Tuesday, September 17, 2013

Review: Lord and Lady Spy


Lord and Lady Spy
Lord and Lady Spy by Shana Galen

My rating: 3 of 5 stars



นี่เป็นหนังสือที่แม็กซ์เห็นปกก็ปิ๊งในทันที แถมเมื่ออ่านพล็อตก็ยิ่งได้ใจไปใหญ่ เพราะน่าสนใจมาก แม้จะไม่ใช่พล็อตดั้งเดิมคิดเองแบบสร้างสรร แต่การเอาคอนเซ็ปต์ของภาพยนตร์เรื่อง Mr. and Mrs. Smith มาใช้ในเรื่องราวยุครีเจนซีก็น่าสนใจไม่น้อย ดังนั้นแม้ว่าจะเขียนโดยนักเขียนที่แม็กซ์เคยอ่านผลงานของเธอมาแล้วในอดีต และผิดหวังหลายต่อหลายครั้ง เราก็ยังตัดสินใจซื้อเรื่องนี้มาก พร้อมทั้งอ่านทันทีค่ะ

ซึ่งผลก็คือ แม้จะไม่ได้สนุกมากมายนัก แต่ก็ดีกว่าที่คาดคิดไว้ (สำหรับงานของนักเขียนคนนี้) และแน่นอนว่า พล็อตเรื่องเป็นจุดใหญ่ที่ำทำให้เราชอบเล่มนี้ค่ะ





Lord and Lady Spy ของชานา กาเลน

ไม่แน่ใจนะคะว่า จะเป็นหนังสือชุดหรือไม่ เพราะก็มีตัวละครในเรื่องที่พอมีแววเป็นพระเอกเล่มต่อไปได้ แต่เนื่องจากในเว็บไซด์ของคนแต่งไม่ได้บอกข้อมูลเอาไว้ ก็สันนิษฐานไว้ก่อนแล้วค่ะกันว่า เป็นเล่มเดี่ยว ๆ

เรื่องนี้เปิดเรื่องที่แห่งนึงในยุโรป เมื่อสายลับนามว่า เซ็นต์แอบซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้า ในบ้านของนางบำเรอของผู้หลบหนีชาวฝรั่งเศส ชายคนที่ทางการอังกฤษต้องการตัว ถือว่าเป็นมันสมองที่อยู่เบื้องหลังการหนีของนโปเลียน เพื่อให้ชนะสงคราม ภารกิจนี้สำคัญอย่างยิ่ง แต่ก่อนที่เซ็นต์จะจัดการจับตัววายร้ายรายนี้ได้ สายลับอีกคนนึงนามว่า วูลฟ์ก็ชิงตัดหน้าจับคนร้ายไปก่อน

ถ้านั่นยังไม่เลวร้ายพอ เซ็นต์ยังถูกหัวหน้าแจ้งข่าวว่า ตัวเองถูกเลิกจ้างอีกต่างหาก เพราะตอนนี้สงครามสงบแล้ว ความต้องการสายลับลดน้อยลง เซ็นต์จึงเป็นหนึ่งในสายลับที่ถูกไล่ออก

เซ็นต์สายลับมือหนึ่งขององค์การ ต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ต้องกลับไปอังกฤษ และรับบทบาท "ภรรยา" งานที่เธอแทบไม่รู้ว่า จะต้องทำยังไง แม้จะแต่งงานมาแล้วถึงห้าปีก็ตาม ฉากนี้ในเรื่องฮามาก ตอนที่เซ็นต์ถูกถามว่า ที่อังกฤษมีอะไรรอเธออยู่ และเธอก็ตอบไปว่า รู้สึกเหมือนฉันจะมีสามีอยู่คนนึงนะ

เรื่องตัดไปที่สายลับนามว่า วูลฟ์ ที่แม้จะทำภารกิจสำเร็จ และจับตัวคนร้ายได้ แต่เขาก็ตกเหยื่อของการลดกำลังพลเช่นกัน เขาถูกเจ้านายแจ้งข่าวเลิกจ้าง และบอกให้เขากลับไปทำหน้าที่ "ขุนนาง" อย่างที่ควรจะเป็นซะที สำหรับชายผู้ที่ตลอดชีวิตต้องการพิสูจน์ตัวเองว่า ไม่ใช่คนคนเดียวกับบิดา (ซึ่งทรยศประเทศ) นั่นเป็นยิ่งกว่าคำสั่งประหาร

ในโลกแห่งความเป็นจริง เซ็นต์มีนามว่า โซเฟีย กัลโลเวย์ เธอแต่งงานกับสายลับวูลฟ์ หรือลอร์ดเอเดรียน กัลโลเวย์ ไวส์เคาท์สมิท เป็นเวลาห้าปี แต่ทั้งคู่ไม่เคยรับรู้อีกด้านหนึ่งของกันและกันเลย ทั้งสองคิดว่า ชีวิตแต่งงานราบเรียบ และคู่สมรสอีกฝ่ายเป็นคนธรรมดา ๆ ที่ไม่เคยรู้ว่า มีอะไรน่าตื่นเต้นอยู่ข้างนอกนั่น

โซเฟียคิดว่า สามีเป็นขุนนางน่าเบื่อ ที่วัน ๆ ใช้เวลาไปกับการหาความสุขส่วนตัว เหตุผลเดียวที่เธอแต่งงานกับเขา ก็เพราะเธอคงจะไม่ได้รับเลือกให้ทำงานสายลับในภารกิจที่ใหญ่ขึ้นได้ หากยังเป็นสาวโสด ส่วนเอเดรียนก็คิดว่า ภรรยาเป็นหญิงสาวเชย ๆ รสนิยมบรรลัย ที่แต่งตัวไม่ได้เรื่อง หนูน่าเบื่อที่อยู่บ้านทั้งวัน เหตุผลเดียวที่เขาเลือกเธอ ก็เพราะโซเฟียมีชาติตระกูลที่เหมาะสม และเขาต้องมีทายาทสืบสกุล

ดังนั้นลองคิดดูว่า ทั้งสองคนช็อคแค่ไหนเมื่อเผชิญหน้ากันตามคำสั่งเรียกของนายกรัฐมนตรี ที่เรียกทั้งสายลับเซ็นต์ และวูลฟ์มาเพื่อให้ทำภารกิจสำคัญ ภารกิจในการสืบหาตัวคนร้ายที่ฆ่าน้องชายต่างบิดาของนายกรัฐมนตรี ภารกิจที่ถ้าใครสืบพบความจริงก่อน ก็จะได้รับการบรรจุกลับเข้าไปเป็นสายลับอีกครั้ง ตำแหน่งว่างเพียงที่เดียว แต่มีสองคนที่ต้องการมัน

การได้รับรู้ตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่าย ทำให้โซเฟีย และเอเดรียนมองกันและกันด้วยสายตาที่เปลี่ยนแปลงไป และเป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักกันอย่างแท้จริง แม้ภารกิจจะเป็นการแข่งขันกัน แต่ก็กลายเป็นการทำงานร่วมกันเพื่อตามหาตัวคนร้าย

แม็กซ์ชอบช่วงต้นเรื่องมาก ๆ นะคะ ออกแนวตลกหัวเราะขำ ๆ ดี แม้จะลอกพล็อตหนังเรื่องดังมา แต่ก็เป็นแค่คอนเซ็ปต์เรื่องเท่านั้น รายละเอียดอย่างอื่นมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองชัดเจนดี ที่สำคัญเราเชื่อในความผูกพัน และการพัฒนาของความรักระหว่างตัวละคร เราเชื่อสนิทใจว่า เอเดรียนยอมรับตัวตนของโซเฟียได้อย่างหมดใจ และเธอคือ ผู้หญิงแบบที่เขาต้องการ

ฉากที่ทั้งสองเทียบรอยแผลเป็นระหว่างกัน ทำให้เรานึกถึงหนังอีกเรื่อง (Lethal Weapon III) ฮาผสมเซ็กซีดีค่ะ

อย่างไรก็ตามเรารู้สึกถึงความไม่ค่อยสม่ำเสมอในพล็อตเรื่องค่ะ โดยเฉพาะในส่วนของภูมิหลังของคาแร็คเตอร์ ที่เรื่อง (สปอยล์) เล่าถึงการแท้งลูกถึงสามครั้งของโซเฟีย ซึ่งเป็นประเด็นที่หนักมากสำหรับลูกผู้หญิงคนนึง ทำให้เรื่องดูขัด ๆ กันไปหน่อย ตอนเปิดเรื่องก็ทำเหมือนเอเดรียนกะโซเฟีย เป็นคนแปลกต่อกันและกัน แต่ภูมิหลังที่ลึกซึ้งก็ทำให้เรื่องถูกดึงไปเข้าใจได้อีกทาง จริง ๆ ไม่ได้มีปัญหากะทั้งสองแนวทางนะคะ เพียงแต่อยากให้คนแต่งเลือกทางใดทางนึงไปเลยดีกว่า

โดยรวมเล่มนี้ดีที่สุดเท่าที่เคยอ่านงานของชานา กาเลนมาค่ะ อาจจะไม่ได้ดีอย่างคิดเป็นไปได้ แต่ก็สนุกใช้ได้

คะแนนที่ 67



View all my reviews

No comments: