Saturday, February 7, 2009

The Italian Prince's Pregnant Bride // Sandra Marton & A Husband's Vendetta // Sara Wood

ช่วงไม่ถึงสองอาทิตย์ แม็กซ์หยิบหนังสือของฮาร์ลิควิน เพรสเซ่นมาอ่านสองเล่ม ซึ่งนั่นแทบจะไม่ค่อยเกิดขึ้นเลย

สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ ฮาร์ลิควิน เพรสเซ่นคือหนังสือที่แนวเรื่องคล้ายกับลินน์ เกรแฮม ที่เขียนถึงพระเอกที่รวยล้นฟ้า เป็นคนต่างชาติที่ไม่ใช่อเมริกัน นิยมสัญชาติกรีก อิตาเลียน สเปนิชเป็นหลัก แต่ชาติอื่ก็ไม่ว่ากัน คุณสมบัติขอให้หล่อ รวย และดูเท่ห์ไว้ก่อน

ส่วนนางเอกจะเป็นสาวน้อยไร้เดียงสา สวย ใส (ไร้สมองนิดหน่อย) ที่สำคัญเป็นคนดี เสียสละ ส่วนใหญ่มักจะยากจน เพื่อให้เรื่องราวแนวซินเดอเรลล่าไปรอด

ข้อดีของเพรสเซ่นก็คือ อ่านง่าย จบเร็ว ส่วนใหญ่แม็กซ์ใช้เวลาราวชั่วโมงก็อ่านจบ เนื้อเรื่องไม่ต้องคิดมาก (แต่ถ้าอ่านเยอะเกินไปอาจเกิดอาการสำลักน้ำครำได้)

เพรสเซ่นสองเล่มที่แม็กซ์หยิบมาอ่านเขียนโดยนักเขียนสองคน แนวเรื่องที่แตกต่าง และคล้ายคลึงกันอย่างไม่น่าเชื่อ

It was payday for Prince Nicolo Barbieri. The Italian aristocrat's negotiations to take over Manhattan's SCB bank were about to bear fruit. But he wasn't expecting Aimee Black, granddaughter of the bank's current owner--who was pregnant with Nicolo's baby! Nicolo felt duty bound to marry Aimee and give his child his name. But Aimee had other ideas about surrendering herself to this arrogant foreigner, who surely didn't love her!

หนังสือเล่มแรกในชุดสามเล่มที่พระเอกเป็นเจ้าชายจากสามประเทศ โอเคแม็กซ์ไม่ค่อยรู้เรื่องไฮโซสมัยใหม่เท่าไหร แต่ยังงงอยู่ว่าอิตาลีนี่ยังมีเจ้าชายเหลืออยู่ด้วยเหรอ (อันนี้ไม่รู้จริงนะ) แล้วเนื้อเรื่องที่มันดูงงพิกล ที่พระเอกรังเกียจลูกคนรวย แล้วบรรยายเหมือนพระเอกเคยจนมาก่อน แต่ก็ไม่ได้เล่าอะไรมากกว่า (แต่ก็ไม่แน่อีกเช่นกัน เพราะแม็กซ์ยอมรับว่าอ่านเรื่องนี้แบบไม่ตั้งใจแม้แต่น้อย เพราะมันไม่น่าสนใจสักกะหน่อย)

และเหมือนกับเพรสเซ่นทุกเล่ม ที่นางเอกเป็นตัวการทำลายทั้งเรื่อง เอมี่เป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญ เรื่องบรรยายเหมือนคุณเธอจะเก่งแสนเก่ง เรียนจบปริญญาโท แต่เลือกที่จะทำงานให้ปู่ที่ไม่เห็นคุณค่าของเธอสักนิด แต่สาวน้อยเอมี่ก็ยังมีศักดิ์ศรีที่แม้จะเป็นลูกคนรวย ร้วย รวย เธอก็ไม่ยอมรับเงินของตระกูล อาศัยอยู่ในอพาทเมนต์ซ่อมซ่อ (แต่ดันรับเงินของตระกูลเรียนจนจบปริญญาโท -- ฝรั่งส่วนมากเขาไม่ใช้เงินพ่อแม่ในการเรียนปริญญาโทกันหรอกค่ะ อันนี้เป็นข้อเท็จจริงทั่วไปนะ) เอมี่รับเงินเพื่อเรียน แต่ไม่รับเงินเพื่อใช้ชีวิต

คนแต่งบรรยายว่าเธอเก่ง แต่ไม่เคยโชว์ให้คนอ่านเห็นถึงความเก่ง อันที่จริงเธอเก่งถึงขนาดว่า ถ้าไม่ทำงานให้ปู่ของเธอ เธอไม่มีปัญญาหางานที่อื่นทำด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเก่งยังไงค่ะ

เอมี่เป็นสาวน้อยสวยใสที่มีเซ็กส์กะพระเอกในครั้งที่สองที่เจอกัน ในห้องน้ำ ในบาร์ แม็กซ์ไม่คิดว่าแฟนเพรสเซ่นจะพอใจกับพฤติกรรมของเอมี่นักหรอกนะ แม็กซ์เองก็ยังรู้สึกประหลาด

เอมี่เป็นคนดี รักคุณปู่ (ที่นิสัยชั่วบัดซบ) ของเธอมาก จนยอมแต่งงานกับพระเอก เพื่อหาทายาทให้คุณปู่ เพื่อรับมรดก

เอมี่คือปัญหา ที่ทำให้แม็กซ์อย่างเขวี้ยงหนังสือเล่มนี้ทิ้งขยะ แต่ก็เสียดายเงินร้อยกว่าบาทที่ซื้อมา

เอมี่คือเหตุผลที่ทำให้เรื่องนี้ได้คะแนนแค่ 35 ค่ะ

เล่มที่สองเป็นเรื่องของซาร่า วู้ด นักเขียนทีตอนนี้แม็กซ์อยากจะบอกว่าเป็นคนแต่งของเพรสเซ่นที่แม็กซ์ยกให้เป็นนัมเบอร์วันแล้วนะ

เล่มนี้เป็นเรื่องที่สองของซาร่าที่แม็กซ์ ไม่ถึงกับดีเท่าเล่มแรก แต่ก็ยังดีกว่าเพรสเซ่นที่ลอยเกลื่อนอยู่ในตลาด

Although Luc Maccari's marriage had blistered with passion, his wife had abandoned him when he needed her most. Now Ellen wanted him back. Luc decided to teach her a lesson. He'd give her a taste of what she'd sacrificed the day she walked out.

เอเลนทิ้งลุคและเจมม่าลูกสาวของเธอไปหลังจากที่คลอดเจมม่าได้ไม่นาน นั่นทำให้ลุคเจ็บจนแทบขาดใจ เขารักเอเลนมาก แต่มันก็สอนบทเรียนให้เขา เอเลนเป็นสาวน้อยที่
ถูกตามใจ เธอเป็นลูกคนรวยที่ขัดคำสั่งบิดามาแต่งงานกับคนต่างชาติจน ๆ อย่างเขา และเมื่อชีวิตมันยุ่งยาก และไม่แสนสุขอีกต่อไป เอเลนก็เก็บกระเป๋า และเดินจากเขาและลูกไป

นั่นเป็นสิ่งที่ลุครับรู้ และนั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เอเลนเดินจากสามี และลูกของเธอไป แต่เมื่ออ่านได้สักบทสองบท คนอ่านก็จะรู้ว่าการกระทำของเอเลนสามารถอธิบายได้ เธอเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอดบุตร และไม่อาจอธิบายให้สามีที่ทำงานหนักตลอดเวลาอย่างลุคเข้าใจถึงความเจ็บปวด ทางจิตใจของเธอได้ เอเลนรู้สึกว่าไม่มีทางเลือก นอกจากเดินจากบุคคลสองคนที่เธอรักที่สุดไป เพราะรู้ว่าการอยู่ต่อจะเป็นการทำร้ายเขาทั้งคู่มากกว่า

แม็กซ์โอเคกับคำอธิบาย อย่างน้อยมันก็ดีกว่าพล็อตเข้าใจผิดที่ถูกใช้เป็นหมื่นครั้งในเพรสเซ่น ลุคมีเหตุผลที่จะเกลียดเอเลน และเอเลนมีเหตุผลที่จะหยิ่งในศักดิ์ศรี

ปัญหาของเรื่องนี้ก็คือ การยอมรับของเอเลนที่มีต่อโรคของตัวเอง จากความรู้หางอึ่งที่แม็กซ์มี และพฤติกรรมของคนระดับนางเอกโรแมนซ์ เธอไม่น่าที่จะเลิกรู้สึกผิดได้ดีขนาดนี้

นางเอกโรแมนซ์ แม้จะมีเหตุผลที่อธิบาย และเชื่อถือได้ จำเป็นต้องรู้สึกผิดสักนิดต่อการที่ตัวเองเดินจากสามีและลูกสาวผู้เป็นที่ รักของเธอไปบ้างสินะ แต่เอเลนยอมรับข้อจำกัดของตัวเองได้ดี เกินไปสักนิด

แต่อย่างน้อยตัวละครของซาร่า วู้ดก็มีสามัญสำนึก มีความเป็นมนุษย์ที่แม็กซ์เข้าใจได้ ลุคร้ายกาจกับเอเลนเพราะเขารักเธอ แต่ไม่คิดว่าเธอรักเขา และการที่ทิ้งเขาและลูกไป นั่นเป็นเหตุผลที่ใช้ได้ ไม่ใช่ว่าทำเป็นเถื่อน โหด แล้วก็ดุ แต่อีกสองหน้ามาบอกรักนี่ ม่ายหวายค่ะ

เป็นเพรสเซ่นที่โอเค คะแนนอาจไม่สูงนัก แต่ถือว่าสูงมากสำหรับแม็กซ์ คนที่ไม่ถูกโรคกับเพรสเซ่นเอาเสียเลย ที่ 60

No comments: