Thursday, October 17, 2013

Review: Primal Instincts


Primal Instincts
Primal Instincts by Susan Sizemore

My rating: 3 of 5 stars



หนังสือเล่มนี้เรียงลำดับที่ออกขายแล้วเป็นเล่มที่เก้าในชุดค่ะ แต่ถ้าเรียงตามเหตุการณ์ในเรื่องแล้วถือเป็นเล่มที่แปด นั่นเพราะเรื่อง Dark Stranger คนแต่งฉีกแนวไปเขียนเป็นแนวฟิวเจอริสติก ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นในอนาคต โดยที่อธิบายว่า เป็นนิยายที่ตัวละครในเรื่ื่องชุดนี้อ่านกันอยู่

เล่มนี้เป็นเรื่องราวของแวมไพร์สาวผู้เป็นที่ปรารถนาของเหล่าไพร์ม (หรือแวมไพร์หนุ่ม) ทั้งปฐพี นามว่า ฟรานเซสกา เรย์นาร์ด ทั้งในฐานะที่เธอเป็นทายาทของเผ่าเรย์นาร์ดผู้ทรงอำนาจ และความงดงาม ยั่วยวน รวมทั้งอารมณ์ร้อน ๆ จนได้ฉายาว่า แฟลร์ ของเธอ

เพื่อเป็นอิสระจากข้อเรียกร้องของผู้เป็นมารดา แฟลร์ตัดสินใจมีลูกโดยวิธีการผสมเทียม เพื่อทำหน้าที่ให้กับเผ่าในการสร้างทายาทสืบทอดสายพันธุ์ ความเจ็บปวดในอดีตจากการที่มีคนรักเป็นมนุษย์ แต่ครองรักกันไม่ได้ เพราะม่านประเพณีของสายพันธุ์ทำให้แฟลร์ไม่ต้องการผูกพันกับใครอีกต่อไป

ในสังคมแวมไพร์ซึ่งมีไพร์มมากกว่าแวมไพร์สตรี ทำให้ผู้หญิงในเผ่าพันธุ์นี้ได้รับการปกป้องเหนือสิ่งอื่นใด แต่ในโครงสร้างของสังคมแล้ว อย่างน้อยในแคลน และแฟมิลี แวมไพร์หญิงคือ หัวหน้าครอบครัว และมีอำนาจในการกำหนดชะตากรรมของไพร์มในเผ่าของเธอ แฟลร์ผู้ซึ่งเป็นทายาทผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าเผ่าเรย์นาร์ดคนต่อไป เธอจึงรู้ถึงอำนาจที่ตัวเองกุมอยู่ในมือได้เป้นอย่างดี

ดังนั้นเมื่อแฟลร์ต้องเผชิญหน้า กับโทเบียส สแตนแฮน ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยดาร์คแองเจิ้ล ซึ่งเป็นหน่วยรบพิเศษของสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติหลายชนิด ชายผู้เป็นไพร์ม และเคยชินกับการออกคำสั่งทุกคนในหน่วย แต่คราวนี้เขาถูกแบล็กเมลล์โดยมารดาของแฟลร์ให้ทำหน้าที่ผลิตหลานให้ โดยแลกกับการที่จะให้การสนับสนุนหน่วยดาร์คแองเจิ้ลในสภาแวมไพร์ แต่ถ้าโทเบียสปฏิเสธก็จะทำทุกอย่างเพื่อทำลายหน่วยที่เขารัก

แม้จะถูกบังคับ แต่ภาระก็ไม่ได้ยากเย็น ปฏิกิริยาทางร่างกายระหว่างโทเบียสและแฟลร์มองเห็นได้ชัดตั้งแต่ต้น เขาปรารถนาในตัวแวมไพร์สาวคนนี้อย่างยิ่ง เลือดในร่างไพร์มของเรารุ่มร้อนจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ และนั่นช่างไม่เหมือนโทเบียสที่ใครหลายคนรู้จัก

ยิ่งแฟลร์และโทเบียสใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ก็ยิ่งเห็นได้ชัดถึงความเป็นคู่แท้ของกันและกัน (อาการผูกพันกันระหว่างแวมไพร์และคู่ของพวกเขา ความผูกพันที่ทำให้ไม่อาจแยกทั้งสองออกจากกันได้) แต่มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ผิดที่ผิดทางยิ่งนัก เพราะการสืบสวนของโทเบียสต่อองค์กรที่จ้องทำลายล้างพวกเขากำลังสาวใกล้เข้าตัวหัวหน้าใหญ่ทุกที

ในแง่ของพล็อต หนังสือเล่มนี้พล็อตไม่แน่นเท่าไหรนะคะ มีช่องโหว่เห็นได้ชัดหลายจุดด้วยกัน แต่ก็ถูกทดแทนได้ด้วยตัวละครที่น่าจดจำ

เราชอบทั้งโทเบียสและแฟลร์ เริ่มตั้งแต่พระเอก ที่คนแต่งเขียนให้มีลักษณะของความยิ่งใหญ่ เข้มแข็ง แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงด้านที่อ่อนโยนของเขาออกมาให้เห็น ยิ่งเราชอบเรื่องที่พระเอกดีแตกเพราะนางเอก เล่มนี้ก็เข้าทางค่ะ เพราะการจับคู่โทเบียสและแฟลร์เป็นการเอาด้านตรงข้ามมาคู่กัน และนั่นทำให้เรื่องน่าสนใจ

ในขณะที่แฟลร์ที่มีชื่อเสียงในการเป็นเจ้าหญิงแวมไพร์ผู้นำแฟชั่น แต่ในเล่มนี้เราก็ได้เห็นด้านลึกของเธอ และที่ดีไปกว่านั้น เธอเป็นนางเอกที่เข้าใจพระเอกอย่างยิ่ง ในขณะเดียวกันเธอก็เหี้ยมพอที่จะเข้าใจการตัดสินใจของพระเอกอีกด้วย (สปอยล์) นั่นคือ เธอไม่โกรธโทเบียสเลยที่เขายอมโอนอ่อนตามคำเรียกร้องของมารดาของเธอในการทำให้เธอท้อง นั่นแสดงให้เห็นว่า แฟลร์ไม่ได้ติดอยู่ในโลกความฝัน

องค์ประกอบส่วนหนึ่งในหนังสือของซูซาน ไซซ์มอร์ที่เราคิดว่าเหนือกว่าหนังสือแนวแวมไพร์ชุดอื่นก็คือ ความตรงไปตรงมาต่อสัญชาตญาณดิบของตัวเองของตัวเอกที่เป็นแวมไพร์ และในเล่มนี้ทั้งนางเอกและพระเอกต่างเป็นแวมไพร์ทั้งคู่ สัญชาตญาณดิบจึงแสดงออกมาชัดแจ้งมาก นั่นคือเมื่อทั้งคู่พบว่าตัวเองรอดจากความตายอย่างหวุดหวิด ทุกอย่างก็กลับไปที่พื้นฐานความต้องการ นั่นคือ เซ็กส์่ ซึ่งเรารู้สึกว่า สัมผัสได้ถึงความต้องการ และโหยหาที่แฟลร์และโทเบียสมีให้กัน

เรื่องนี้คาแร็คเตอร์ได้ใจมากค่ะ แม้ว่าพล็อตจะอ่อนอยู่พอสมควร นั่นคือ ปริศนาเกี่ยวกับผู้ร้ายใหญ่ก็ไม่ได้รับการไขออกมา รวมทั้งเหตุการณ์หลายอย่างในเรื่องไม่ชัดเจนนัก และดูไม่ค่อยมีเป้าหมายเทาไหร

แต่ทั้งหมดนั่นไม่สำคัญสำหรับเราเลยล่ะ เพราะชอบพระเอก และนางเอก รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่มีต่อกันอย่างมาก

คะแนนที่ 73



View all my reviews

No comments: