื่อวานได้นั่งคุยกับเพื่อนคอโรแมนซ์เหมือนกันหลายคน และหัวข้อสนทนาของพวกเราก็เป็นประเด็นที่ถูกใจแม็กซ์อย่างยิ่ง เพราะมันก็การพูดถึงลักษณะของตัวละครที่อยู่ในด้านสีเทา คนที่อาจจะไม่ใช่คนดีสมบูรณ์แบบ มีด้านมืดในจิตวิญญาณ แต่ในขณะเดียวกันก็มีแก่นบางอย่างที่แม้แต่ในยามที่เลวร้ายที่สุด ก็ไม่อาจละเมิดหลักการนั้นได้

สำหรับคนที่ไม่ได้อ่านโรแมนซ์ มักจะมองว่าโรแมนซ์เป็นหนังสือที่มีมิติเดียว และเล่นกับประเด็นที่มีแต่ความงดงาม หลายคนที่แม็กซ์มีโอกาสคุยด้วย พวกเขามองโรแมนซ์ว่าเป็นนิยายพาฝัน (ซึ่งนี่เป็นชื่อที่ใช้เรียกนิยายโรแมนซ์จริง ๆ) เรื่องราวที่นางเอกที่เป็นสาวน้อยแสนดี ได้พบกับพระเอกผู้พร้อมพรั่ง คนที่จะนำพาเธอไปสู่ชะตาชีวิตอันแสนสุขสม และทุกคนก็จะอยู่กันอย่างมีความสุขตลอดไป

แม็กซ์ไม่ปฏิเสธนะคะว่า มีนิยายโรแมนซ์แบบนั้น และไม่ปฏิเสธว่า นิยายแนวนั้นยังได้รับความนิยมจากคนอ่าน (หรือกระทั่งแม็กซ์เองในบางครั้งก็ต้องการหนังสือแนวนั้นเช่นกัน) แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดที่โรแมนซ์นำเสนอต่อคนอ่าน

ใ่ช้แล้วค่ะ โรแมนซ์มีด้านมืด ที่บางครั้งก็มืดเสียจนไม่แน่ใจว่าจะมีแสงสว่างอยู่ปลายอุโมงค์ไหม

โรแมนซ์มีความหลากหลายขนาดนั้น แต่นั่นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่นักอ่านชาวไทยรับรู้กันทั่วไป เพราะการกลั่นกรองจากสนพ. ที่ยังคิดว่า นักอ่านโรแมนซ์แสนจะไร้เดียงสาเสียจนไม่อาจอ้าแขนโอบกอดความมืดไว้ได้ (ซึ่งแม็กซ์ก็ไม่โทษสนพ.หรอกนะคะ เขาต้องมุ่งหวังเพื่อกำไรเป็นหลัก คนอ่านโรแมนซ์ในเมืองไทยก็มีมากเสียที่ไหนกันเล่า ดังนั้นเขาก็ต้องผลิตแนวที่ถูกใจตลาดไว้ก่อนเป็นเรื่องธรรมดา)

อันที่จริงแม็กซ์เคยเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับ Dark Romance เอาไว้แล้วค่ะแต่บลอกวันนี้แม็กซ์อยากจะพูดถึงโรแมนซ์ที่นำเสนอตัวละครที่ บางครั้งดูไม่ค่อยออกด้วยซ้ำว่าเป็นพระเอกหรือผู้ร้ายเพิ่มเติมสักเล็กน้อย (แต่บางคนก็ซ้ำกับบลอกนั้นล่ะค่ะ เพราะพวกเขาโดดเด่นขนาดนั้น)

วิธีการที่นักเขียนโรแมนซ์ใช้เป็นส่วนใหญ่ในการเขียนให้ตัวละครที่ออกจะร้าย สักหน่อยกลายร่างเป็นพระเอกก็คือ การเขียนเรื่องต่อเนื่อง ตัวละครตัวนึงอาจจะเป็นตัวร้ายในเล่มแรก ก่อนที่จะกลายเป็นพระเอกในเล่มต่อมา นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ใหม่เลยค่ะ นักเขียนหลายคนทำเช่นนั้น และได้ผล

นั่นก็เพราะว่า ตัวร้ายมักจะเป็นที่จดจำของคนอ่าน ยิ่งตัวร้ายที่ไม่ได้มีลักษณะของ "เกิดมาเลว" และเป็นคนที่มีเสน่ห์ในตัวเอง ก็ยิ่งเป็นตัวร้ายที่ได้ใจคนอ่าน สำหรับแม็กซ์แล้ว วิธีการนี้จะได้ผลก็ต่อเมื่อ คนแต่งไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวตนของคนคนนั้น ในท้ายทีสุดพวกเขาอาจจะเป็นตัวเอก อาจจะเป็นคนที่ดีขึ้น แต่ความเป็นเขาจะต้องเหมือนเดิม แม็กซ์ไม่ต้องการตัวเอกแนวผู้เคร่งศาสนาเกิดใหม่หรอกนะคะ เราต้องการด้านมืดที่เคยจับใจเรานั้นอยู่ค่ะ

แม็กซ์จึงขอโอกาสนี้พูดถึงหนังสือที่ตัวละครที่เคยเป็นตัวร้าย กลายร่างเป็นตัวเอกแล้วกันค่ะ

เซบาสเตียน เซ็นต์วินเซ็นต์ จาก Devil in Winter ของลิซ่า เคลย์แพส

บอกตามตรงนะคะ แม็กซ์ไม่ค่อยจะ "เชื่อ" ความเป็นตัวร้ายของเซบาสเตียนใน It happened one autumn เท่าไหรนัก เราคิดเสมอว่า เซบาสเตียนไม่มีเหตุผลอะไรเลยในการลักพาตัวลิเลียนไป นอกจากลิซ่า ต้องการให้เขาดูเป็นตัวละครที่เลวร้าย เพื่อที่เธอจะได้โชว์ให้คนอ่านเห็นว่า เมื่อเขาเป็นพระเอกแล้ว มันจะน่าสนใจขนาดไหน

แต่แม้แม็กซ์จะไม่เชื่อในพฤติกรรมที่เลวร้ายของเขา แต่แม็กซ์เชื่อหมดใจกับเรื่องราวของเขาใน DIW จะมีพระเอกคนไหนที่ได้ใจแม็กซ์ไปเท่ากับเขาอีกแล้ว ชายเสเพลที่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพียงเพราะความรัก ที่สำคัญแม็กซ์เชื่อในการเปลี่ยนแปลงนัก มันสมจริง แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้ความเจ้าเล่ห์ของเขาเลือนหายไปเลย

อิสเมล หรือเคาท์แห่งเอสมอนด์ จาก Captives of the Night ของลอเร็ตต้า เชส

อิสเมลเป็นพระเอกที่กลายร่างจากผู้ร้ายคนแรกที่แม็กซ์อ่าน และรักแรกก็เหมือนกันกับทุกคน มันยากที่จะเลือนหายไปจากใจ ก่อนหน้านั้นเรามักพบเจอแต่กับตัวละครที่มีมิติเดียว พระเอกที่อาจเคยทำผิดพลาดมาในอดีต แต่ความผิดนั้นก็เกิดจากความไม่ตั้งใจ ขาดเจตนา แต่มันไม่ใ่ช่สำหรับอิสเมล ใน The Lion's Daughter เขาคือน้องชายของสุลต่านที่ทำทุกอย่างเพื่อแย่งบัลลังค์ของพี่ชาย ไม่สำคัญว่าใครจะอยู่ในเส้นทางของเขา นั่นเป็นชีวิตที่อิสเมลรู้ัจักเพียงอย่างเดียว การได้มาซึ่งอำนาจคือการอยู่รอดในราชสำนักอันแสนอันตราย อิสเมลอาจจะใช้ข้ออ้างของความเป็นเด็ก (ยังไม่ถึงยี่สิบ) แต่เขาก็คือตัวการที่ทำให้พ่อของเลย์ล่าเสียชีวิต แม้เขาจะไม่ได้ลงมือ แต่ชีวิตของเลย์ล่าก็พินาศเพราะความไม่ยั้งคิดของเขา

ใน Captives of the night อิสเมลเติบโตขึ้น และเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต แม็กซ์อาจพูดได้ไม่เต็มปากว่าเขายังรักษาด้านมืดของตัวเองเอาไว้นะคะ เพราะเขากลายเป็นผู้ชายที่ดีขึ้น แต่เส้นทางของการเรียนรู้ในการเป็นมนุษย์ที่ดีขึ้นมันก็น่าเชื่อและสมจริง ไม่ใช่การเปลี่ยนเป็นคนดีชนิดชั่วข้ามคืน เพียงเพราะคนแต่งจะให้เขาเป็นพระเอกในเล่มต่อไป

นิโคลัส คารุทชี่ จาก Knight Errant ของมาริลีน แพพพาโน่

แม็กซ์ลังเลระหว่างเอธาน จาก Rogue's Reform กับนิคค่ะ เพราะเรามักเปรียบเทียบตัวละครสองตัวนี้เสมอว่าอาจจะเป็นคาแร็คเตอร์ที่ดี ที่สุดที่มาริลีนเคยเขียน ทั้งสองมีความเหมือนกันตรงที่เป็นตัวร้ายในเล่มก่อนหน้า และเหมือนกันตรงที่ทั้งคู่ต้องไถ่บาปกับการกระทำของตัวเอง สุดท้ายแล้วแม็กซ์เลือกนิค แม้ว่าคาแร็คเตอร์ของเอธานจะดูน่าสนใจกว่า เพราะในความร้ายของเขา มันไม่ได้มีแรงผลักดันอย่างที่นิคได้รับ เอธานเป็นผู้ชายที่เลือกทางออกที่ง่าย แม้มันจะหมายถึงการโกหก และหลอกลวง เขาเลือกที่จะขายที่ดินทั้งที่ตัวเองไม่มีสิทธิให้กับแม่หม้ายลูกสองที่ฐานะ ไม่ได้ร่ำรวยไปกว่าเขา การกระทำของเอธานเลวร้ายกว่าที่นิค (ที่ทุกอย่างที่เลวร้ายแล้วเขาทำไปก็เพื่อการแก้แค้น)

เหตุผลเดียวที่เลือกนิค เพราะเราชอบเรื่อง Knight Errant มากกว่า ง่าย ๆ แค่นั้นเอง

อิลย่า พลาเคนสกี้ จาก Turbulent Sea ของคริสตีน ฟีแฮน

เช่นกันนะคะ อิลย่าไม่ถึงกับเข้าข่ายเป็นตัวร้ายในเล่มก่อนหน้า เพราะดูเหมือนว่าคนแต่งจะคิดมานานแล้วว่าจะให้เขาเป็นพระเอกในเล่มถัดไป แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้หรอกนะคะว่า พฤติกรรมหลายอย่างของเขาไม่ใช่สิ่งที่มีเกียรติและคาดหวังให้พระเอกกระทำเลย

อิลย่าเป็นตัวละครที่มีด้านมืดที่เด่นชัด มากขนาดที่แม็กซ์รู้สึกว่า ถ้าเขาไม่ได้ปักใจให้กับโจลี่ย์ (นางเอก) เขาก้ออาจจะไม่มีวันเดินออกมาจากความมืดได้แน่

จะสังเกตเห็นว่า ทั้งหมดเป็นพระเอก แม็กซ์คิดว่ามันเป็นความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันระหว่างคนอ่านที่เป็นผู้หญิง มีแนวโน้มที่จะให้อภัยพระเอกที่เคยร้ายมาก่อนได้มากกว่า นางเอกที่เคยร้าย อาจเพราะเรามีความอดทนต่อข้อเสียของคนเพศเดียวกันได้น้อยกว่า ทำให้การกลายสภาพของอดีตนางร้ายเป็นนางเอกจึงเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ น้อยมาก (โดยเฉพาะในโลกโรแมนซ์)

นอกจากนี้แล้วยังมีตัวเอกอีกประเภทที่ดูพฤติกรรมในเรื่องแล้ว ไม่สมจะเป็นพระเอกนางเอก (ในโรแมนซ์ เราคิดว่าเรื่องแนวอื่นมีความทนทานต่อคาแร็คเตอร์ที่ข้ามเส้นเหล่านี้ได้ อย่างไม่มีปัญหา) เอาเสียเลย แต่พวกเขาก็เป็น และสำหรับแม็กซ์ ตัวละครเหล่านี้แหละที่ทำให้ประสบการณ์การอ่านโรแมนซ์มีค่า เพราะขนาดคนที่ไม่ใช่คนดีที่สุด พวกเขาก็ยังได้พบกับความสมหวัง (และมันให้กำลังใจอย่างยิ่งสำหรับคนที่ "ร้าย" อย่างแม็กซ์ว่า สักวันเราก็คงจะเจอกะเขาบ้างนะ)

วิเวียน สวิฟ จาก Heart of Deception ของไทเลอร์ เชส

ไทเลอร์ เชสเป็นนักเขียนที่มีพรสวรรค์ และกล้าหาญเกินกว่าจะอยู่รอดในโลกของโรแมนซ์ ซึ่งหมายความว่า ปัจจุับันเธอเลิกเขียนนิยายไปแล้วค่ะ เรื่องราวของเธอมีด้านมืดที่อาจจะมากเกินกว่าที่นักอ่านโรแมนซ์ส่วนใหญ่จะ ยอมรับได้ และกระทั่งกับตัวเราเองที่คิดว่ามีความทนทานไม่น้อยแล้วนะคะ เรายังรับไม่ได้กับบางเรื่องของเธอ แต่ไม่ใช่สำหรับเล่มนี้ ซึ่งถ้าพูดตามตรง มันเป็นเรื่องที่เป็นสูตรสำเร็จที่สุดแล้วค่ะ

วิเวียน สวิฟเป็นเ้จ้าของโลกใต้ดินแห่งลอนดอน เธอและพี่ชายเป็นเจ้าพ่อและเจ้าแม่อาชญากรรมผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคอลิซา เบ็ธที่หนึ่ง กิจการผิดกฎหมายทั้งปวงอยู่ภายใต้อุ้งเท้าของสองพี่น้อง และทางเดียวที่จะเข้าถึงอาณาจักรใต้ดินอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ก็คือ การปลอมตัวเข้าไปเป็นคนรักของวิเวียน และนั่นเป็นหน้าที่ของเรฟ สายลับเบอร์หนึ่งแห่งราชสำนัก เรื่องราวแห่งการหลอกลวง และความรักในเวลาที่ไม่มีใครคาดคิด เรื่องราวที่นำด้านมืดที่สุดของตัวละครมาให้คนอ่านค้นพบ และยังรู้สึกว่าคุณเข้าใจพวกเขา

วิเวียนเป็นคาแร็คเตอร์ชนิดที่แทบจะหาไม่ได้ในโรแมนซ์ เธอไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ ไม่ไร้เดียงสา และเป็นคนเลือกเรฟเป็นชู้ัรัก แทนที่จะให้พระเอกเป็นฝ่ายเลือกเหมือนสูตรสำเ็ร็จของโรแมนซ์ทั่วไป เป็นอาชญากรผู้เหี้ยมโหดได้ถ้าจำเป็น ในขณะเดียวกันก็มีอดีตอันปวดร้าวซึ่งเป็นแรงผลักดันความเป็นไปในปัจจุบัน

ตอนจบของหนังสือเรื่องนี้เป็นสูตรไปสักนิดค่ะ ซึ่งผิดคาดมากสำหรับแม็กซ์ที่เคยอ่านงานเล่มอื่นของไทเลอร์มาก่อน แต่อาจเพราะตอนจบที่แสนจะแฮ็ปปี้เกินเหตุแบบนี้ก็ได้มั้งคะ ที่ทำให้เรารักเรื่องนี้มาก

เอเดียน จาก Uncommon Vows ของแมรี่ โจ พุธเน่ย์

สำหรับลูกชายคนเล็กผู้ซึ่งใช้ชีวิตเกือบทั้งชีวิตในวัด เพื่อเตรียมตัวบวชเป็นพระ ข่าวการตายของคนทั้งครอบครัวย่อมไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดว่าจะได้รับในคืนวัน คริสต์มาส แต่ที่มากกว่านั้น เอเดียนพบว่าเขาคือทายาทคนสุดท้ายของตระกูลที่รอดชีวิต และอัศวินทุกคนที่มีชีวิตรอดจากการเข่นฆ่าคาดหวังให้เขาเป็นผู้นำ

จากชีวิตที่เรียบง่ายและถูกต้องดีงาม เอเดียนต้องเลือกชีวิตแห่งการต่อสู้และเอาชีวิต และในที่สุดมันก็กัดกินไปถึงดวงวิญญาณของเขา เมื่อเขาได้พบกับมิวเรียล หญิงสาวที่เขาบอกกับตัวเองว่า จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาครอบครอง และมันไม่สำคัญเลยว่าเธอจะยินยอมหรือไม่

อันที่จริงพฤติกรรมของเอเดียนไม่ได้ต่างจากพระเอกโรแมนซ์ยุคอัศวินส่วนใหญ่ เลย พวกนี้เห็นนางเอกก็ต้องการนางเอก จากนั้นก็บังคับหรือข่มขู่ให้ได้นางเอกมา สิ่งที่เอเดียนแตกต่างออกไปก็คือ เขามีการสำนึกผิด และไถ่โทษ และนั่นทำให้หนังสือเรื่องนี้โดดเด่นในความทรงจำของเรา เพราะโรแมนซ์ที่เราคุ้นเคยกัน พระเอกไม่เคยสำนึกผิด เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าการกระทำของพวกเขาเป็นความผิด และเช่นเดียวกันเหล่านางเอกไร้กระดูกสันหลังก็เห็นตามว่า การที่พระเอกลักพาตัวพวกเธอมา เป็นเพราะความรัก ทั้งที่ความรักไม่เกี่ยวอะไรกันเลย

สุดท้ายแม็กซ์อยากจะบอกว่า โรแมนซ์ในด้านมืด ที่ซึ่งอาจจะแยกพระเอกกับผู้ร้ายไม่ออก เป็นความน่าสนใจชนิดที่แม็กซ์ปฏิเสธไม่ออก ก็เลยอยากทิ้งคำถามเพื่อน ๆ กันว่า มีตัวร้ายที่รักกันบ้างไหมคะ ไม่ว่าจะเป็นตัวร้ายรีไซเคิลที่กลายเป็นพระเอกไปแล้ว หรือว่าตัวร้ายที่ร้ายจริงร้ายจัง

No comments: