Tuesday, October 29, 2013

Review: Edge of Oblivion


Edge of Oblivion
Edge of Oblivion by J.T. Geissinger

My rating: 2 of 5 stars



เราตัดสินใจหยิบเล่มนี้มาอ่าน แม้ว่าจะจบเล่มแรกไปอย่างอึดอัดใจ แต่เพราะสไตล์การเขียน การเล่าเรื่องที่จับความสนใจของเราไว้ได้ตลอดเวลาที่อ่าน ประกอบกับคาแร็คเตอร์นางเอกของเล่มนี้ที่ทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจ เราจึงอ่านเล่มนี้

ก่อนเข้ารีวิว ขอเตือนสปอยล์ก่อนนะคะ คือถ้ายังไม่ได้อ่านเล่มแรก และคิดจะอ่านก็ขอให้หยุดอ่านตรงนี้นะคะ เราจะไม่ซ่อนสปอยล์นะคะ เพราะมันไม่ใช่สปอยล์ของเล่มนี้ แต่เป็นสปอยล์เล่มก่อนหน้า

มอร์แกน หญิงสาวชาวอิคาติซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่แปลงร่างเป็นควัน และเสือได้ ได้ทำความผิดมหันต์ ด้วยทรยศพวกของตัวเอง จนเป็นเหตุให้สมาชิกในเผ่าถูกจับไปทรมานเกือบตาย แต่ทุกอย่างที่มอร์แกนทำไป ก็เพื่ออิสรภาพ การเกิดเป็นสตรีในชนเผ่าอิคาติเป็นเสมือนคำสาป ตลอดชีวิตเธอถูกกำหนดโดย "ผู้สูงวัย" ในเผ่า ต้องแต่งงานกับคนที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ ต้องใช้ชีวิตตามที่ถูกบอกให้ใช้ ดังนั้นแม้เธอจะเลือกผิดพลาด และเชื่อคนชั่ว แต่มอร์แกนก็พร้อมจะรับผลการกระทำของตัวเอง เธอยอมตายเพื่ออิสระ

แต่ด้วยความช่วยเหลือของเจนนา เพื่อนสาว ซึ่งตอนนี้พิสูจน์ตัวเองด้วยพลังที่เหนือคนอื่น (จนทำให้สถานะของเธอในเผ่าสูงเกินกว่าที่ใครจะทำอะไรเธอได้) ทำให้มอร์แกนได้รับโอกาสที่สอง เธอถูกส่งไปโรมเพื่อตามหาขบวนการที่ออกล่าชนเผ่าอิคาติ ซึ่งเป็นเบาะแสที่เจนนาสืบมาได้จากเล่มก่อน แต่มอร์แกนไม่ได้รับความไว้วางใจให้เดินทางไปตามลำพัง เธอถูกส่งไปพร้อมกับแซนเดอร์ ชาวอิคาติซึ่งทำหน้าที่เป็นนักฆ่าประจำเผ่าพันธุ์ หน้าที่ของเขาก็คือ ช่วยเหลือมอร์แกนในการปฏิบัติงาน แต่หากครบกำหนดวันแล้ว เธอยังทำไม่สำเร็จ แซนเดอร์จะต้องเป็นผู้ลงมือประหารเธอ

ทั้งคู่เดินทางไปโรม เพื่อสืบหาร่องรอย แต่แทนที่จะได้พบกับองค์กรชาวมนุษย์ที่ออกตามล่าชาวอิคาติ พวกเขากลับได้พบกับชาวอิคาติที่ไม่มีใครรู้จัก (ที่เป็นเช่นนั้นเพราะสังคมของอิคาติปิดกั้น ทุกคนในเผ่าพันธุ์ต้องมีแหล่งที่อยู่ ใครที่หนีไปจะถูกตามล่า และฆ่าให้ตาย) และอิคาตินอกรีตพวกนี้เอง กลายเป็นกุญแจสำคัญในภารกิจนี้

เราชอบเล่มนี้น้อยกว่าเล่มแรกนะคะ เพราะเรารู้สึกว่า คนแต่งไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อคาแร็คเตอร์เท่าที่ควร โดยเฉพาะตัวมอร์แกน ซึ่งเราคิดว่า เธอเป็นคนที่น่าสนใจมาก ๆ ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นในตอนต้นเล่ม แต่ทำไมพอนางเอกได้เจอกับพระเอกแล้ว ต้องสูญเสียตัวตนของตัวเองไปด้วย เธอกลายเป็นหญิงที่ช่วยตัวเองไม่ได้มากกว่าครึ่งเล่ม

และเช่นเดียวกับเล่มแรกค่ะ เราไม่มีความสุขเอาเลยในการอ่านเรื่องนี้ พล็อตไม่ได้กดดัน หรือแสดงอาการรังเกียจมนุษย์อย่างชัดเจนแบบในเล่มแรก แต่ก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่า ชาวอิคาติน่าปกป้องเอาเสียเลย เราคงจะดีใจมาก ๆ ด้วยซ้ำ ถ้าพวกนี้ถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ให้ตายไปให้หมด ด้วยทัศนคติที่ไม่เป็นกลาง เหยียดหยามเผ่าพันธุ์อื่น รังแกกระทั่งคนในเผ่าพันธุ์ของตัวเอง (ทั้งมอร์แกนและแซนเดอร์ก็ตกเป็นเหยื่อของวัฒนธรรมของตัวเอง) เราไม่คิดว่า อ่านหนังสือเล่มไหน แล้วรังเกียจเผ่าพันธุ์ที่ควรจะเป็นตัวเอกมากได้เท่านี้

กระทั่งพล็อตเรื่องที่ว่า ชาวอิคาติถูกมนุษย์ตามล่ามาตลอด ก็เจอทางตัน เพราะในท้ายที่สุด คนที่อยู่เบื้องหลังความเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับชาวอิคาติทั้งหมด ไม่ใช่มนุษย์หรอกนะ แต่เป็นชาวอิคาติกันเองนั่นแหละ เป็นแบบนี้แล้วยังจะมาแสดงอาการรังเกียจมนุษย์อีก

นอกจากนี้คนแต่งเขียนเรื่องสมจริง เมื่อเพื่อนสนิทของพระเอก คนที่มีแววเหมือนจะเป็นพระเอกเล่มหน้าได้ ตายไปซะงั้น ซึ่งควรจะเป็นคำชมนะคะ แต่เราอ่านโรแมนซ์เพราะต้องการความสบายใจ ทำให้อะไรที่สมจริงเกินไป ก็ไม่มีความสุขค่ะ

โดยรวมแล้วทุกอย่างกลับมาที่ความรู้สึกของเราเองค่ะ ดังนั้นนี่จึงเป็นรีวิวในแง่ความรู้สึกล้วน ๆ เพราะเช่นเดียวกับเล่มแรก เราคิดว่า การเขียน การเล่าเรื่อง น่าอ่าน น่าติดตามมาก ๆ ระหว่างอ่านเราวางไม่ลงเลยนะคะ แต่เราไม่มีความสุขเวลาอ่านเลยน่ะสิ นึกเกลียดคาแร็คเตอร์แทบทุกตัวในเรื่อง ไม่เชียร์ข้างของตัวเองเลยสักนิดเดียว ขนาดนึกอยากให้มีระเบิดไปลงสักลูกนึง พวกมันจะได้ตายไปกันให้หมด แล้วไม่ต้องรับรู้เรื่องของคนกลุ่มนี้อีกต่อไป

คะแนที่ 60 (เป็นคะแนนตามความรู้สึกค่ะ คือเราคิดว่า ถ้าอ่านแล้วไม่อึดอัดแบบที่เรารู้สึก น่าจะชอบเรื่องนี้มากกว่านี้)





View all my reviews

No comments: