Sunday, September 8, 2013

Review: The King of Attolia


The King of Attolia
The King of Attolia by Megan Whalen Turner

My rating: 5 of 5 stars



นี่เป็นรีวิวที่เขียนอีกครั้ง (หลังจากการอ่านอีกรอบ) ในวันที่ 9/9/13

ก่อนจะเปิดเล่มนี้อ่าน เราก็รู้อยู่แล้วนะคะว่าสนุก (เรียกว่าทำใจแล้วว่าสนุก) ตอนอ่านก็ยังรู้สึกสนุกมาก ๆ ทำให้อ่านติดพันไม่ยอมหลับยอมนอน แล้วก็เช่นเดียวกับการอ่านเรื่อง The Queen of Attolia อีกครั้ง เรารู้สึกว่า ได้อะไรเพิ่มขึ้นมากมายจากการอ่านอีกครั้ง รู้สึกเหมือนเข้าใจตัวละครมากขึ้น ที่สำคัญยิ่งสัมผัสได้ถึงความฉลาดของคนแต่งที่ไม่ปล่อยให้รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แม้เพียงอย่างเดียวถูกลืม ทุกอย่างที่ถูกกล่าวถึงกลายมาเป็นความสำคัญ

หนึ่งในนั้น (เราไม่รู้นะคะว่า ตอนอ่านรอบแรก ๆ เราจับใจความได้รึเปล่า อาจจะจับได้ก็ได้นะคะ แต่เรานึกไม่ออก) ก็คือ สารน์ลับที่เจ็นส่งผ่านคอสติสไปให้เทเลอัส ซึ่งต้องคำสั่งประหาร สารน์ที่จะเตือนสติแอตโตเลียถึงความผิดพลาดในอดีต ซึ่งถ้าใครที่ไม่ได้อ่านเรื่อง The Queen of Attolia หรืออ่านแล้วแต่ความจำไม่ดี ก็คงจะนึกไม่ออกว่า คำพูดนั้นมีความสำคัญอย่างไรเป็นแน่ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เจ็นพูดระหว่างเพ้อหลังจากที่เขาถูกแอตโตเลียออกคำสั่งตัดมือ คำพูดที่เจ็นรู้ว่า จะทำให้แอตโตเลียคิดได้ แต่เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจ

อ่านเล่มนี้ก็ยิ่งตอกย้ำสไตล์การเขียนที่ subtle มาก ๆ ของคนแต่ง ไม่มีอะไรเป็นอย่างที่ตาเห็น หรือคิดว่าเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเล่มนี้เล่าเรื่องผ่านตัวละครที่เป็นคนนอกเป็นหลัก ความเห็นส่วนใหญ่ในเรื่องที่คนอ่านได้รับ จึงเป็นการมองของคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ตัวตนที่แท้จริงของเจ็นเป็นเช่นไร แต่เขาก็ได้เรียนรู้ไปเมื่อเรื่องราวดำเนินไปเรื่อย ๆ

เล่มก่อนหน้ามีโฟกัสที่การเติบโตของเจ็น เล่มนี้ก็ยังดำเนินตามเส้นทางนั้นอยู่ แต่บทบาทที่เจ็นจะต้องเป็นให้ได้ มันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เขาต้องการจะเป็นมากนัก เหมือนกับคำพูดที่รีไลอัส (หัวหน้าสายลับของแอตโตเลีย) พูดไว้ เจ็นไม่ได้แต่งงานกับแอตโตเลียนเพราะอยากเป็นกษัตริย์ แต่เขายอมเป็นกษัตริย์เพราะต้องการแต่งงานกับแอตโตเลีย ดังนั้นการทำใจเพื่อให้รับบทบาทที่ได้มาจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก และหนังสือเล่มนี้ทั้งเล่มก็คือเส้นทางการเป็นกษัตริย์อย่างเต็มตัวของเจ็น

และเพราะเจ็นอาจจะเป็นคนเพียงคนเดียวที่เข้าใจแอตโตเลีย นั่นทำให้เขารู้ว่า อำนาจในฐานะราชินีที่เธอทุ่มเททุกอย่าง ยอมสูญเสียทุกอย่างเพื่อรักษาไว้ มีความสำคัญต่อเธอมากแค่ไหน เขาจึงไม่ต้องการที่จะเข้าไปแทนที่ นั่นทำให้เขาลังเลที่จะรับบทบาทกษัตริย์แบบที่เขาสามารถเป็นได้ แม้ว่า จะเห็นได้ชัดสำหรับทุกคนว่า แอตโตเลียพร้อมที่จะให้เจ็นเข้าไปแทนที่ เพราะเธอขึ้นครองอำนาจไม่ใช่เพราะเธอต้องการอำนาจ เธอต้องการแค่ให้ประเทศสงบสุข

เล่มนี้อาจจะเป็นเล่มเดียวในชุดที่เราได้เห็นด้านที่อ่อนโยนของแอตโตเลีย ฉากที่ทั้งคู่มาเจอกัน หลังจากเจ็นได้รับบาดเจ็บจากความพยายามลอบสังหาร นั่นแสดงออกอย่างชัดเจนว่า เธอรู้สึกมากขนาดไหนกับเขา เราอ่านเรื่องโรแมนซ์เป็นหลักนะคะ แต่แทบจะไม่มีฉากไหนในเล่มไหน (ของโรแมนซ์) ที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลมากเท่ากับฉากนี้

อ่านเล่มนี้อีกครั้ง เราพบว่า เจ็นเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนมากกว่าที่คิด และน่ากลัวมากกว่าที่คิดอีกด้วย ฉากที่เขาเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองเกี่ยวกับสถานภาพของการเป็นกษัตริย์ เมื่อเขาบอกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่อาจหาทางออกจากเรื่องยุ่ง ๆ (คือการเป็นกษัตริย์) ที่ตัวเองเป็นผู้ก่อไว้ไม่ได้ และไม่ใช่เพราะเขาหาทางออกไม่ได้ หากแต่เป็นเพราะเขาไม่ต้องการหาทางออก เขาชอบอำนาจมากเกินไป (คำพูดไม่ได้เป็นแบบนี้เป๊ะ ๆ นะคะ เราไม่ได้มีหนังสืออยู่กับตัว เขียนจากที่จดจำได้) อ่านแล้วทำให้รู้สึกเข้าใจเหตุการณ์ใน A Conspiracy of Kings มากขึ้นเลยค่ะ (อย่างที่บอก ทุกอย่างมีความหมาย)

และเราเพิ่งจะสังเกต (เป็นครั้งแรกเท่าที่เราจำได้) ว่าเจ็นเป็นคนโมโหร้ายมาก ๆ เพิ่งมารู้สึกเอาในเล่มนี้เองนะคะ ในหลายฉากที่เขาต้องเก็บอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการที่ต้องตอบคำถามจาบจ้วงเกี่ยวกับญาติสมัยเด็ก ๆ (ที่ตอนนี้ตายไปแล้ว) หรือการที่เขาพังห้องนอนเพราะอัดอั้นที่ไม่อาจทำอะไรอดีตทูตจากอาณาจักรมีดส์ได้

เล่มนี้เราคงต้องบอกว่า เป็นเจ็นโชว์ เพราะทั้งเรื่องโชว์ความเก่งกาจของเขา โดยเฉพาะต่อชาวแอตโตเลียที่ไม่รู้มาก่อนว่า กษัตริย์ของพวกเขาเป็นใคร และดูถูกสติปัญญาของคนที่สามารถทำให้ราชินีของพวกเขาตัดสินใจแต่งงานได้ในที่สุด (หลังจากที่เธอฆ่าสามีคนแรก และประกาศว่า ราชาคนต่อไปของแอตโตเลีย จะเป็นคนที่เธอเลือกเอง และเธอก็เลือกเจ็น)

บอกตรง ๆ ค่ะ เล่มนี้ให้ความรู้สึกเหมือนละครไทยเล็ก ๆ ตรงจุดที่ว่า เจ็นต้องเอาชนะใจคนทั้งราชสำนักของแอตโตเลีย (เหมือนนางเอกในละครที่เข้าไปบ้านของสามี แล้วถูกดูหมิ่นต่าง ๆ นานาจากเหล่าญาติ ๆ ของเขา)

อ่านใหม่ก็ยังชอบมากเหมือนเดิม และเรายังรู้สึกว่า เราได้อะไรมากมายมากกว่าเดิมมาก ๆ (ใช้คำว่ามากเยอะไปไหม) แปลว่าอ่านแล้วประเทืองปัญญามาก ๆ น่ะค่ะ คะแนนที่ 93


และนี่เป็นรีวิวที่เขียนไว้เมื่อ 30/6/09

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่สามในชุดที่เล่าเรื่องราวชีวิตและการเติบโตของยูเจนิดิสที่ชีวิตเริ่มต้นด้วยการเป็นจอมโจร ก่อนที่จะจบลงที่เล่มนี้ด้วยการครองบัลลังค์แห่งแอตโทเลีย ซึ่งแม็กซ์กล้ายืนยันได้ว่า ถึงคุณไม่เคยอ่านหนังสือสองเล่มแรก คุณก็อ่านเล่มนี้ได้รู้เรื่องแน่นอน เพราะแม็กซ์ได้ทำมาแล้ว แต่ไม่รับประกันนะคะว่า ถ้าคุณอ่านเล่มนี้จบแล้ว คุณจะไม่อยากกลับไปอ่านสองเล่มแรก เพราะนี่คือสิ่งที่แม็กซ์จะทำทันทีที่ได้หนังสือสองเล่มนั้นมาในครอบครอง

หนังสือโฆษณาว่าเป็นวรรณกรรมสำหรับเยาวชน (แม้ว่าแม็กซ์จะหาข้อมูลอย่างนั้นในตัวเล่มไม่เจอ --- เราอ่านจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ เราแน่ใจว่าฉบับแปลเป็นไทยใช้คำว่า วรรณกรรมเยาวชน แต่ในภาษาอังกฤษไม่ได้มีบอกไว้) แต่บอกตามตรงว่า โดยเนื้อเรื่องแล้ว มันไม่ใช่ประเด็นสำหรับเด็ก (เล็ก ๆ) เลย มันเป็นเรื่องราวที่ผู้ใหญ่ก็สนุกไปกับมันได้ เพียงแต่ไม่มีฉากเซ็กส์ และความรุนแรงเหมือนกับหนังสือนิยายทั่วไปเท่านั้นเอง

สิ่งที่ทำให้แม็กซ์สนใจเรื่องนี้ได้มีสองอย่าง จากคำโฆษณาของเพื่อน เรื่องราวความรักระหว่างราชาและราชินีแห่งแอตโทเลียเป็นความรักชนิดที่คงจะโดนใจแม็กซ์ และเรื่องราวการชิงไหวชิงพริบในทางการเมืองซึ่งนี่อาจจเป็นสิ่งเดียวที่แม็กซ์หาอ่านไม่ค่อยจะได้ในโรแมนซ์

เรื่องเริ่มต้นในคืนวันแต่งงานระหว่างยูเจนิดิส หรือเจ็นที่บัดนี้ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งแอตโทเลีย เป็นสามีของราชินีซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวกับที่สั่งตัดมือของเขา การแต่งงานทีทุกคนคิดและลงความเห็นว่าเป็นเพราะการเมือง เมื่อทัพของเมืองเอ็ดดิสได้แทรกซึมเข้ามาในแอตโทเลียแล้ว เหตุผลของการที่ทั้งคู่แต่งงานกันน่าจะถูกอธิบายในเรื่อง The Queen of Attolia ซึ่งเป็นเล่มสองในชุด ในเล่มนี้ไม่ได้บอกอย่างละเอียด นอกจากสิ่งที่สำคัญที่สุดซึ่งแม็กซ์คิดว่า คนที่อ่านเล่มนี้จบลงจะรับรู้ได้ก็คือ (สปอยล์) ความรัก

เรื่องราวส่วนใหญ่ถูกเล่าผ่านมุมมองของคอสติส ทหารองค์รักษ์ราชินีที่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ แล้วลงไม้ลงมือกับกษัตริย์คนที่เขาคิดว่าไม่เหมาะสมกับราชินีที่เขาเทิดทูนบูชาสักนิดเดียว แต่การที่คอสติสต่อยราชาก็ไม่ได้ทำให้เขาได้รับโทษประหารอย่างที่คิดไว้ คอสติสกลับได้รับโอกาสให้ใกล้ชิดกับบุคคลที่น่าค้นหาที่สุดในราชวัง

กษัตริย์แห่งแอตโทเลีย

ในฐานะคนนอก (เจ็นเป็นชาวเอ็ดดิส) ยูเจนิดิสไม่ใช่คนที่ใครคาดหวังให้กับราชินีผู้งดงามของพวกเขา แล้ววิธีการประพฤติตัวของเจนอีกเล่า ก็ไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำของเขาดูดีขึ้น เจ็นปฏิเสธที่จะทำตัวอย่างราชา เขาไม่ยึดอำนาจการปกครองมาจากราชินี ทำตัวเองเป็นตัวตลก ยอมให้บรรดาผู้ดูแลส่วนตัวกลั่นแกล้งสารพัด กระทั่งการเข้าสังคม เขายังเต้นรำกับหญิงสาวที่มาจากครอบครัวที่ไม่มีฐานะทางสังคมเทียบเท่า

สำหรับคอสติสแล้ว ราชาคนนี้เป็นความน่าผิดหวัง แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากติดตามรับใช้ และนั่นทำให้เขาได้รู้จักบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาได้พบ

สำหรับคนที่ไม่ได้อ่านสองเล่มแรกอย่างแม็กซ์ เราพบว่าตัวเองก็เป็นเหมือนคอสติสที่ค้นพบความสามารถของเจ็นเป็นครั้งแรก เราได้เรียนรู้ไปพร้อมกับนายทหารคนนี้ถึงความชาญฉลาด และล้ำลึกของคนที่ไม่อยากเป็นราชาอย่างเขา แม็กซ์ชื่นชมการเขียนของคนแต่งมาก ๆ นะคะ เพราะลึกซึ้งและต้องการความสนใจจากคนอ่านอย่างยิ่งที่จะไม่พลาดแม้แต่ฉากเดียว เพราะทุกอย่างในเรื่องมีความหมายไม่ทางใดก็ทางนึง

สำหรับหัวใจสีชมพูของแม็กซ์ (ที่ยังไงก็ยังรักโรแมนซ์) เราพบว่า ตัวเองหลงใหลไปกับความสัมพันธ์ระหว่างเจ็นและราชินีของเขา ผู้หญิงที่เขาเรียกเธอด้วยชื่อของเธอเอง เพราะสำหรับเจ็น ไอรีนคือไอรีน ผู้หญิงที่เขารัก ไม่ใช่แอตโทเลีย ราชินีผู้โหดเหี้ยมและเย็นชา

โฟกัสของเรื่องนี้อยู่ที่การปรับตัวของเจ็นต่อการเมืองในราชสำนัก เขาเอาชนะอุปสรรค (และชนะใจ) คนที่ต่อต้านการเป็นผู้ปกครองของเขา ทำให้เราแทบจะไม่ได้เห็นมุมมองของตัวราชินีเลย ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอเป็นการเล่าผ่านสายตาของบุคคลที่สาม แต่แค่นั้นก็ทำให้แม็กซ์กรี๊ดไปกับคาแร็คเตอร์ของเธอมาก ๆ

แอตโทเลีย (เป็นชื่อที่ใช้เรียกราชินี แต่ไม่ใช่ชื่อจริงของเธอ ในขณะทีราชาถูกเรียกว่าแอตโทลี) เป็นราชินีที่ครองราชย์ตั้งแต่อายุน้อย เธอวางยาพิษฆ่าสามีคนแรก เธอลงโทษหัวขโมยที่เข้ามาลูบคมเธอในราชวังด้วยการตัดแขนเขา ก่อนที่จะแต่งงานกับเขาในภายหลังเพื่อสันติภาพระหว่างบ้านเมือง นั่นไม่ใช่คำบอกเล่าที่คนส่วนใหญ่อยากได้ยินเกี่ยวกับนางเอก แต่นั่นทำให้แม็กซ์รู้สึกว่า เธอเป็นตัวละครที่น่าค้นหายิ่งนัก โดยเฉพาะเมื่อมันชัดเจนว่า เธอรักราชาคนที่ถูกคนคิดว่าเธอถูกบังคับให้แต่งงานด้วยอย่างหมดหัวใจ

ความสัมพันธ์ระหว่างเจ็นและไอรีนเป็นหนึ่งในหลายสิ่งที่เราชอบมาก ๆ ในเล่มนี้ และอาจเพราะการถูกเรียกว่าเป็นวรรณกรรมเยาวชน คนอ่านจะไม่ได้เห็นอะไรมากเกินเลยไปนัก (ไม่มีการพูดอย่างชัดเจนในเรื่องความสัมพันธ์ทางกาย) แต่มันก็ชัดเจนพอว่า เกิดอะไรขึ้น ราชินีผู้เย็นชาสามารถจับหัวใจของจอมโจรชื่อก้อง และทำให้เขากลายเป็นราชา เพราะ

"He didn't marry you to become king. He became king because he wanted to marry you" (p. 323) นี่เป็นสิ่งที่อดีตที่ปรึกษาของราชินีกล่าวกับเธอ และมันก็เป็นความจริงทุกอย่าง

มีอะไรอีกเยอะมาก ๆ ที่เราชอบในเล่มนี้ แต่การเล่าก็จะเป็นการสปอยล์เรื่องราวที่เราคิดว่า คนอ่านควรจะได้สัมผัสด้วยตัวเอง สำหรับตอนนี้แม็กซ์ขอเวลาโทรศัพท์ไปสั่งซื้อหนังสือที่เหลืออีกสองเล่มในชุดก่อนนะคะ

คะแนนที่ 87





View all my reviews

No comments: