Saturday, February 7, 2009

Never Deceive a Duke // Liz Carlyle

แม็กซ์อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากนักว่า เรื่อง Never lie to a lady ไม่ สนุก เพราะ 77 คะแนนก็ไม่ถือว่าน้อยเลยนะ แต่กับมาตรฐานของลิซ คาร์ไลล์ที่ส่วนใหญ่ต้องได้ 80 ขึ้นไป ก็คงต้องยอมรับว่า น้อยไปหน่อยนะสำหรับนักเขียนอย่างเธอ

และอาจเป็นเพราะเล่มที่สองในชุดนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตัวละครที่ดูไม่น่าสนใจเอาเสียเลยเมื่อเขาออกมามีบทบาทใน NLTAL ก็เลยทำให้แม็กซ์ยิ่งไม่คาดหวังอะไรมากกับเรื่อง Never deceive a duke เท่าไหร แม้ว่าความอยากอ่านยังมีอยู่เต็มเปี่ยม ตามประสาแฟนหนังสือตัวยงของลิซ

โอเค ขึ้นด้วยคำเตือนเช่นเดิมค่ะ แต่ขี้เกียจพิมพ์น่ะ ดังนั้นโปรดกับไปอ่านคำเตือนใน NLTAL แล้วกัน ใจความสรุปว่า แม็กซ์โคตรชอบลิซ คาร์ไลล์เลย ดังนั้นบางครั้งอาจเกิดอาการชี้นกเป็นไม้ได้ง่ายได้

กาเร็ธ ลอยด์หุ้นส่วนหนึ่งในสามของบริษัทเดินเรือเนวิลล์ ถือว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างยิ่ง เมื่อคิดว่าเขามีจุดเริ่มต้นจากเด็กชายอายุสิบสามปีที่เริ่มทำงานในฐานะเด็ก รับใช้ทั่วไปในบาร์บาดอส เขากลายเป็นหนึ่งในคนที่มั่งคั่งที่สุดคนหนึ่ง แต่เขาไม่ได้เริ่มต้นชีวิตที่บาร์บาดอส เขามีอดีตที่กำลังจะกลับมาเยี่ยมเยียนเขาอีกครั้ง

อย่างที่เคยบอกไป กาเร็ธเป็นตัวละครที่ดูไม่น่าสนใจเอาเสียเลย ยามที่เขาปรากฎตัวในเรื่อง NLTAL เขาเป็นอดีตคู่รักของแซนเธีย นางเอกเล่มแรก ในเล่มก่อนหน้าเขาถูกปฏิเสธคำขอแต่งงานอย่างไม่เยื่อใย เพราะแซนเธียไม่ได้รักเขามากพอที่จะสูญเสียอิสระที่เธอแสนจะหวงแหนให้ได้ ไม่สำคัญเลยสักนิดว่าเขารู้จักกับเธอมาตั้งแต่อายุได้ 13 ปี หรือว่าเขาเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ เธอไม่เลือกเขา แต่กลับเลือกชายอีกคนที่เขาและพี่ชายของเธอไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าคู่ควรกับเธอ

เมื่อเปิดเรื่อง กาเร็ธต้องทำใจยอมรับกับความจริงอันนี้ และรับปากว่าจะเป็นผู้ดูแลบริษัทในยามที่แซนเธียเดินทางไปฮันนีมูน แต่แล้วอดีตที่เขาคิดว่าจบสิ้นไปแล้วก็กลับมาอีกครั้ง

เขาได้รับแจ้งจากทนายความถึง ลาภ ก้อนโต ไม่บ่อยครั้งนักหรอกที่ชนชั้นกลางที่ทำมาหากินด้วยแรงงานของตัวเองเช่นเขา จะได้รับสืบทอดบรรดาศักดิ์ดยุค แต่ในฐานะทายาทคนสุดท้ายของตระกูลเว็นเนอร์ กาเร็ธก็กลายเป็นดยุคแห่งวอร์นแฮม หนึ่งในบรรดาศักดิ์ที่ร่ำรวยที่สุดในเกาะอังกฤษ

และแม้ว่าเขาจะไม่ยินดีแม้แต่น้อยกับลาภที่ลอยมา แต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธหน้าที่ที่หล่นใส่บ่าของเขาได้ เขาไม่อาจเดินไปจากความรับผิดชอบ เพราะบรรดาศักดิ์และทรัพย์สมบัติที่ได้รับล้วนแต่มีภาระที่เขาต้องทำ คนมากมายที่พึ่งพาเขาในฐานะของดยุคอยู่ ซึ่งนั่นรวมทั้งดัชเชสม่ายคนปัจจุบันด้วย

แอนโทเนียเป็นตัวละครที่แม็กซ์มักจะเกลียดตั้งแต่แรกเห็น เธอเป็นความอ่อนแอ พึ่งพาตัวเองไม่ได้ ในฉากแรกที่เธอปรากฎตัวขึ้น แม็กซ์ไม่แน่ใจว่าเธอสติสะตังสมบูรณ์หรือไม่ ผู้หญิงที่โดนหนามกุหลาบแทงนิ้ว แต่กลับไม่รู้สึก ยืนนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บางอย่างในสมองของเธอต้องผิดปกติเป็นแน่

แต่ด้วยฝีมือของลิซ แม็กซ์ก็เริ่มเข้าใจเธอ รับรู้ถึงความทุกข์อย่างแสนสาหัสที่เธอต้องเผชิญ จนแอนโทเนียต้องหนีจากความเจ็บปวดด้วยการละทิ้งโลกภายนอก ตัดขาดจากทุกอย่างที่ทำให้เธอมีความรู้สึก เพื่อที่จะไม่เจ็บปวดอีก

และสำหรับกาเร็ธ หลังจากใช้เวลาเกือบค่อนชีวิตหลงรักผู้หญิงที่ไม่ต้องการเขาสักนิดในชีวิต การได้พบกับแอนโทเนียก็เป็นการเติมเต็ม แต่สิ่งที่ลิซทำได้ดีมาก ๆ ก็คือ ไม่เลยสักวินาทีเดียวที่เธอทำให้แม็กซ์รู้สึกว่า แอนโทเนียเป็นตัวแทนแซนเธีย ผู้หญิงทั้งสองคนแตกต่างกันอย่างมาก และที่ดีไปกว่านั้น แม็กซ์ไม่รู้สึกเลยว่าแอนโทเนียด้อยกว่าแซนเธีย ทั้งที่แม็กซ์มักจะชอบบุคลิกของผู้หญิงอย่างแซนเธียมากกว่า เธอเขียนให้แม็กซืเข้าใจถึงเหตุผลที่แอนโทเนียเป็นอย่างที่เธอเป็น และตัวตนของเธอก็คือคนที่เหมาะสมกับกาเร็ธมากที่สุด

หนังสือเล่มนี้ทำให้แม็กซ์นึกถึงงานของแมรี่ โจ พุธเนีย์ในยามที่รุ่งเรืองที่สุดของเธอ หนังสือที่เล่าเรื่องราวของตัวเอกที่มีอดีตอันทุกข์ทรมาน แต่เติบโตขึ้นเป็นคนที่เข้มแข็ง และไม่ปล่อยให้อดีตครอบงำ กาเร็ธมีชีวิตที่ยากลำบาก เขาเป็นหลานของชาวยิวที่โดนดูถูกและเหยียดยาม ที่มากไปกว่านั้น ด้วยวัยเพียงสิบสองปี เขาถูกญาติผู้มั่งคั่ง (ดยุคแห่งวอร์นแฮมคนก่อน) จับไปขายให้กับเรือเดินสมุทร ชีวิตนับจากนั้น คุณต้องไปอ่านเองนะ (แม็กซ์ยังตาบวมอยู่เลย) เขารักแซนเธียเพราะเธอเป็นตัวแทนของครอบครัวที่เขาถวิลหา เขาอยากเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเนวิลล์ ครอบครัวที่อ้าแขนรับเขาไว้เป็นส่วนหนึ่งในยามที่เขาไม่มีใครเลย

แต่เขารักแอนโทเนียอย่างที่ผู้ชายคนนึงจะรักผู้หญิง เขารักเธอมากพอจะปล่อยให้เธอเดินจากไปอย่างมีอิสระ แม้ว่าทุกอณูในกายเขาจะเรียกร้องให้เก็บเธอไว้ ใครล่ะจะไม่รักพระเอกอย่างนี้

และที่ดีไปกว่านั้น ในเรื่องนี้เรามีนางเอกที่ฉลาดพอจะรู้ว่า เธอต้องการอะไร เรามีพระเอกผู้เสียสละ แต่นางเอกก็ไม่โง่พอจะเข้าใจผิดแล้วเดินจากไป ส่วนประกอบที่ดีที่สุดที่โรแมนซ์เล่มหนึ่งจะมีได้

หนังสือเรื่องนี้ไม่มีอะไรมากหรอกนะคะ พล็อตเรื่องธรรมดาที่พระเอกไม่ใช่กระทั่งคนที่ไขคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นใน เรื่องด้วยซ้ำ (ซึ่งแม็กซ์คิดว่าแบบนี้เวิร์คกว่า เพราะว่าพระเอกไม่ต้องเสียเวลาที่จะใช้กับนางเอกไปกับการสืบคดี ปล่อยให้มืออาชีพอย่างเคมเบิ้ลเป็นคนสืบดีกว่า) เรื่องราวของคนสองคนที่ไม่สมบูรณ์แบบ แต่เหมาะสมกับกันและกันอย่างที่สุด เรื่องราวของผู้หญิงที่คิดว่า ชีวิตของตนเองจบสิ้น (จนต้องฆ่าตัวตาย) แต่กลับพบว่าตัวเองมีโอกาสที่สอง และผู้ชายที่พบกับคนที่เขารอคอยมาตลอดชีวิต

สุดท้ายเรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอ่านเรื่องที่รันทดสักหน่อยนะ เพราะภูมิหลังของทั้งพระนางก็ผ่านอะไรมาเยอะ แต่สำหรับแม็กซ์ น้ำตาที่เสียให้ ทำให้เรื่องนี้อาจจะเป็นหนังสือที่ดีที่สุดของปีนี้ค่ะ

คะแนนอยู่ที่ 95

No comments: