ในบรรดาหนังสือชุด เกือบทุกชุดก็มักจะมีตัวละครที่โดดเด่นเหนือตัวอื่นเพื่อสร้างความอยากอ่านให้กับคนอ่าน แต่สำหรับชุด Black Dagger Brotherhood ของ เจอาร์ วาร์ด แม็กซ์กลับไม่รู้สึกอย่างนั้น ตัวละครทุกตัวในเรื่องมีความสำคัญเกือบจะเท่าเทียมกัน ขึ้นอยู่กับว่าคนแต่งจะโฟกัสกับตัวละครไหนมากกว่ากัน
แต่ถึงอย่างนั้นแม็กซ์ก็ยังมีตัวละครที่ตัวเองให้ความสนใจ และชอบมากกว่าตัวอื่น และเล่มนี้คือเรื่องของเขา
วิสชั่น ตัวละครที่โผล่ออกมาในตอนแรก แม็กซ์ก็รู้สึกว่าเขามีบางอย่างที่ลึกลับกว่าคนอื่น (ทั้งที่เรื่องของเกือบทุกคนก็ลึกลับมากพออยู่แล้ว) น่าค้นหา และน่าสนใจ
ตลอดเวลาในสี่เล่มที่ผ่านมา ความน่าสนใจของวีเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ เหมือนเสียงกลองที่ยิ่งตีดังขึ้น เพื่อเรียกแขกให้เข้ามาชมเรื่องราวของเขา
และแม็กซ์ยินดีที่จะพูดว่า แม็กซ์รู้สึกว่าทุกอย่างคุ้มค่ากับการรอคอย
Ruthless and brilliant, Vishous son of the Bloodletter possesses a destructive curse and a frightening ability to see the future. As a pretrans growing up in his father's war camp, he was tormented and abused. As a member of the Brotherhood, he has no interest in love or emotion, only the battle with the Lessening Society. But when a mortal injury puts him in the care of a human surgeon, Dr. Jane Whitcomb compels him to reveal his inner pain and taste true pleasure for the first time- until a destiny he didn't choose takes him into a future that cannot include her. |
คงไม่ต้องเตือนว่าสปอยล์นะคะ
วีในเล่มของเขาเอง กับ Lover Unbound ก็ ยังคงเป็นวีที่แม็กซ์คาดหวัง และคิดว่าเขาควรจะเป็น (ถ้าไม่นับว่าในเล่มแรกเขามีรอยสักที่มือข้างซ้าย แล้วมันย้ายมาข้างขวาได้เอง) พฤติกรรมที่ออกแนววายก็ยังคงอยู่ ที่มากกว่าเขายอมรับ และพูดออกมา
จะมีหนังสือโรแมนซ์สักกี่เล่มที่พระเอกพูดออกมา ว่ารักผู้ชายอีกคน มันน่าจะดูน่ารังเกียจ แต่ด้วยพรสวรรค์ล้วน ๆ เจอาร์ วาร์ดเขียนออกมาได้นุ่มนวล และยอมรับได้ เธอขนาดให้เหตุผลกับความรู้สึกที่ราวกับจะผิดธรรมชาติอันนี้
จุดเด่นของชุด BDB ก็คือ เจอาร์ไม่เคยใช้พล็อตเรื่องที่ซ้ำซาก ตัวละครทุกตัวมีความแตกต่าง และเหมือนกัน ความรักพวกเขามีเส้นทางการไปสู่ความแฮ็ปปี้เอนดิ้งที่ต่างกัน คนอ่านไม่อาจคาดหวัง หรือคิดว่ามีสูตรสำเร็จได้เลย และในเล่มนี้ ความรักระหว่างแวมไพร์และมนุษย์ก็ไม่ได้จบอย่างที่คนอ่านอาจจะยิ้มหวาน เป็นมีความสุขที่ปนด้วยความขม จุดจบที่แม้แต่แม็กซ์เองยังรู้สึกว่า เจอาร์ใจร้ายกับวีมากไปหน่อย
แต่มันอาจจะเป็นจุดจบเดียวที่เป็นไปได้ ในเรื่องความรักข้ามสายพันธุ์ระหว่างมนุษย์ที่มีอายุขัยจำกัด และแวมไพร์ที่ไม่ใช่คนธรรมดา หากแต่เป็นลูกชายของเทพเจ้าในหมู่ของแวมไพร์ด้วยกัน
เล่มนี้วีเอานิสัยของพวกคาร์พาเธียนมาใช้ เพราะเพียงแว่บแรกที่เห็นเจน เขาก็นึกคำพูดที่คาร์พาเธียนทุกคนใช้จนเป็นนิสัย เขาเรียกเธอว่า ของฉัน ความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ความผูกพันที่ถูกกำหนดโดยโชคชะตา ส่วนใหญ่แม็กซ์จะไม่ชอบเรื่องแนวนี้นัก เพราะมันไม่ได้สื่อถึงความรัก ความผูกพันของตัวละครเลย เป็นความบังเอิญที่คนคนนี้ดันเป็นนางเอก พระเอกถึงต้องการ
แต่ในเรื่องนี้มันเวิร์คมาก ๆ อาจเป็นเพราะแม็กซ์หลงไปกับเรื่องราวของเหล่า BDB จน ลำเอียงไม่คิดถึงหลักเหตุผลเท่าไหรนัก แม็กซ์อาจจะยอมรับกับความรู้สึกเป็นเจ้าของของวีที่มีต่อเจน เพราะเมื่อทั้งคู่มีโอกาสอยู่ด้วยกันและรู้จักกัน ความเหมาะสมของทั้งคู่มันเด่นชัดมาก จนแม็กซ์ยอมรับได้ว่า อย่างไรเสียคนทั้งสองก็เป็นคู่ของกันและกัน
แม็กซ์ไม่แน่ใจว่าคนที่ไม่เคยอ่านเรื่องในชุดนี้มากก่อนจะตามเรื่องราวในเล่มนี้ทันไหม เล่มนี้อาจไม่ใช่เรื่องเริ่มต้นของ BDB แต่สำหรับแม็กซ์ ตอนนี้เล่มนี้คือเล่มที่ดีที่สุดในชุด
นั่นก็เพราะวีและเจนเป็นตัวละครที่ลงตัวมากที่ สุด แม็กซ์ชอบความบกพร่อง ข้อเสีย และทุกอย่างที่เป็นวี เขาเติบโตท่ามกลางความรุนแรง เป็นลูกชายของนักรบชื่อก้องที่โหดเหี้ยม และในเล่มนี้เองเขาก็ได้พบกับแม่ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน นั่นมันมากเกินกว่าที่เขาจะคาดฝัน เมื่อแม่ของเขาคือ The Scribe Virgin ที่ ไม่ได้เป็นสาวพรหมจรรย์เหมือนดั่งชื่อ แม่ที่เรียกร้องให้เขาทำหน้าที่ที่เขาเกิดมาเป็นทำ เป็นผู้ให้กำเนิดเหล่าบราเธอร์ในรุ่นต่อไป เพื่อเป็นสายพันธุ์ที่เข้มแข็งในการสร้างนักรบเป็นกองกำลังให้กับเธอ
เขาตอบตกลง แต่นั่นก็ก่อนที่เขาจะได้พบกับเจน หญิงสาวที่สอนเขาให้รู้จักถึงทุกอย่างเกี่ยวกับความรัก เจนเป็นหมอผ่าตัดที่โชคชะตากำหนดให้เธอเป็นคนช่วยชีวิตเขา เมื่อวีถูกยิงจากศัตรูลึกลับ เธอถูกดึงเข้าไปเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ที่ไม่ใช่พวกเดียวกับเธอ ผู้ชายที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดที่เธอเคยพบ
ชายในฝัน ในคำทำนายของเธอ
เรื่องนี้อาจจะเริ่มต้นเหมือนคาร์พาเธียนเมื่อวีเห็นเจนแล้วออกอาการ ของฉัน โดยลักพาตัวเธอไปยังบ้านพักของเหล่า BDB แต่ปฏิกริยาของคนทั้งสองหลังจากนั้นต่างหากที่ทำให้เรื่องนี้เข้ามาอยู่ในใจของแม็กซ์ เจนเป็นทุกอย่างที่บุชเป็น และมากกว่านั้น
แม็กซ์เชื่ออย่างเต็มหัวใจ ที่ทำไมวีถึงคิดว่าตัวเองรักบุช นั่นก็เพราะตลอดชีวิตของวี เขารอคอยเจน และบุชเป็นคนที่เหมือนเธอมากที่สุด จึงไม่แปลกเลยที่เขาพบว่าตัวเองต้องการบุช แต่เมื่อเจนปรากฎตัวขึ้น ก็ไม่มีความรู้สึกใดเหลืออีก นอกจากความเป็นเพื่อน เราไม่รู้นะว่าคิดเข้าข้างเจนมากเกินไปไหม แต่ขอบอกว่า ระหว่างที่อ่านเล่มนี้ เราไม่คิดเลยสักนิดว่าเจนเป็นตัวแทนของบุช หากแต่เป็นในทางกลับกันมากกว่า
เจนเป็นทุกอย่างที่วีต้องการ เธอยอมรับตัวตนแท้จริงของเขาได้ เธอยอมรับเขาได้เมื่อคิดว่าเขาเป็นเกย์ เธอยอมรับเขาได้เมื่อเธอรู้อดีตของเขา เธอยอมรับเขาอย่างที่เขาเป็น แต่ความรักไม่เคยทำให้เธอตาบอด เจนเป็นตัวละครผู้หญิงที่แม็กซ์ชอบมากที่สุดแล้วในเรื่องชุดนี้
แล้วยังฉากเซ็กส์ในเรื่องอีกล่ะ มีหนังสือไม่มากนักหรอกนะที่ใช้ฉากนี้เป็นการสื่อความรู้สึก ฉากที่คอนโดของวี ที่เขายอมเสียความควบคุมที่เขายึดถือมาตลอดชีวิต เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยมีจากชีวิตในวัยเด็ก เขายอมสละมันเพื่อพิสูจน์ให้ผู้หญิงที่เขารัก ถึงความรักทั้งหมดที่เขามีต่อเธอ
แล้วยังคำพูดนี้อีกล่ะ เมื่อวีพาเจนมาส่งกลับบ้าน หลังจากใช้เวลาหลายวันกับเขา เขารู้ว่าตัวเองมีหน้าที่ที่ตกปากรับคำกับ The Scribe Virgin เอาไว้ เขาไม่อาจเลือกหญิงที่เขารักเหนือหน้าที่ได้ เขารู้ว่า เขาจะลบความทรงจำทั้งหมดที่เธอมีเกี่ยวกับเขา คำพูดสุดท้ายก่อนจากกัน I love you. And Im going to love you even after you dont know I exist
แล้วอย่างนี้วีจะไม่ใช่ตัวละครโปรดของแม็กซ์ได้ยังไง
และคงต้องทิ้งท้ายด้วยคำพูดเช่นเดิม หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ว่าจะสมบูรณ์แบบ แต่มันสมบูรณ์แบบสำหรับแม็กซ์ ความงดงามในความรักของวีและเจน ทำให้แม็กซ์มองข้ามข้อเสียทั้งหลายไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นที่พึ่งพาโชคชะตา ตอนจบที่ขมปนน้ำตา มันไม่ใช่ตอนจบที่แม็กซ์อยากให้วีและเจนมี แต่มันก็ไม่ถึงกับทำให้แม็กซ์ลดทอนความรักที่มีให้เรื่องนี้ลงได้
คะแนนที่ 90
ป.ล. ไม่รู้มีใครจะคิดเหมือนแม็กซ์ให้ แต่แม็กซ์เชียร์ให้จอห์นคู่กะแซกซ์น่ะ ท่าทางน่าจะเป็นคู่ที่ดูน่าสนใจมาก ๆ
ป.ล.ล. รู้สึกแบบคิดไปคนเดียวว่าแมนนี่น่าจะคู่กะเพนย์
No comments:
Post a Comment