Friday, February 6, 2009

Night Season // Eileen Wilks

ก่อนจะเริ่มพูดถึงเล่มนี้ก็คงต้องแนะนำก่อนเลยว่า อย่าหยิบเล่มนี้มาอ่านเป็นเล่มแรกในชุด เพราะคุณจะอ่านไม่รู้เรื่อง กล้ารับประกันความไม่รู้เรื่องเลยนะ

ถ้าเป็นไปได้ ก็แนะนำให้ไปตามอ่านเล่มหนึ่งถึงสามในชุดเสียก่อน จะได้รู้ว่าตัวละครเป็นใครมาจากไหนกันบ้าง แต่ถ้าไม่มีเวลา หรือความอดทนขนาดนั้น ก็คงต้องบอกว่า อย่างน้อยก็ต้องอ่านเรื่องสั้นสองเรื่องนี้ค่ะ

Originally Human เป็นเรื่องสั้นที่อยู่ในหนังสือรวมเรื่องสั้นเรื่อง Craving ตัวละครในเล่มนี้ไม่ได้มีบทบาทโดยตรงกับ Night Season หรอกนะ เพียงแต่มันบอกที่มาที่ไปของเหตุการณ์ที่พลังเวทมนตร์กระจายฟุ้งไปทั่วโลกจน ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์เสียหายหนัก และสุดท้ายทำให้รัฐบาลต้องทำข้อตกลงกับมังกรให้เข้ามาอาศัยอยู่ในโลกของเรา กันได้ และเล่มนี้ก็กล่าวถึงเหตุการณ์ที่คัลเลนพระเอกใน Night Season มีโล่ห์ทางจิตที่เข้มแข็งขนาดที่ไม่มีใครเจาะความลับในสมองได้

ตัวเอกในเรื่องนี้แท้จริงแล้วคือไมเคิลและมอลลี่ ที่จนป่านนี้ก็ยังไม่ปรากฎตัวในเรื่องชุดนี้ชนิดที่เป็นเล่มยาวค่ะ แต่เชื่อได้ว่าเขาจะมีความสำคัญอย่างยิ่งกับชุดนี้แน่นอน

ส่วนเรื่อง Inhuman เป็นเรื่องสั้นเช่นกัน อยู่ในหนังสือเรื่อง On the Prowl เล่มนี้เล่าเรื่องของเนธานและไค ซึ่งเป็นตัวละครลึกลับที่ปรากฎตัวในบทนำของ Night Season ถ้าคุณไม่ได้อ่านเล่มนี้ล่ะก้อจะเกิดอาการงงไปพักใหญ่ เพราะไม่รู้ว่าสองคนนี้มันเป็นใคร หรืออะไรกันแน่

แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเลวร้ายขนาดทำให้อ่านไม่รู้เรื่องหรอกนะ เพราะแม็กซ์เองก็ยังไม่ได้อ่านเรื่องนี้ ก็ยังพอกล่ำกลืนอ่านจนรู้เรื่องจนได้

แล้วก็มาถึงเล่มที่ตั้งใจพูดถึงกันเสียที กับ Night Season

คงต้องบอกว่าเสียใจด้วยสำหรับคนที่คาดว่าจะได้อ่านพารานอมอลโรแมนซ์ เน้นตรงคำว่าโรแมนซ์นะคะ เพราะว่าแม็กซ์ดูทิศทางของหนังสือชุดนี้แล้ว มันมุ่งหน้าไปอย่างแนวพารานอมอลมากกว่าโรแมนซ์ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโรแมนซ์ มันมี แล้วก็ดีเสียด้วยนะ เพียงแต่มันไม่ใช่จุดโฟกัสของเรื่อง ไม่ในจุดมุ่งหมายของตัวละคร ความซับซ้อนของโลกแห่งเวทมนตร์ ประตูระหว่างโลกหลายมิติต่างหากที่เป็นประเด็นหลัก

ส่วนหนึ่งคงเพราะอีลีนเขียนโรแมนซ์ระหว่างตัวเอกที่ดำเนินเรื่องอย่างรู ลและลิลลี่ (รวมทั้งคัลเลนและชินน่า) ได้ดีมากในเล่มต้น ๆ ทำให้เล่มต่อมาไม่จำเป็นต้องไปเน้นที่จุดนั้นอีก มันลงตัวมากไปกว่าครึ่งแล้ว การย้อนกลับมาเล่นประเด็นความรักความสัมพันธ์ของตัวเอกอีกย่อมเป็นการเสีย เวลาและน่าเบื่อ สู้ก้าวไปข้างหน้ากับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดีกว่า

ตัวเอกในเล่มนี้เปลี่ยนไปจากรูลและลิลลี่ (ที่เป็นตัวหลักในสามเล่มแรก) มาเป็นคัลเลนและชินน่า ซึ่งเป็นตัวละครรองที่มีบทสำคัญมาตลอด คราวนี้ถึงเวลาที่ชินน่าต้องเผชิญกับความสัมพันธ์ชนิดที่เธอปฏิเสธตัวเองมา ตลอดว่ามีกับคัลเลน แต่ในเล่มนี้เธอปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเธอพบว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ลูกของเขาอยู่

นั่นไม่ใช่ปัญหาเดียวที่เธอต้องเผชิญ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเนื่องจากเหตุการณ์ที่เรียกกันว่า "The Turning" ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดในเล่มสาม เหตุการณ์ที่เวทมนตร์กลับมาครอบคลุมพื้นผิวโลกมนุษย์อีกครั้ง แต่เทคโนโลยีของโลกมนุษย์ไม่อาจไปกันได้กับเวทมนตร์ มนุษย์โลกเผชิญหน้ากับความล้มเหลวทางเครื่องคอมพิวเตอร์ พบกับสัตว์ประหลาดที่เคยคิดว่ามีอยู่แต่ในตำนาน

ผู้มาเยือนที่เจาะจงขอพบชินน่าและลิลลี่มาจากโลกที่เรียกกันว่า "Edge" พวกเขาต้องการให้ชินน่า (ซึ่งมีความสามารถในการหาของที่หายไป) หาของบางสิ่งให้พวกเขา โดยนำพ่อที่ชินน่าคิดว่าตายไปนานแล้วมาล่อ พวกนั้นบอกชินน่าว่าพ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่ในเอ็ดจ์ และกำลังรอคอยการกลับมาของเธอ

คัลเลนถูกเรียกตัวมาเพื่อร่ายมนตร์ เขาเป็นองค์ประกอบที่ไม่น่าเป็นไปได้ การที่เป็นทั้งหมาป่าและพ่อมดเป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้น นั่นทำให้เขาถูกขับไล่ออกจากเผ่า ทอดทิ้งโดยบิดา เขาเพิ่งได้รับการยอมรับเข้าเผ่านิโคไลโดยรูล (ในเล่มหนึ่ง) บางอย่างผิดพลาดและทำให้ทั้งคัลเลน ชินน่า และอีกหลายคนถูกส่งไปยังเอ็ดจ์ ที่ซึ่งพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับโลกใหม่ที่ไม่เคยรู้จัก

อย่างที่บอกค่ะ เรื่องชุดนี้กลายเป็นแนวแฟนตาซีเต็มสตรีมไปแล้ว สนุกนะคะ แม็กซ์คิดว่าอีลีนเขียนพล็อตเรื่องได้น่าติดตาม อาจจะสอบตกเรื่องโรแมนซ์ แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะอย่างที่บอกแม็กซ์คิดว่า เธอเขียนเรื่องความรักระหว่างตัวเอกได้ชัดเจนพอควรมาแล้วในเล่มก่อน ในเล่มนี้ก็แค่เน้นย้ำในสิ่งที่ตัวละครลังเล

สนุกค่ะ คะแนนคงสูงกว่านี้ถ้าเป็นเรื่องของรูลและลิลลี่ (เพราะแม็กซ์ชอบรูลมาก) แต่ก็โอเคน่ะ (สำหรับคนที่เคยอ่านเรื่องชุดนี้มาก่อน แต่ถ้าไม่เคยอ่าน ก็ขอว่าอย่ามาเริ่มที่เล่มนี้กันเลย)

คะแนนที่ 67

No comments: