Tuesday, February 10, 2009

The Protectors // Beverly Barton

บลอกวันนี้เป็นฉบับคุณขอมานะค้า สำหรับคนที่อยากรู้เรื่องของหนังสือที่มีชื่อชุดว่า The Protectors ของเบฟเวอรี่ บาร์ตัน

หนังสือชุดที่มีจุดเริ่มต้นในช่วงปี 90 ที่แม้เวลาจะเกือบยี่สิบปีแล้ว ชุดนี้ก็ยังอยู่ในใจคนอ่านตลอดมา หนังสือชุดนี้เป็นเรื่องราวของคนที่ทำงานให้กับสำนักงานนักสืบและบอดี้การ์ด ที่มีชื่อว่าดันดี (ตามนามสกุลของผู้ก่อตั้ง) สำนักงานที่คนที่ไร้คู่ หรืออยากมีแฟน โปรดกรุณารีบเข้าไปทำซะ เพราะบริษัทนี้มีอัตราเทิร์นโอเวอร์ของพนักงานสูงมาก และส่วนใหญ่ก็มักจะลาออกไปแต่งงานกัน พล็อตเรื่องอาจไม่มีอะไรใหม่ หลายเล่มก็ลอกกันไปลอกกันมา แต่ก็ถือว่าเป็นหนังสือชุดที่คุณภาพโดยรวมของชุดอยู่ในระดับสูงค่ะ

จุดเด่นของชุดนี้ก็คือการเขียนบทส่งท้ายที่หวานแหว๋ว ทำให้คนอ่านเชื่อได้จริงใจว่าอนาคตของตัวเองจะโรยไว้ด้วยกลีบกุหลายเช่นไร บ้าง อ่านแล้วให้ความรู้สึกดีกับชีวิตอย่างยิ่งค่ะ

1. Yankee Lover (กรกฎาคม 1990)

หนังสือที่มีจุดเริ่มต้นของชุดผู้พิทักษ์นี่เป็นหนังสือเล่มเล็ก ที่ออกกับ Silhouette Desire ที่มีชื่อว่า Yankee Loverเรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับบริษัทดันดีหรอกนะ เพียงแต่ว่าพระเอกในเรื่องเป็นคู่หูกับแซม ดันดี ผู้ก่อตั้งบริษัท เล่มนี้ แฮ่ แฮ่ แม็กซ์ยังไม่ได้อ่านหรอกค่ะ ไม่ชอบดีไซร์ และไม่ชอบงานของเบฟเวอรี่ที่เขียนให้กับดีไซร์ด้วย

2. This Side of Heaven (ตุลาคม 1992)

เล่มนี้ก็ยังไม่ใช่เรื่องที่อยู่ในชุดผู้พิทักษ์อย่างเป็นทางการหรอกนะ แต่เกี่ยวข้องตรงที่แซม ดันดี (อีกแล้ว) เข้าไปโผล่อยู่ในเรื่องด้วย เรื่องนี้ถือเป็นการฝึกฝึมือของเบฟเวอรี่ ซึ่งแปลว่ามันยังไม่สนุกหรอกค่ะ เพียงแต่น่าจะสนุก แต่อ่านยังไงมันก็ดันไม่สนุก

3. Paladin's Woman (สิงหาคม 1993)

เรื่องนี้พูดได้อย่างเดียวค่ะ หนังสือที่ดีที่สุดของเบฟเวอรี่ บาร์ตัน ไม่ว่าแม็กซ์จะอ่านเรื่องไหนก็ตามของเธอ ทุกเรื่องจะถูกเปรียบเทียบกับหนังสือเล่มนี้ หนังสือที่มีครบทุกอย่างที่คุณต้องการในโรแมนซ์ พระเอกที่หล่อบาดใจสไตล์ลาติน (รู้รึยังว่าแม็กซ์มีจุดอ่อนตรงนี้) นางเอกที่ตกอยู่ในอันตรายที่พระเอกต้องมาคอยปกปักษ์คุ้มครอง นิค โรเมโร่เป็นนักสืบในสำนักงานดันดี (ที่ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่ได้อยู่ในชุดผู้พิทักษ์อย่างเป็นทางการ ทั้งที่มีองค์ประกอบทุกอย่างครบถ้วน) ที่บังเอิญไปช่วยหยุดยั้งความพยายามในการลักพาตัวทายาทสาวของอภิมหาเศรษฐี และกลายเป็นองครักษ์คุ้มครอบเธอ เรื่องราวที่เรียบง่ายแต่โดนใจ พล็อตที่ถ้าคนแต่งไม่แน่จริง ก็จะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเพียงหนังสืออีกเล่มนึงที่อ่านแล้วลึมผ่าน แต่ Paladin's Woman ที่แม้จะเขียนมานานกว่า 13 ปีแล้ว ยังคงอยู่ในใจแม็กซ์ โดยไม่รู้สึกถึงความเก่าแม้แต่น้อย

4. The Outcast (มกราคม 1995)

เล่มนี้ก็ยังไม่ใช่ชุดผู้พิทักษ์อย่างเป็นทางการ แต่เป็นเรื่องราวของหลานสาวของแซม ดันดี ที่เข้าไปพัวพันกับผู้ชายที่ไม่คู่ควรกับเธอ เขาเป็นลูกนอกสมรสของเศรษฐีในเมือง เป็นคนที่ถูกดูแคลนมาตลอดชีวิตว่าไม่มีวันประสบความสำเร็จในเรื่องใดเลย เป็นคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรตัวร้าย นิยายเรื่องนี้ถือเป็นแบบอย่างที่จูลี่ตัวละครในหนังสือเรื่องนึงที่ ถูกกล่าวขวัญกันมากที่สุดของจูดิธ แม็คน็อคเรื่อง Perfect ไม่มีวันเป็นได้ (ใครจำฉากที่เธอพาตำรวจมาจับพระเอกกันได้บ้างไหม) เพราะอลิซาเบ็ทเชื่อมันในผู้ชายของเธอ ไม่ว่าใครจะพูดว่ายังไงก็ตาม

5. Defending His Own (ตุลาคม 1995)

ในที่สุดก็มาถึงเล่มแรกอย่างเป็นทางการในชุดผู้พิทักษ์เสียที น่าแปลกที่แม้จะเป็นเล่มแรก แต่ตัวละครในเรื่องนี้กลับถูกพูดถึงน้อยที่สุด ไม่เป็นที่จดจำเอาเสียเลย พล็อตเรื่องไม่มีอะไรแปลกใหม่ เป็นเรื่องการกลับมาบ้านเกิดอีกครั้งของบอดี้การ์ดหนุ่ม แอช แม็คลาฟลินที่ทำให้เขาได้พบกับถ่านไฟเก่า ในหนังสือของเบฟเวอรี่นี่ เรื่องแนวถ่านไฟเก่ามีเยอะมาก และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่แม็กซ์ชอบงานของเธอ เพราะแม็กซ์ชอบพล็อตอย่างนี้ น่าเสียดายเรื่องนี้ไม่เป็นที่น่าจดจำเลยล่ะค่ะ อ่านเรื่องอื่นดีกว่านะคะ แต่ในเล่มนี้เองก็ได้แนะนำให้คนอ่านได้รู้จักกับตัวละครที่น่าจดจำที่สุดของ ชุดนี้ ไซม่อน โร้ค ที่ต่อมากลายเป็นพระเอกในหนังสืออีกเล่มที่แม็กซ์ยังคงกรี๊ดสลบจนถึงทุก วันนี้

6. Defending Jeannie (มกราคม 1996)

เล่มนี้เป็นเรื่องราวของแซม ดันดี เจ้าของสำนักงานนักสืบดันดี ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่ชื่อว่าจีนนี่ที่เป็นหมอรักษาทางจิตวิญญาณ เธอมีพลังจิตที่สามารถรับรู้ และซึมซับความรู้สึกของคนรอบข้างได้ เป็นอีกครั้งนึงที่กลิ่นอายแนวพารอนอมอลที่เบฟเวอรี่ใช้ในเรื่อง This Side of Heaven ถูกนำเอามาใช้อีกครั้งหนึ่ง และก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่มันไม่เวิร์ค น่าเสียดายเรื่องนี้มากค่ะ เพราะเป็นเรื่องของแซมเองด้วย ซึ่งถือว่าเป็นตัวสำคัญมากของชุดนี้

7. Blackwood's Woman (เมษายน 1996)

เป็นอีกเล่มนึงในชุดผู้พิทักษ์ที่น่าผิดหวัง แม็กซ์ไม่ชอบนางเอกที่อ่อนแอ และพล็อตเรื่องที่ทารุณจิตใจสาวน้อย (ในขณะที่อ่าน) ไปสักหน่อย เจ.ที. แบล็กวู้ดเป็นหุ้นส่วนในบริษัทดันดี (ที่น่าแปลกว่าหลังจากเล่มนี้แล้ว ไม่เคยมีใครพูดถึงเขาสักนิดในเรื่อง ทำเสมือนว่าแซมโกงหุ้นของเจ.ที.ไปหมดสิ้น แต่เราก็รู้ดีนี่ว่าพระเอกในหนังสือโรแมนซ์ไม่ทำอย่างนั้นกันหรอกใช่ไหม) ที่เข้าไปปกป้องสาวน้อยอ่อนแอ (แม็กซ์เกลียดนางเอกอย่างนี้) เลิกพูดแล้วกันเถอะนะคะ เล่มต่อไปดีกว่า

8. Roarke's Wife (กันยายน 1997)

หนังสืออีกเล่มของเบฟเวอรี่ที่อยู่ในระดับสุดยอดสำหรับแม็กซ์ พล็อตเรื่องเน่าสนิทสุดคลาสสิกสำหรับแม็กซ์ เรื่องราวที่นางเอกต้องหาซื้อผู้ชายมาเป็นพ่อพันธุ์ในกับตัวเองตามพินัยกรรม ของคุณปู่ที่กำหนดให้เธอแต่งงานและมีลูกภายในเวลาที่กำหนด และบรรดาญาติที่คอยแก่งแย่งชิงมรดก และมุ่งปองร้ายเธอ หนังสือที่พล็อตดูงี่เง่าสนุกขึ้นมาได้เพราะตัวละครที่ยอดเยี่ยม แม็กซ์ชอบทั้งโร้คและคลีโอ โอ้ยพูดแล้วอยากกลับไปอ่านอีกรอบจังเลย

9. A Man Like Morgan Kane (พฤศจิกายน 1997)

มอร์แกน เคนปรากฎตัวในเรื่อง Roarke's Wife ในฐานะของนักสืบหนุ่มที่สวมชุดของอาร์มานี่ และขับรถเฟอรารี่ เท่ห์ซะขนาดนั้น แล้วแม็กซ์จะไม่กรี๊ดได้ยังไง สำหรับเล่มนี้แม็กซ์ถือว่าเป็นเล่มล้างตา Defending His Own ค่ะ เพราะพล็อตเหมือนกันยังกับถอดด้ามมา เพียงแต่เล่มนี้สนุกค่ะ เรื่องราวของพระเอกที่เดินทางกลับบ้านเดิม และพบกับคนรักที่พลัดพรากกันไปนานของตัวเอง ผู้หญิงที่เขารักมาตลอดชีวิต แต่เพราะความกลัวที่จะผูกพันทำให้เขาสูญเสียเธอไป และนี่คือโอกาสที่สองของเขา คนที่จิตใจอ่อนไหวชอบนางเอกเอาะก็อย่าอ่านแล้วกัน เพราะเล่มนี้นางเอกปาเข้าไปสามสิบกว่า ตอนจบของเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แม็กซ์ชอบมากที่สุดในบรรดาตอนจบสุขสันต์ของ เบฟเวอรี่

10. Gabriel Hawk's Woman (มกราคม 1998)

เกเบรียล ฮ็อคค์เป็นด้านตรงข้ามของเคน เขาเป็นลูกครึ่งเม็กซิกันที่หยาบกระด้าง อดีตซีไอเอหนุ่มที่ผันตัวเองมาเป็นนักสืบในสำนักงานดันดีถูกว่าจ้างโดยครู สาวโรงเรียนอนุบาลให้เข้าไปในประเทศแถบอเมริกาใต้เพื่อตามหาพี่ชายของเธอ หนังสือแนวแรมโบ้โรแมนซ์ (ชอบชื่อที่แอน สจ๊วตตั้งนี้มากเลยล่ะ) ที่เป็นเรื่องราวการผจญภัยในป่าลึกในประเทศแถบอเมริกาใต้ของพระเอกและนางเอก สำหรับแม็กซ์เล่มนี้ถือเป็นแรมโบ้โรแมนซ์ที่ควรค่าแก่การอ่านอย่างยิ่ง

11. Keeping Annie Safe (กรกฎาคม 1999)

เดน คาร์ไมเคิลเป็นผู้บริหารสำนักงานนักสืบดันดีแทนที่แซม ดันดีที่เกษียณตัวเองไปหลังจากแต่งงาน และเล่มนี้เป็นคราวของเขาบ้าง ในระหว่างการพักร้อนตกปลาอย่างสงบ เขาก็เข้าไปพัวพันกับแอนนี่ที่ถูกลอบทำร้ายจากคนร้ายลึกลับซึ่งนำเขากลับไป ยังบ้านเกิด พล็อตมันคุ้นมากเลยใช่ไหมล่ะ เล่มนี้เป็นเรื่องที่แม็กซ์ตั้งความหวังไว้เยอะค่ะ เพราะชอบเดนมาก แต่ก็ผิดหวัง

12. Murdock's Last Stand (มกราคม 2000)

แรมโบ้โรแมนซ์อีกเล่ม แต่คราวนี้เป็นแรมโบ้ภาคสี่ค่ะ พระเอกนางเอกแก่ตัวกันแล้ว สี่สิบกว่าทั้งคู่ แต่สนุกนะคะ อาจจะสู้เกเบรียล ฮ็อคค์ไม่ได้ แต่ก็ถือว่าแรมโบ้ระดับคุณภาพสูงค่ะ เรื่องนี้เมอร์ด็อคได้รับการว่าจ้างจากแคธเทอลีนนางเอกให้พาเธอเข้าไปจ่าย เงินค่าไถ่ชีวิตบิดาที่หายจากกันไปนาน พล็อตง่ายไม่มีอะไรอีกแล้ว แต่แม็กซ์ชอบตัวละครค่ะ

13. Egan Cassidy's Kid (กรกฎาคม 2000)

หนังสือที่แม็กซ์อยากจะบอกว่า ลืมมันไปเสียเถอะ ไม่ใช่ว่าไม่สนุกมากหรืออะไรหรอกนะคะ แต่มันไม่มีอะไรที่น่าจดจำเลยต่างหาก

14. Navajo's Woman (มีนาคม 2001)

แม็กซ์ถือว่าเล่มนี้เป็น The Protectors: The New Generation นะค้า เพราะเป็นการเริ่มต้นตัวละครชุดใหม่เลย เนื่องจากชุดเก่าที่ใช้อยู่ก็พากันหนีงานลาออกไปแต่งงานกันหมดแล้ว เล่มนี้ก็เลยมีการแนะนำตัวละครใหม่หลายตัว เพราะให้คนอ่านดูตัวก่อนจะเป็นพระเอกในเล่มต่อไป แล้วว่าโจพระเอกจะเคยออกมามีบทชนิดที่น่าลืมเลือนในเรื่องแบล็กวู้ดมาแล้ว แต่ถ้าคุณจำเขาไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอกค่ะ และก็ไม่น่าแปลกอีกหรอกถ้าคุณอ่านเล่มนี้จบแล้วคุณก็จะยังจำเขาไม่ได้ เพราะเรื่องนี้อีกเช่นกัน ไม่มีอะไรน่าจดจำเลย

15. Whitelaw's Wedding (พฤษภาคม 2001)

นี่เป็นอีกเรื่องนึงที่ดูเหมือนจะสนุก แต่ก็ดันไม่สนุก เรื่องราวที่พระเอกต้องทำงานเกินหน้าที่ของความเป็นบอดี้การ์ดที่ต้องรับสม อ้างแต่งงานกะนางเอกไปในคราวเดียวกันเพื่อคุ้มครองชีวิตของเธอ พล็อตที่แม็กซ์ชอบ แต่ไม่สนุกค่ะ

ขอหยุดพักกลับบ้านก่อนนะคะ ตรงที่เล่มสิบห้านี่แหละ ยังเหลืออีกสิบกว่าเล่ม เดี๋ยวมาเล่าต่อค่ะ

No comments: