Sunday, March 22, 2009

The Sherbrooke Bride // Catherine Coulter

สารภาพแต่โดยดีค่ะว่า ตั้งแต่กลับจากสิงคโปร์มานี่ยังอ่านหนังสือไม่จบเป็นเรื่องเป็นราวเลยสัก เล่ม รีวิววัีนนี้เลยเป็นการขุดกรุของเก่ามาเขียนให้อ่านกัน คิดอยู่นานนะคะว่าจะเลือกเอาเรื่องไหนมาเขียนดี ก่อนที่จะลงตัวเป็นเล่มนี้ เพราะเรื่องนี้เป็นหนังสือที่แม็กซ์ไม่น่าจะชอบ แต่ด้วยอะไรบางอย่างกลับทำให้มันกลายเป็นหนังสือที่เราชอบมากที่สุดเล่มนึง ไปเลย

The Sherbrooke Bride ของแคทเธอรีน คูลเตอร์

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกในชุด Bride ที่แรกเริ่มเดิมทีคนแต่งตั้งใจจะเขียนเป็นเพียงแค่ไตรภาค แต่ด้วยความฮิตติดอันดับ หนังสือชุดนี้จึงถูกขยายออกมา จนเบ็ดเสร็จตอนนี้มีสิบเล่มแล้วค่ะ (เล่มที่สิบเอ็ดกำลังจะออกภายในปีนี้ปีหน้านี้แหละ)

เรื่องราวการแต่งงานเพื่อความสะดวกระหว่างท่านเอิร์ลหนุ่มผู้งานยุ่งเสียจน ไม่มีเวลาไปรับเจ้าสาวมาด้วยตัวเอง กับลูกเป็ดขี้เหร่น้องสาวของหญิงที่ได้ชื่อว่า งามที่สุดในเกาะอังกฤษ

ดักกลาส เชอร์บรูค ท่านเอิร์ลแห่งนอร์ธคริฟฟ์ผู้เพียบพร้อมไปด้วยทุกอย่าง เขาเป็นหัวหน้าครอบครัวผู้รับผิดชอบ และรู้ดีว่า เขาจำเป็นจะต้องมีทายาทไว้สืบทอดบรรดาศักดิ์ และด้วยฐานะที่ร่ำรวย และทรงอิทธิพล เขาก็รู้อีกเช่นกันว่า เขาสามารถได้หญิงคนไหนมาครอบครองก็ได้ และดักกลาสก็เลือกเมลิแซนด์ แชมเบอร์ บุตรสาวคนโตของดยุคแห่งแบริสฟอร์ดผู้งดงาม ความผิดพลาดเดียวของดักกลาสก็คือ เขาส่งให้โทนี่ญาติสนิทเดินทางไปรับเจ้าสาวมาให้เขา เพราะดักกลาสติดภารกิจต้องไปฝรั่งเศสเพื่องานสายลับอันเป็นหนึ่งในงานที่เขา ทำให้กระทรวงการต่างประเทศ

ซึ่งเมื่อเขากลับมา ก็ได้พบว่า แทนที่จะเป็นเมลิแซนด์สุดสวยรอเขาอยู่ที่บ้าน กลับกลายเป็นอเล็กซานดร้า แชมเบอร์น้องสาวที่งามไม่เท่าเทียมพี่สาวเลยอยู่แทน แถมยังเล่าเรื่องที่ไม่น่าเชื่ออีกว่า โทนี่แอบตีท้ายครัวและพาเมลิแซนด์หนีไปแต่งงานเรียบร้อยแล้ว ไม่พอ โทนี่ยังหวังดีช่วยดักกลาสหาตัวเจ้าสาวมาแทนคนที่ตัวเองแย่งไปเรียบร้อย นั่นก็คืออเล็กซานดร้านั่นเอง

และแม้ดักกลาสจะบอกตัวเองว่า อเล็กซานดร้าไม่มีอะไรเทียบเท่าพี่สาวของเธอได้เลย เขา็ก็จำใจต้องยอมรับกับสถานการณ์ โดยเฉพาะเมื่อเขาห้ามใจตัวเองไม่อยู่ เผลอไปมีความสัมพันธ์กับเจ้าสาวของตัวเองเข้าให้ซะอีก

หนังสือเรื่องนี้เกือบจะทั้งเล่มเป็นการล้อเลียนดักกลาสที่ ทรนงตัวเสมอในความเยือกเย็น และการควบคุมตัวเองของเขา เขาได้ชื่อว่าเป็นชายไร้หัวใจ ไร้ความรู้สึก แต่นั่นไม่เป็นความจริงเลยเมื่อเขาได้อยู่กับอเล็กซานดร้า แม็กซ์ชอบทุกครั้งที่ชายหนุ่มผู้ปากก็พูดปาว ๆ ว่า ตัวเองแข็งแกร่งเยือกเย็น ออกอาการดีแตกเพราะสาวน้อยที่เขาเองไม่ยอมรับด้วยซ้ำว่ารัก

องค์ประกอบทุกอย่างในเรื่องนี้ แม้แต่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ นำพาคนอ่านให้เข้าใจถึงความปั่นป่วนที่อเล็กซานดร้านำมาสู่ชีวิตของดักกลาส เธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่เขาคิดว่าตัวเองต้องการ แต่เธอคือทุกอย่างที่เขาต้องการ

เธอเป็นหญิงสาวที่ทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ จากชายที่เคยภูมิใจในความสามารถทางเพศของตัวเอง ดักกลาสกลายเป็นเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งเริ่มมีเซ็กส์เมื่ออยู่กับเธอ (นี่เป็นฉากที่อ่านแล้วฮาที่สุดฉากนึงเลยทีเดียว) ดักกลาสไม่เคยเข้าใจว่า เหตุใดเขาจึงควบคุมตัวเองไม่ได้ จนกระทั่ง (สปอยล์) เขา ยอมรับกับตัวเองแล้วว่า รักอเล็กซานดร้า เขาจึงสามารถทำทุกอย่างกับเธอ (บนเตียง) ได้อย่างที่ตั้งใจ โดยไม่สูญเสียความควบคุมตัวเองไปเสียก่อน

ปกติแม็กซ์จะไม่ชอบพล็อตเรื่องที่นางเอกแอบรักพระเอกเป็นเวลานาน โดยเฉพาะถ้าพระเอกทำตัวไม่น่ารักนะคะ แต่ในเล่มนี้ซึ่งใช้พล็อตแบบเดียวกันที่อเล็กซานดร้าแอบรักดักกลาสมาตั้งแต่ เด็ก กลับค่อนข้างเวิร์คสำหรับเรา ส่วนหนึ่งเพราะแม้จะรู้ว่ารัก เธอก็มีสติพอที่จะไม่เอาคำว่ารักเป็นเหตุผลอธิบายการกระทำเห่ย ๆ ของดักกลาส โดยเฉพาะเมื่อเขาทำเสมือนไม่เห็นคุณค่าในตัวเธอ เธอกล้ายืนหยัดเพื่อตัวเองได้ และเป็นคู่ที่เหมาะสมกับเขาอย่างยิ่ง

พล็อตเรื่องเล่มนี้เป็นโรแมนซ์แบบไม่ต้องคิดมากนะคะ ชายและหญิงที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะสมกันเท่าไหรถูกจับให้มาแต่งงานกัน อย่างไม่เต็มใจนัก (อย่างน้อยดักกลาสก็ไม่เต็มใจ) ก่อนที่จะเรียนรู้ว่า แท้จริงแล้วทั้งสองเหมาะสมต่อกันและกันมาเพียงใด แต่เล่มนี้เป็นหนังสือที่เรารู้สึกว่ามีครบทุกรสนะคะ ทั้งฮาไปกับพฤติกรรมของดักกลาสที่ไม่เข้าใจตัวเองเสียเลยว่าทำไมถึงควบคุม ตัวเองกับอเล็กซานดร้าไม่ได้ แต่ในเล่มก็มีฉากซึ้ง ๆให้อ่านกันด้วยนะคะ (สปอยล์)ฉาก ที่เราชอบมาเมื่ออเล็กซานดร้าดั้นด้นพยายามเรียนภาษาฝรั่งเศส และดักกลาสเสนอตัวมาสอนให้ก่อนที่จะลงเอยด้วยการที่เขาบอกรักเธอด้วยภาษา ฝรั่งเศส แต่เธอก็กลับไม่เข้าใจ

ไม่รู้นะคะว่าเป็นเพราะเรื่องนี้เป็นโรแมนซ์เรื่องแรก ๆ ที่แม็กซ์อ่านรึเปล่า มันถึงอยู่ในความทรงจำมากขนาดนี้ แต่เล่มนี้ก็เป็นหนังสือไม่กี่เล่มที่เราหยิบมาอ่านหลายรอบมาก และความชอบก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมทุกครั้ง แม็กซ์ชอบขนาดเอาฉบับภาษาไทยมาอ่านด้วยนะ (และคิดว่าแปลได้ดีเลยล่ะค่ะป

คะแนนที่ 97

No comments: