หนังสืออีกเล่มที่ขึ้นต้นน่าสนใจ แต่ลงท้ายเป็นน่าเบื่อ แต่อย่างน้อยนี่ก็ยังดีกว่าหนังสือหลายเล่มของลูซี่ มอนโรที่แม็กซ์ได้อ่านพักหลังมานี้
อย่างน้อยก็ยังดีกว่าชุด Ready, Willing, and Able
Satisfaction Guaranteed เป็นหนังสืออีกเล่มที่ ชื่อเรื่องไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่อง แต่เมื่อคิดอีกที หนังสือเล่มนี้ก็ไม่เห็นจะมีเนื้อเรื่องอะไรที่น่าสนใจสักนิด
อาจเป็นโชคร้ายของลูซี่ มอนโรที่แม็กซ์เพิ่งอ่านหนังสือแนวโรแมนติกสืบสวนที่มีเซ็กซ์ซีนเอ็กซ์แบบสะใจเรื่องที่ดีที่สุดจบไปอย่าง Edge of Midnight ทำให้แม็กซ์ต้องอดเอามาเทียบกันไม่ได้ และก็เป็นเช่นทุกครั้งที่ลูซี่ มอนโรแพ้แชนน่อน แม็คเคนน่าราบคาบ (แต่สังเกตไหมว่า มีคนเอางานของลูซี่มาแปล แต่ไม่มีใครจับงานของแชนน่อนแม้แต่คนเดียว --- อาจเป็นความผิดที่รสนิยมของแม็กซ์ หรือไม่ก็ไม่มีใครตาถึงพอ)
Anytime, anyplace, Ethan Crane's your man. An agent's agent, hes tough, smart, and fearless. Exactly the guy you want when the stuff hits the fanand precisely the kind Beth Whitney avoids like the plague. It took a fiancé (make that ex-fiancé) in the business to teach her, but she's learned her lesson: Don't. Date. Agents. Ever. It's this little rule that's kept her gainfully employed at the agency, doing her part for world security from behind a desk. So when a case throws the two together, Beth's determined to keep it strictly professional. So far, so goodexcept for the steamy kisses, the red-hot phone sex, and...What was that rule again? To Ethan, Beth couldn't be less his type if her father ran the agency, which, oh yeah, her father does run the agency. Still he can't help but be impressed by her inspired work in the fielda total turn on. Off the field its even better. Seems the old adage that opposites attract happens to agents too. Even if Beth insists its just a fantasy. But hot pursuit of a notorious information broker is what they should focus onnot each other. That can wait until theyve accomplished a job well done. Or can it? |
SG เป็นหนังสือเล่มแรกในชุด The Goddard Project ซึ่ง เป็นองค์กรลับสุดยอด (อีกหนึ่งองค์กรที่กระจายอยู่ทั่วโรแมนซ์) ที่ทำหน้าที่บางอย่าง (ไม่บอกชัดเจนในเรื่อง) ที่ยอมให้พ่อที่เป็นหัวหน้าองค์กรเอาลูกสาวมาเป็นเลขาได้
และลูกสาวที่ทำงานฝ่ายแอดมิน และแอบปิ๊งพระเอกที่เป็นสายลับมาตลอดสองปีที่ผ่านมา เรื่องมาเข้มข้นขึ้นเมื่อพ่อนักจับคู่ ดึงตัวอดีตคู่หมั้นของนางเอก เบ็ธ เข้ามาทำงานด้วยใน TGP และทำให้อีธานเริ่มหึง <อ่าน เรื่องนี้แล้วเข้าใจแล้วว่าทำไมบินลาเดนถึงโจมตีตึกเวิร์ดเทรดในเหตุการณ์ 9/11 ได้โดยไม่องค์กรไหนในอเมริการู้ทัน ก็เพราะหัวหน้าองค์กรมัวแต่เอาเวลาไปยุ่งกับชีวิตรักของลูกสาวอยู่ไง>
แล้วคุณพ่อตัวดีก็เดินแผนสองด้วยการสั่งให้เบ็ธปลอมตัวเข้าไปสืบความลับจากผู้ร้าย <พ่อ ที่ถูกบรรยายว่ารักลูกสาวสุดหัวใจ สั่งให้ไปทำงานเป็นสายลับ โดยไม่สนใจจะสืบดูสักนิดว่า ผู้ร้ายมันเป็นพวกโรคจิต ชอบจับผู้หญิงลักษณะเดียวกับเบ็ธไปเป็นทาสเพื่อทำมิดีมิร้ายทางเพศ สมควรได้รางวัลพ่อตัวอย่างจริง ๆ>
แล้วก็เพื่อผลักดันให้เป็นไปตามแผนของตัวเองก็ ไล่ให้อีธานและเบ็ธไปทำความรู้จักกันให้แนบแน่น เพื่อที่จะเล่นละครเป็นคู่รักในการหลอกลวงผู้ร้ายให้เชื่อสนิท
จากนั้นหนังสือก็ใช้เวลาครึ่งเรื่องเล่าถึงวิธี การทำความรู้จักกันของสองสายลับชั้นแนวหน้า ด้วยการค้นตู้เสื้อผ้าของนางเอกแล้วก็เจอบรรดาชุดชั้นในเซ็กซี่ และของเล่นก่อนนอนของนางเอก ตามมาด้วยโทรศัพท์สยิว แล้วก็มาถึงจุดที่พระเอกรู้สึกอึดอัดกับความ เข้มข้น ของความสัมพันธ์เลยมาสั่งนางเอกให้ เรามีเซ็กส์กันแบบไม่จริงจัง
อย่างน้อยนางเอกก็ยังมีศักดิ์ศรีพอที่จะปฏิเสธ
ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้เลวร้ายนะ แต่มันไม่เหมาะจะเป็นเรื่องของพระเอกที่เป็นสายลับชั้นยอด เพราะพฤติกรรมและโทนเรื่องมันเป็นอย่างอื่นนอกจากความชั้นยอด ตัวละครผ่อนคลายเกินไปสำหรับคนที่กำลังเดินเข้าสู่ภารกิจเสี่ยงตาย ถ้านี่เป็นแนวออฟฟิสโรแมนซ์ (เจ้านายปิ๊งกะเลขา) แม็กซ์คงยอมรับได้ง่ายกว่านี้
นี่มันดูเหมือนเด็กเล่นขายของค่ะ เพราะไม่ว่าเขียนดี หรือวางตัวละครดียังไง อีธานและเบ็ธก็ไม่ใช่สายลับ
รู้สึกว่าลูซี่ จะติดโรคฮาร์ลิควิน เพรสเซ่นมากไปหน่อยค่ะ ในการวางพล็อตเรื่องนี้
สอบตกในเรื่องพล็อตที่ไม่มีความน่าเชื่อ ส่วนท้ายของเรื่องที่อ่านไปแบบซังกะตายเพราะโคตรน่าเบื่อ คะแนนเลยอยู่ที่ 53
No comments:
Post a Comment