เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศการแจกรางวัลออสการ์ แม็กซ์ขอออกนอกเรื่องหนังสือไปยังภาพยนตร์บ้างนะคะ แต่เนื่องจากยังไม่ได้ดูหนังทั้งห้าเรื่องที่เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอด เยี่ยมเลยสักเรื่อง (ยกเว้นเรื่อง Slumdog Millionaire) แถมยังไม่อยากดูอีกต่างหาก (เพราะรู้ว่าหลายเรื่องจบแบบชีวิตเศร้า) เราเลยถือโอกาส (ซึ่งไม่ค่อยจะเกี่ยวกันเท่าไหร) พูดถึงภาพยนตร์ห้าเรื่องที่แม็กซ์ชอบมากที่สุด
ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่า มันไม่ใช่ภาพยนตร์ระดับคลาสิคที่จะทำให้นักวิจารณ์น้ำลายไหล เห็นว่าแม็กซ์เป็นคนที่มีวัฒนธรรมสูงส่งมากมาย ส่วนใหญ่เป็นหนังคอมเมอร์เชียลที่หลายคนดูแล้วก็ผ่านเลย แต่มันมีบางอย่างที่อยู่ในใจแม็กซ์จนถึงทุกวันนี้
นี่เป็นห้าเรื่องที่เรานั่งดูซ้ำแล้วซ้ำอีกได้หลายรอบโดยที่ไม่เบื่อ
The Chronicles of Riddick (2004)
หนังภาคต่อของเรื่อง Pitch Black (ที่แม็กซ์ชอบไม่น้อยเลยล่ะ) แนวไซไฟ เรื่องราวแห่งโลกอนาคตที่การเอาชนะคนเลวที่สุดในจักรวาลก็คือการหาคนเลวกว่า มากำจัดเขา
หนังสือเรื่องล้มเหลวทั้งในด้านคำวิจารณ์และรายไ้ด้ ถือว่าเป็นเรื่องที่แทบทำให้วิน ดีเซลซึ่งเล่นเป็นริดดิค ตัวละครเอกในเรื่องแทบหมดอนาคตไปเลย (แม็กซ์ไม่แน่ใจว่า เขากลับมาได้รึยังด้วยซ้ำ) หนังที่อาจจะลงทุนสูงเกินไป การแสดงที่เหมือนหุ่นยนต์ของวิน ดีเซลก็ไม่ได้ช่วยทำให้หนังมันดีขึ้นมาเลยสักนิดเดียว
แต่แม็กซ์รักหนังเรื่องนี้ รักมาก ชนิดที่ถ้าเปิดผ่าน ๆ แล้วเจอฉายในยูบีซีก็ต้องหยุดดูจนจบเรื่อง ไม่นับดีวีดีของแท้ของเรื่องนี้ที่ซื้อมาเก็บสะสมเอาไว้ แม็กซ์ไม่ได้เห็นแตกต่างไปจากนักวิจารณ์หรอกนะคะ วิน ดีเซลเล่นหนังเรื่องนี้ได้ห่วยจริง แต่แม็กซ์ชอบบุคลิคของริดดิค ชอบเนื้อเรื่อง ชอบไอเดียที่ว่า บางครั้งในการกำจัดคนชั่ว คุณไม่สามารถเอาคนดีมาต่อสู้กับความเลวได้ และริดดิคก็ไม่ใช่คนดีเลย
The Talented Mr. Ripley (1999)
นี่เป็นหนังอีกเรื่องที่ตอบสนองด้านมืดของแม็กซ์ ภาพยนตร์ที่นำเสนอด้านที่เลวร้ายที่สุดของตัวเอก ทอม ริปลีย์เป็นชายที่ไม่เคยพอใจในตัวตนของตัวเอง เขาเริ่มต้นด้วยการหลอกลวงเล็ก ๆ ก่อนจะพบว่า เขาหลงติดกับดับคำโกหกของตัวเอง ซึ่งนำไปสู่การฆาตกรรม
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากหนังสือชุดที่แม็กซ์รักมากที่สุดชุดนึง เรื่องราวของจอมโกหก หลอกลวง และฆาตกรอันตรายอย่างริปลี่ย์ ที่เขียนโดยแพทริเซีย ไฮท์สมิท เรื่องนี้คือจุดเริ่มต้นของชีวิตจอมปลอม เมื่อทอม ริปลี่ย์ถูกเข้าใจว่าเป็นนักศึกษาร่วมมหาวิทยาลัยกับลูกชายเศรษฐีผู้ร่ำรวย เขารับสมอ้างพร้อมกับให้คำสัญญาว่าจะเดินทางไปอิตาลีเพื่อตามตัวชายผู้นั้น กลับบ้านเสียที
ทุกอย่างมันเลยเถิดเกินกว่าที่ริปลี่ย์จะคาดคิด คำโกหกที่สุดท้ายเขาต้องฆ่าเพื่อปกป้องความจริงจากการเปิดเผย
Secretary (2002)
แม็กซ์ไม่อยากจะเรียกว่าเรื่องนี้เป็นหนังแนว BDSM นะคะ แม้ว่าเนื้อเรื่องจะพูดถึงเรื่องนั้นก็ตาม เรามองว่ามันเป็นเรื่องราวความรักของคนสองคนที่มีความแตกต่าง
ลี หญิงสาวที่เพิ่งถูกปล่อยออกจากโรงพยาบาลโรคจิต มีปัญหาในการชอบกรีดเนื้อตัวเอง ได้มีเข้าไปทำงานเป็นเลขานุการให้กับเอ็ดเวิร์ด ทนายความหนุ่มผู้รักสันโดษ และมีรสนิยมบางอย่างที่อาจจะเกินขอบเขตความยอมรับได้ของสังคม แต่เขาคือคนที่เหมาะสมกับลีมากที่สุด
The Shawshank Redemption (1994)
นี่เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่แม็กซ์รักมาก ๆ เรื่องราวที่ตอบสนองความต้องการในหนังทุกอย่างของเรา เรื่องราวที่ให้ความหวัง และมีทริคเล็ก ๆ ไว้หรอกคนดู เรื่องราวของนายธนาคารผู้ต้องเข้าคุก เมื่อถูกกล่าวหาว่า ฆาตกรรมภรรยาและชู้ของเธอ เขาใช้ชีวิตที่เหลือในคุก สถานที่ที่เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะต้องเข้าไปอยู่ สถานที่ทีทุกคนล้วนพูดว่า ตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์
เรื่องนี้เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกดีดีกับชีวิตค่ะ (อาจจะว่าเราแปลกก็ได้นะคะ) โดยเฉพาะฉากที่สุดท้ายแล้ว ทุกคนก็ได้รับผลกรรมจากการกระทำของตัวเอง
Grosse Pointe Blank (1997)
หนังอีกเรื่องที่ตอบสนองด้านมืดของเรา เรื่องราวของมาร์ติน แบงค์ นักฆ่ามืออาชีพที่เดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อร่วมงานเลี้ยงสมัยมัธยม ที่ซึ่งเขาได้พบกับรักเก่า ศัตรูใหม่ที่ตามล่า และตามหาเป้าหมายที่เขาต้องเอาชีวิต
เรื่องนี้เป็นตลกร้ายที่โดนใจแม็กซ์อย่างแรง หนังที่อาจจะไม่ใช่สำหรับทุกคน แต่มันเป็นเรื่องที่เราชอบมาก ๆ
แม็กซ์เขียนบลอกนี้ไปพร้อมกับรอลุ้นผลออสการ์ไปค่ะ เดี๋ยวตอนบ่ายจะมาอัพเดทรีวิวหนังสือกันค่ะ
No comments:
Post a Comment