Tuesday, August 27, 2013

Review: Never Less Than a Lady


Never Less Than a Lady
Never Less Than a Lady by Mary Jo Putney

My rating: 3 of 5 stars





แม็กซ์แฟนหนังสือของแมรี่ โจ พัทเน่ย์ นั่นเป็นความจริงที่เพื่อนที่ติดตามอ่านบลอกของแม็กซ์น่าจะรู้ดี เราบูชางานเขียนของแมรี่ โจ ชนิดที่แทบจะไม่มีนักเขียนคนไหนเทียบเคียงได้ สำหรับแม็กซ์แล้ว เราชอบชผลงานเขียนในภาพรวมของแมรี่ โจ มากกว่าลิซา เคลย์แพสด้วยซ้ำ

นั่นคงเป็นเครื่องยืนยันความชอบที่เรามีต่อแมรี โจ เป็นอย่างดีนะคะ (มันไม่ใช่การเปรียบเทียบกับแบบเล่มต่อเล่ม แต่เป็นการเปรียบเทียบผลงานในภาพรวม)

แต่ความจริงก็คือ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทิศทางการเขียนของแมรี โจดูตุปัดตุเป๋ชอบกลค่ะ ตั้งแต่เธอหันไปเขียนเรื่องแนวปัจจุบัน ไปไกลถึงแนวแฟนตาซี นั่นทำให้จุดแข็งที่สุดของเธอในการเขียนเรื่องแนวย้อนยุคดูอ่อนด้อยลงไป และนั่นเป็นเรื่องน่าเสียดาย

แม็กซ์เริ่มมีความหวังมาก ๆ เมื่อเธอหันมาเขียนเรื่องแนวย้อนยุคธรรมดา ที่ไม่ต้องมีเวทมนตร์หรือพารานอมอลมาเจือปน กับเรื่อง Loving a Lost Lord แต่ก็เหมือนกับนักเขียนที่ยิ่งใหญ่หลายคนนะคะที่แม็กซ์อดไม่ได้ที่จะต้องเอางานของเธอไปเปรียบเทียบกันเอง

ซึ่งสิ่งนี้ก็เกิดขึ้นตอนที่เราอ่านเล่มนี้ด้วยเช่นกัน





Never Less than a Lady ของแมรี่ โจ พัทเนย์

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่สองในชุด The Lost Lords เรื่องราวของเพื่อนร่วมโรงเรียนประจำซึ่งแต่ละคนมีปมบางอย่างที่ทำให้พวกเขา ถูกส่งมายังโรงเรียนที่มีความพิเศษซึ่งดำเนินการสอนโดยเลดี้แอ็กเนส เวสเตอร์ฟิลด์ (แม็กซ์ก๊อปปี้สิ่งที่ตัวเองเขียนเอาไว้ตอนเขียนรีวิวเรื่อง Loving a Lost Lord มานะคะ)

เล่มนี้เป็นเรื่องราวของนายพันอเล็กซานเดอร์ แรนดัล ผู้ซึ่งเพิ่งได้รับจดหมายจากลุงผู้ห่างเหินแจ้งว่า เขาอยู่ในฐานะที่จะได้เป็นเอิร์ลแห่งดาเวนทรีคนถัดไป หลังจากญาติผู้มีสิทธิในบรรดาศักดิ์นี้ได้ตายลงไปแล้วอีกหนึ่งคน

แรนดัลผู้ซึ่งกำพร้าบิดามารดา และถูกส่งมาอยู่กับลุงผู้เป็นเอิร์ล ไม่เคยเข้ากับญาติข้างนี้ของเขาได้เลย เขากลายเป็นเป้าซ้อมระบายอารมณ์ของลอร์ดแบรนฟอร์ด ญาติผู้พี่ และลูกชายคนโตของลุง ทำให้แรนดัลก่อกวนและสร้างปัญหา จนเขาถูกส่งไปยังโรงเรียนของเลดี้เวสเตอร์ฟิลด์ ที่ซึ่งเขาได้พบกับเพื่อนรักผู้ซึ่งกลายเป็นเพื่อนตายกันจนมาถึงในปัจจุบัน

และแม้แรนดัลจะต้องชอบทำอะไรที่ขัดใจผู้เป็นลุง แต่เขาก็รู้ว่า การลาออกจากทหารเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เขาต้องการมีชีวิตตามธรรมดา แต่งงาน และมีครอบครัว นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ลุงของเขาต้องการ แต่แรนดัลก็ไม่โง่พอที่จะแกล้งทำเป็นกบฎต่อความต้องการของลุง แต่กลับกลายเป็นการทำร้ายตัวเอง

ปัญหาก็คือ แรนดัลไม่รู้ว่า ควรจะเลือกใครเป็นเจ้าสาวของเขาน่ะสิ ในใจชองแรนดัลยังคงนึงถึงมิสซิสแบนครอฟ เพื่อนรักของภรรยาของแอชตัน ซึ่งเป็นเพื่อนของเขา (เธอออกมามีบทในเล่มแรกในชุด) แต่ในขณะที่แรนดัลเดินทางไปยังดินแดนแถบที่มิสซิสแบนครอฟอาศัยอยู่ เขาก้ได้ข่าวว่าเธอถูกลักพาตัวไป

แรนดัลใช้เวลาไม่นานในการช่วยเหลือเธอมาจากคนร้าย แต่ปัญหาเพียงจะเริ่มต้นขึ้น

นั่นเพราะมิสซิสแบนครอฟไม่ใช่มิสซิสแบนครอฟ เธอคือเลดี้จูเลีย เรนส์ บุตรสาวของดยุคผู้ที่กำลังวิ่งหนีอดีต จูเลียถูกกล่าวหาว่าฆาตกรรมอดีตสามี ซึ่งก็คือลอร์ดแบรนฟอร์ด ญาติผู้พี่ของแรนดัลนั่นเอง และแม้ว่าเธอจะถูกพิจารณาว่าไม่มีความผิดจากฝั่งกฎหมาย แต่พ่อของสามีเธอ (ซึ่งก็คือลุงของแรนดัล) ก็ยังออกคำสั่งให้คนตามล่า หมายปองชีวิตของเธออยู่ดี

และเมื่อผู้เป็นบิดาของเธอเองปฏิเสธที่จะช่วยเหลือ ทางออกเดียวของจูเลียก็คือ การแสร้งทำเป็นตาย จากนั้นเธอก็สวมบทบาทเป็นมิสซิสแบนครอฟ แต่ฉากหน้าอันนี้ก็ถูกเปิดโปงเมื่อเธอเดินทางไปลอนดอนกับมารายห์ เพื่อนรัก (เหตุการณ์ในเล่มแรก)

แรนดัลรับฟังปัญหาของหญิงสาวที่เขาเริ่มมีใจให้ และยื่นข้อเสนอเพื่อคุ้มครองเธอทันที เขาเชื่อว่า หากเลดี้จูเลียยอมแต่งงานกับเขา มันจะช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งหมด เพราะผู้เป็นลุงของเขา ซึ่งเป็นคนออกคำสั่งตามล่าเอาชีวิตของเธอ จะต้องหยุด เพราะถึงอย่างไร เอิร์ลแห่งดาเวนทรีจะต้องคำนึงถึงการสืบทอดบรรดาศักดิ์ และถ้าจูเลียแต่งงานกับแรนดัล โอกาสเดียวที่ดาเวนทรีจะได้ทายาทเพื่อสืบบรรดาศักดิ์ ก็คือผ่านทางเธอ

การแต่งงานเพื่อความคุ้มครองจึงเกิดขึ้น แต่แน่นอนว่าในโรแมนซ์ จะต้องมีอะไรมากกว่านั้นเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน

โดยรวมหนังสือเล่มนี้สนุกดีนะคะ สถานการณ์ในเรื่องอาจจะดูบังเอิญมากเกินไปสักหน่อย (อย่างเรื่องลุกของแรนดัล และพ่อสามีของจูเลียเป็นคนเดียวกัน) แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึกว่าไม่น่าเชื่อ

จุดเด่นของแมรี่ โจในการเขียนแสดงอารมณ์ของคาแร็คเตอร์ก็ยังคงเด่นชัด เรารู้สึกถึงความนึกคิดของทั้งแรนดัล และจูเลีย รู้สึกถึงความรักที่เริ่มก่อตัวขึ้นของทั้งคู่ เราชอบการที่แรนดัลเปิดใจให้กับความรัก และในขณะเดียวกันก็ใจเย็นพอที่จะรู้ว่า จูเลียยังไม่พร้อมกับความสัมพันธ์ เพราะรอยแผลเป็นถูกฝากไว้จากสามีคนก่อน

ในแง่ของการเรียกน้ำตา เราไม่ถึงกับร้องไห้ค่ะ ซึ่งคงต้องบอกตามตรงว่า เราผิดหวังเล็กน้อย เพราะปกติเวลาอ่านเรื่องของแมรี โจนี่ น้ำตาเราต้องไหลท่วมหมอน แต่เล่มนี้ไม่ร้องเลยค่ะ (แข็งแกร่งมากเลยเรา)

โดยรวมแล้ว แม็กซ์ชอบเล่มนี้มากกว่าเล่มแรกในชุดนะคะ แต่เราก็ถูกผูกติดด้วยข้อจำกัดเดียวกันกับตอนที่อ่านเล่มแรกก็คือ แม็กซ์อดไม่ได้ที่จะเอาเล่มนี้ไปเปรียบเทียบกับงานในยุคเก่าของเธอ (โดยเฉพาะชุด Fallen Angels) และมันก็ยากมาก ๆ ที่จะเทียบกับงานในระดับมาสเตอร์พีชพวกนั้น

คะแนนที่ 70




View all my reviews

No comments: