Saturday, February 7, 2009

The Unfortunate Miss Fortunes // An Anthology

แม็กซ์ชอบชื่อหนังสือเรื่อง The Unfortunate Miss Fortune มาก ค่ะ เป็นชื่อหนังสือที่ตั้งได้ถูกใจแม็กซ์มาก ทำให้เรื่องดูน่าสนใจมาก และเมื่อเล่มนี้เขียนโดยนักเขียนที่แม็กซ์ชอบมากถึงสามคนด้วยกัน ก็ยิ่งทำให้เล่มนี้เป็นเล่มที่พลาดไม่ได้เลย

แต่ก็เหมือนหนังสืออีกหลายเล่มที่แม็กซ์คาดหวัง แม็กซ์ผิดหวัง อาจเพราะหวังไว้สูงเกินไป และเช่นเดียวกับหนังสือที่ร่วมมือกันเขียนหลายคน ความไม่ต่อเนื่องในเรื่องราว และวิธีการเล่าเรื่องที่แตกต่างกันของแต่ละนักเขียนทำให้การอ่านสะดุดไม่ต่อ เนื่องนัก

นักเขียนทั้งสามคน เจนนิเฟอร์ ครุยซี่, แอน สจ๊วต, และเอลีน ไดร์เยอร์เป็นนักเขียนที่แม็กซ์ติดตามผลงานมานานแล้ว แต่ทั้งสามคนมีสไตล์การเขียนเรื่องที่แตกต่างกันอย่างมาก

เจนนิเฟอร์ ครุยซี่เป็นเจ้าแม่แห่งการเล่าเรื่องไม่เป็นเรื่อง นั่นคือเธอสามารถทำให้พล็อตเรื่องที่ไร้สาระอย่างที่สุดกลายเป็นหนังสือแสน สนุกขึ้นมาได้ ภาษาของเธอฉลาด ทันคน และแยบยล ตัวละครของเธอดูเป็นคนที่ประหลาดที่สุด แต่ในขณะเดียวกันก็น่ารักได้อย่างที่สุดด้วย

แอน สจ๊วตเป็นนักเขียนไม่กี่คนที่กล้าเล่าเรื่องราวจากด้านมืด ตัวละครของเธอจะอยู่บนขอบเหว การกระทำบางอย่างของพวกเขาอาจหมิ่นเหม่ศีลธรรม แต่แอนอาจเป็นนักเขียนคนเดียวที่ทำให้เราส่งเสียงเชียร์เหล่าตัวเอกที่ พฤติกรรมอาจจะไม่ใช่พระเอกนัก

ส่วนเอลีน ไดร์เยอร์เป็นคนที่อยู่ตรงกลางของนักเขียนทั้งสองคน เรื่องราวของเธอจะเน้นไปด้านชีวิต แต่ยังไม่ลืมมุขตลกที่สอดแทรกในเรื่อง

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสั้นที่เขียนโดยนักเขียน สามคน แต่เป็นเรื่องราวของสามพี่น้องที่เล่าเรื่องโดยนักเขียนแต่ละคน ผสมผสานกันไปเป็นหนึ่งเดียวในเรื่อง

The three Fortune sisters of Salems Fork have a few problems, like the supernatural powers they havent quite mastered yetDees a shapeshifter, Lizzie transmutes things, and Mares psychokineticand their Aunt Xan whos clearly up to no good. But one fine Friday morning they each meet a manMare gets twoand after that their lives are full of outraged owls, purple bunnies, libido spells, and beds that go bump in the night (on the ceiling).

สามสาวพี่น้องผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ หลบหนีจากน้าผู้ร้ายกาจหลังจากการตายของพ่อแม่เป็นเวลากว่า 11 ปี แล้ววันนึงผู้ชายสามคน (อาจจะพอบอกได้ว่า 4 คนก็ได้) ก็เดินเข้ามาในชีวิตพวกเธอ พวกเขาเป็น รักแท้ ที่น้าของเธอส่งมาให้

เดียเดร หรือดี พี่สาวคนโตผู้มีความสามารถในการแปลงร่าง เล่าเรื่องโดยเอลีน ไดร์เยอร์ ซึ่งจะว่าไปแล้วเป็นเรื่องที่อ่อนที่สุดในชุด เราถูกบอกว่าเธอเป็นคนเข้มแข็ง เป็นหลักยึดในครอบครัว เป็นคนที่พาน้องหนีออกมาจากอันตราย แต่ในเรื่องเราเกือบจะไม่ได้เห็นความแข็งแกร่งของดีเลย ความรักของเธอที่มีต่อแดนนี่ เจมส์ก็เหมือนอ่านนิยายรักนักศึกษา เพราะมันเบาบาง และไม่น่าเชื่อ

ลิซซี่ น้องคนกลาง ที่สามารถแปลงสภาพของได้ ถูกถ่ายทอดโดยแอน สจ๊วต นี่เป็นตัวละครที่เราชอบเรื่องของเธอที่สุด แต่นั่นก็ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่ดี ถ้าเทียบกับมาตรฐานของแอนนะคะ อาจเพราะแอนต้องเขียนร่วมกับนักเขียนที่ขึ้นชื่อในการเขียนเรื่องที่เต็มไป ด้วยเสียงหัวเราะ ทำให้เรื่องราวที่เธอเล่าขาดองค์ประกอบหลักที่ทำให้งานของเธอโดดเด่น ความอึดอัดในบรรยากาศ (แปลมาจากคำว่า Edgy ค่ะ ไม่รู้ว่าแปลไทยถูกไหม แต่นี่เป็นคำที่เราต้องการใช้) เราไม่ได้ความรู้สึกนี้เลย ทุกอย่างดูมันสบาย ๆ ผ่อนคลายไปเสียหมด แต่อย่างน้อยความรักระหว่างลิซซี่และพ่อมดผู้ทรงอำนาจ ที่เดินทางมาเพื่อควบคุมเธออย่างเอลริคก็ยังน่าสนใจ ทำให้แม็กซ์อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าแอนเขียนเรื่องของลิซซี่คนเดียวทั้งเล่ม เรื่องนี้จะน่าสนใจมากขนาดไหน

น้องนุชสุดท้องอย่างแมร์เป็นตัวละครในแนวถนัดของ เจนนิเฟอร์ ครุยซี่ สาวน้อยวัยยี่สิบสามที่รักอิสระ และทำอะไรไม่เป็นโล้เป็นพาย แมร์ปฏิเสธที่จะเรียนมหาวิทยาลัย พอใจกับการทำงานในร้านวิดีโอ และไม่ยอมที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง รักแท้ของเธอมาพร้อมกันสองคน หนึ่งคือรองประธานบริษัทวีดีโอที่เธอทำงานอยู่ ชายหนุ่มที่หน้าตาเหมือนจู๊ด ลอว์ แต่มีความลับที่น่าขำมากกว่านั้นมาก และแครชเด็กหนุ่มในอดีตที่เคยเดินออกจากชีวิตของแมร์มาก่อน แต่คราวนี้เขากลับมา เพื่อเธออีกครั้ง

และอีกเช่นกันที่เจนนิเฟอร์ดูเหมือนจะจำกัดตัว เอง อารมณ์ขันที่เธอโดดเด่นดูเฝือดไปชอบกล อาจเป็นเพราะเธอต้องปรับสไตล์ และภาษาให้เข้ากับนักเขียนอีกสองคนที่เหลือ

อีกอย่างที่แม็กซ์ไม่ชอบมาก ก็คือ ในเล่มนี้คนอ่านจะไม่เห็นมุมมองของพระเอกเลยแม้แต่น้อย นี่เป็นโรแมนซ์ในยุค 2000 แล้วนะ ถ้าไม่ใช่เรื่องที่เล่าโดยใช้คำว่า ฉัน แม็กซ์ก็อยากรู้ว่า ผู้ชายในเรื่องคิดอะไรกันบ้าง และนี่แหละอาจเป็นเหตุผลใหญ่ที่เรื่องนี้ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร

คะแนนที่ 57

No comments: