จีน่า โชว์วอลเตอร์เป็นนักเขียนที่แม็กซ์ติดตามอ่านมานานแล้วล่ะค่ะ ตั้งแต่เล่มแรกที่เธอเขียนจนถึงเล่มล่าสุด หลายครั้งเรารู้สึกว่า เธอเขียนเกือบจะดีแล้วล่ะ แต่ก็มักมีบางอย่างในเนื้อเรื่องทำให้เราละความสนใจในเนื้อเรื่องไปก่อนที่ จะจบทุกครั้ง แต่ก็ต้องยกให้นะคะว่า จีน่าเป็นคนที่เขียนเปิดเรื่องได้ดีที่สุดคนนึง
จนกระทั่งเมื่อปีก่อนที่แม็กซ์เริ่มต้นอ่านชุด The Lords of the underworld (โดยเฉพาะเรื่อง The Darkest Kiss และ The Darkness Pleasure) ที่เรารู้สึกว่า เธอมาถึงจุดที่เธอควรจะเป็นเสียที ถึงความสามารถที่เธอมี
ดังนั้นในปีนี้ที่เธอออกหนังสือเล่มล่าสุด แุถมยังเป็นเรื่องราวของตัวละครที่แม็กซ์อยากอ่านมากที่สุดคนนึงในหน้านิยาย มันจึงเป็นสิ่งที่เราพลาดไม่ได้
The Vampire's Bride ของจีน่า โชว์วอลเตอร์
หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่สี่ในชุดแอตแลนติส ซึ่งไม่ใช่ดินแดนในตำนานอย่างที่พวกเราส่วนใหญ่เข้าใจ เพราะแอตแลนติสแม้จะเป็นดินแดนที่จมลงไปสู้ใต้ทะเล แต่มันไม่ใช่ที่อยู่ของเหล่ามนุษย์ แอตแลนติสเป็นที่ที่เหล่าพระเจ้า (ตามตำนานกรีกโรมันโบราณ ไม่ใช่พระเจ้าตามศาสนา) นำความผิดพลาดในอดีตของพวกเขามาซุกซ่อนไว้ นั่นเพราะว่าก่อนที่พวกเขาจะสร้างมนุษย์สำเร็จ พวกเขาทดลองสร้างสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ มากมายที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นเดม่อน, แวมไพร์, มังกร, และสิ่งมีชีวิตตามตำนานทั้งหลายมนุษย์เชื่อว่าไม่มีจริง
พวกนี้มีจริง และอาศัยอยู่ในแอตแลนติสซึ่งจมอยู่ใต้ทะเล พระเจ้าผู้สร้างพวกเขาทอดทิ้งพวกเขาไป ปล่อยให้อยู่กันตามลำพัง
เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของตัวละครที่แม็กซ์คิดว่าน่าสนใจมากที่สุดในชุด สองเล่มแรกในชุด (Heart of the dragon และ Jewel of Atlantis) จีน่าพูดถึงตัวละคร "ฝ่ายดี" นั่นก็คือมังกร พวกเขาต้องรับภาระในการเฝ้าประตูที่เชื่อมระหว่างแอตแลนติสและโลกมนุษย์ ในทั้งสองเล่มตัวร้ายก็คือ ฝ่ายนิมและแวมไพร์ แต่จะเป็นแวมไพร์มากกว่าที่โชว์ความร้ายกาจ ดังนั้นเมื่อเล่มสาม (The Nymph King) จับเอาราชาแห่งนิมมาเป็นพระเอก มันจึงไม่ได้เป็นเรื่องยากเย็นอะไรนัก แต่เมื่อมาถึงเล่มนี้ เป็นคราวของเลย์เอล ราชาแห่งแวมไพร์
คนที่อ่านสามเล่มแรกก็จะรู้ว่าเลย์เอลไม่ใช่คนร้ายที่ถูกเข้าใจผิด เขาร้าย และเป็นศัตรูของมังกรอย่างแท้จริง แต่ก็มีบางอย่างในตัวเขาที่ดึงดูดให้แม็กซ์คิดว่าเขาเป็นตัวละครที่น่าสนใจ มาก ความจริงก็คือ เขาน่าสนใจที่สุด
เคยไหมล่ะคะที่คุณอ่านนิยายเล่มนึง แต่มองหาตัวร้ายให้ออกมามีบทเสียที เขาน่าสนใจว่าดาเรียส พระเอกที่เป็นมังกรในเล่มแรก เขาน่าสนใจว่าวาเลอเรียนพระเอกเล่มสาม และแน่นอนว่าเขาน่าสนใจกว่าเกรย์ มนุษย์ที่บุกลงไปในแอตแลนติสเพื่อค้นหาสมบัติอันล้ำค่าที่สุดแห่งแอตแลนติส
เพราะอะไรเหรอคะ
นั่นเพราะเลย์เอลมีมิติ เขาไม่ใช่มังกรที่วันทั้งวันพูดแต่เรื่องเกียรติยศ (และทำตัวห่วยแตก) เลย์เอลเจ้าเล่ห์ และร้ายกาจ ชนิดที่ได้ใจแม็กซ์เต็ม ๆ (และขอใบ้ว่า คนที่ชอบพระเอกแนวแอน สจ๊วต น่าจะรักเขามากอย่างที่แม็กซ์รัก)
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงสิ่งที่เลย์เอลเป็น ไม่ได้ทำให้การกระทำของเลย์เอลดูเป็นสิ่งที่ดีขึ้นมา แต่มันให้เหตุผลว่า อะไรทำให้เลย์เอลกลายเป็นคนเช่นนี้
เลย์เอลเริ่มต้นด้วยการเป็นพระเอกในนิยายโรแมนซ์ทั่วไป เขาเป็นคนที่มีเกียรติและรักครอบครัว ซูซานซึ่งเป็นคู่ชีวิตของเขากำัลังตั้งท้องลูกสาวคนแรก ตอนที่ทุกอย่างในชีวิตของเลย์เอลถูกแย่งชิงไปด้วยการกระทำที่โหดร้ายที่สุด เพราะเลย์เอลเป็นกษัตริย์แห่งแวมไพร์ เหล่ามังกรโทษเขาเป็นต้นเหตุที่ของพฤติกรรมอันเลวร้ายของแวมไพร์นอกรีต พวกนั้นบอกว่าเป็นความผิดของเลย์เอลที่ไม่ควบคุมแวมไพร์ให้อยู่ในแถว และลงโทษด้วยการข่มขืนและฆ่าซูซาน ทำลายศพของเธอต่อหน้าเลย์เอล และนั่นทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
เขามีชีวิตอยู่เพื่อการทำลายล้างมังกร ทุกการกระทำตลอดช่วงสองร้อยปีที่ผ่านมา ก็เพื่อทำล้ายมังกรให้หมดไปจากแอตแลนติส แม้ว่าพวกมังกรต้นเหตุที่ฆ่าซูซานจะถูกเขาลงโทษอย่างสาสมไปหมดแล้ว แต่ความเจ็บปวดก็ไม่อาจเลือนหายไปได้ เลย์เอลฆ่ามังกรต่อไป แม้ว่าพวกนั้นจะไม่ใช่คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ตาม ทำไมเขาต้องหยุดด้วยล่ะ ในเมื่อเขาเองก็ถูกลงโทษในการกระทำของคนอื่นเช่นกัน
"Hadn't he been blamed for the actions of others? It was only fair to use that same logic against the dragons."
ในศึกครั้งนึงที่เขาโจมตีเหล่ามังกรที่กำลังต่อสู้กับสาวอเมซอน (เพราะมังกรไปจับตัวทายาทแห่งบัลลังค์อเมซอนเอาไว้) เลย์เอลก็ได้พบกับผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้สึกบางอย่าง เธอชื่อเดไลล่าห์ และเธอคือทุกอย่างที่เป็นด้านตรงข้ามของซูซาน
เดไลล่าห์เป็นนักรบแห่งเผ่าอเมซอน กลุ่มนักรบสตรีตามตำนาน เธอเข้มแข็ง เก่งกาจ ก็ไม่ต้องการผู้ชายคนไหน แต่มีอะไรบางอย่างในตัวแวมไพร์ที่โอหังคนนี้ แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มต้นอะไรกัน ทั้งหมด (รวมทั้งมังกรที่ต่อสู้กันอยู่) ก็ถูกเคลื่อนย้ายด้วยพลังอำนาจบางอย่าง ไปยังเกาะแห่งหนึ่ง เพื่อเข้าร่วมเกมการแข่งขันของเหล่าเทพเจ้า
หลังจากที่ทอดทิ้งแอตแลนติสมานาน เหล่าเทพเจ้าจดจำผู้คนที่เขาลืมไปได้ แต่ปัญหาคือ ต่างคนก็อยากจะเป็นผู้ครอบครองแอตแลนติสเพียงหนึ่งเดียว และเนื่องจากสิ่งมีชีวิตในแอตแลนติสแต่ละกลุ่มมีลักษณะเด่นจากเทพเจ้าแต่ละ องค์ พวกเขาจึงท้าพนันกัน ถ้าชนชาติที่พวกเขาให้การสนับสนุนเป็นผู้ชนะในเกมการแข่งขัน เทพเจ้าองค์นั้นก็จะมีสิทธิกลับไปที่แอตแลนติสได้
นักรบผู้เก่งสุดของแต่ละชนชาติถูกเลือกมาอย่างละสองคน ทั้งเลย์เอล และเดไลล่าห์เป็นตัวแทนของชนชาติของเขาพวกเขา ในเกมที่พวกเขาไม่ได้เลือกที่จะเล่น แต่ก็ไม่มีทางเลือก โดยเฉพาะถ้าพวกเขาอยากมีชีวิตรอดกลับไปแอตแลนติส
ผู้เล่นทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็นสองทีม แต่เลย์เอลและเดไลล่าห์อยู่กันคนละทีม ซึ่งนั่นทำให้เรื่องยุ่งขึ้นไปอีก ทีมที่แพ้การแข่งขันในแต่ละครั้งจะต้องเลือกผู้เล่นคนนึงออกมาให้ถูกฆ่า นึกถึงรายการทีวีเซอร์ไวเวอร์น่ะค่ะ รูปแบบเหมือนกันเลย เพียงแต่คนที่ถูกคัดออกไม่ได้กลับบ้าน แต่จะเผชิญหน้ากับความตายเท่านั้นเอง
ความสัมพันธ์ระหว่างเลย์เอลและเดไลล่าห์น่าสับสน วินาทีนึงเลย์เอลไม่อาจเก็บความสนใจที่ตนเองมีต่อเธอได้ อีกวินาทีนึงเขาพยายามผลักไสเธอออกไป (เพราะรู้สึกผิดที่ปันใจให้หญิงอื่นนอกจากซูซาน) แต่เขาก็ไม่อาจขับไล่เธอได้นาน ทุกครั้งเขาก็จะกลับมาหาเธอ
แม็กซ์ชอบบทสนทนาในฉากนี้มากนะคะ เพราะคิดว่ามันบรรยายอาการของเลย์เอลได้ดีที่สุด
"You confuse me" she said softly
"I know. I confuse myself"
และที่สำคัญแม็กซ์เข้าใจความรู้สึกของเลย์เอลนะคะ เขาจมอยู่กับความรู้สึกผิดที่ปล่อยให้คนรักตายโดยไม่อาจช่วยเธอได้ เขามีชีวิตอยู่เพื่อการแก้แค้น แต่เวลาช่วยเยียวยาทุกอย่าง เลย์เอลได้พบกับหญิงสาวอีกคน คนที่ทำให้เขากลับมามีความรู้สึก เพียงแต่เขารู้สึกว่า เขาไม่สมควรมีความสุข ไม่ควรลืมเลือนคนรักคนแรก แต่ขณะเดียวกันเขาก็ไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองได้ เขาต้องการเดไลล่าห์ และไม่อาจอยู่ห่างจากเธอได้
แม้ว่าการที่อยู่ต่างทีม จะหมายความว่า หากเขาต้องการให้เดไลล่าห์มีชีวิตอยู่ต่อ และไม่เสี่ยงกับการถูกคัดออก เขาจะทำให้เพื่อนร่วมทีมเดียวกันแพ้การแข่งขัน
และเดไลล่าห์ เธอเป็นนางเอกที่เหมาะกับเลย์เอล หรืออย่างน้อยเลย์เอลที่เขากลายมาเป็นหลังจากสูญเสียซูซาน เธอชื่นชมความแข็งแกร่งและโหดเหี้ยมของเลย์เอล และคิดว่ามันเป็นลักษณะที่ดี ในฉากแรกที่เธอได้พบกับเลย์เอลระหว่างการรบ เมื่อเลย์เอลทำให้เธอล้มลงไปนอนกับพื้นได้เป็นครั้งแรก เธอไม่ได้โกรธที่เขาทำร้ายผู้หญิง แต่มันความประทับใจ เขาเอาชนะเธอที่เป็นนักรบอเมซอนได้ นั่นทำให้เขาเป็นผู้ชายที่คู่ควร
"That bastard! Delilah thought. That bloodsucking fiend. That black-hearted warrior. That ... man! He had no concscience, no sense of fairness. And she.. liked it. A sigh slipped from her, and she nearly melted to the ground in a boneless heap of feminine delight."
และความตรงไปตรงมาของเดไลล่าห์ก็เป็นส่วนต่อที่ดีกับความโลเลของเลย์เอล (ว่าเขาควรจะมีความสัมพันธ์กับเดไลล่าห์หรือไม่) เพราะทำให้เธอมองเห็นเจตนาที่แท้จริงของเลย์เอล ไม่ใช่แค่การกระทำ ตลอดทั้งเรื่อง ปากเลย์เอลบอกว่าเขาไม่ต้องการเธอ แต่เดไลล่าห์ก็มองออกว่า เขาปากไม่ตรงกับใจ
ปกติแม็กซ์จะไม่ชอบเรื่องที่พระเอกมีรักกับผู้หญิงอื่นมาก่อนเจอกับนาง เอกนะคะ เรามักรู้สึกว่า ทำให้นางเอกเป็นเบอร์สอง หรือเป็นตัวแทน แต่เล่มนี้เราพอจะเข้าใจว่าทำไมคนแต่งต้องทำ มันจำเป็นเพื่อที่จะเสนอด้านที่ถูกทรมานของเลย์เอลให้คนอ่านเห็น และอะไรจะทรมานพระเอกในโรแมนซ์ได้เท่ากับการเสียคนรัก
แต่เราคิดว่า คนแต่งแยกแยะได้ดีนะคะว่า เดไลล่าห์ไม่ใช่ัตัวแทนของซูซาน อันที่จริงเลย์เอลในอดีต คนที่รักซูซานไม่ใช่คนที่จะรักเดไลล่าห์ เธออาจจะแข็งกร้าวเกินไป เขาต้องการคนที่อ่อนโยน และไร้เดียงสาต่อโลกอย่างซูซาน และเช่นเดียวกัน คนที่เลย์เอลกลายมาเป็น คนที่ถูกไฟแห่งความแค้นแผดเผา คนที่ทำหลายอย่างที่ต้องเสียใจภายหลัง เขาไม่ใช่ผู้ชายคนเดิมที่ซูซานตกหลุมรัก และเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายของเธออีกต่อไป หากแต่เป็นเดไลล่าห์ต่างหากที่เหมาะสมกับเขา และแม้จะได้ซูซานกลับมา เลย์เอลก็พบว่าเขาเปลี่ยนแปลงไป (เพราะความสูญเสียซูซาน) จนซูซานไม่ใช่คนที่เขาต้องการอีก หากแต่เป็นเดไลล่าห์คนเดียวสำหรับเขา
อ่านรีวิวแล้วคนพอรู้นะคะว่าแม็กซ์รักตัวละครมากแค่ไหน แต่ปัญหาใหญ่สุดของเรากลับเป็นที่พล็อตค่ะ
เคยบ้างไหม ที่คุณชอบตัวละครมาก ๆ แต่พล็อตเรื่องห่วยแตก และเล่มนี้ก็เป็นยังงั้น แม็กซ์ไม่ชอบพล็อตเรื่องเลย ไม่ชอบจริง ๆ มันดูปัญญาอ่อนและไร้สาระ ไม่มีทิศทาง แม็กซ์อยากเห็นเลย์เอลและเดไลล่าห์ในพล็อตเรื่องในโลกแห่งแอตแลนติสมากกว่า ไมใช่การเป็นตัวแทนเทพเจ้าแข่งเกมบ้า ๆ นี่ มันเป็นการเอาตัวละครออกจากโลกแห่งความจริง (ของพวกเขา ซึ่งก็คือแอตแลนติส) มาอยู่ในสถานการณ์ปลอม ๆ ที่ดูไม่สมจริงเนี่ย
เสียดายตัวละครและความเป็นไปได้ที่ว่าเรื่องนี้จะสนุกยิ่งไปกว่านี้
เพราะแม้จะเป็นพล็อตห่วย ๆ เรื่องนี้มันก็ยังสนุกค่ะ เพียงแต่มันไ่ม่ถึงจุดที่มันควรจะเป็นได้
คะแนนที่ 83
No comments:
Post a Comment