Friday, September 26, 2014

Review: Safe Harbor


Safe Harbor
Safe Harbor by Christine Feehan

My rating: 3 of 5 stars



หนังสือเล่มนี้เป็นอีกเล่มที่ค้างข้ามปี เพราะว่าออกขายตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเมื่อปีก่อน แต่เล่มนี้มีเหตุผลเป็นพิเศษที่ต้องดองเค็มค้างปีค่ะ

และไม่ได้เป็นเพราะว่าอาการเบื่อเจ๊คริสตีน ฟีแฮนหรอกนะคะ โอเคเรายอมรับนะว่าเบื่ออาเจ้เต็มทนกะชุดคาร์พาเธียนที่ดูจะไม่ไปถึงไหน (เราอ่านค้างไว้ตั้งแต่ Dark Secret ที่พออ่านจบอยากจะเอาขวานไปจามหัวพระเอก ก็เลยคิดว่าหยุดกันไว้ก่อนดีกว่า ก่อนที่ความรุนแรงมันจะทวีมากไปกว่านี้ ล่าสุดก็ค้างมาสามสี่เล่มแล้วล่ะ) แต่หนังสือชุดพี่น้องตระกูลเดรคนี่ถือว่าเป็นชุดที่ยังอ่านได้ (และน่าอ่าน) สำหรับเราอยู่

เราชอบเรื่อง Ocean of Fire (เล่มสามในชุด) มาก หลายคนคงพอเคยได้ยินเราพูดถึง แม้จะผิดหวัง (มาก) จากเล่มสี่เรื่อง Dangerous Tides แต่นั่นก็ยังไม่ใช่สาเหตุที่เราไม่ยอมอ่านเล่มห้า หรือเรื่อง Safe Harbor เล่มนี้

เหตุผลสำคัญมาจากเพื่อนที่รู้ใจเรามากส่งคำเตือนมาตั้งแต่ปีก่อนช่วงหนังสือออกใหม่ ๆ บอกเราว่า "เธออย่าเพิ่งอ่านเล่มนี้นะ"

เราก็ถามกลับว่า "ไม่หนุกเหรอ"

เธอก็ตอบกลับมา "เปล่า แต่คิดว่าถ้านู๋เราอ่าน จะต้องเกิดอาการเหมือนที่พี่เป็นกับจอห์น เมดิน่า ตอนที่ได้อ่าน Kill and Tell"

นั่นเป็นคำเตือนที่ชะงัก ได้ผลเด็ดขาด ทำให้เราวางแล้วเอาเล่มนี้ไปซ่อนให้พ้นหูพ้นตาไปเลย สำหรับคนที่ไม่เข้าใจความหมาย (ซึ่งไม่แปลกหรอกค่ะ เพราะมันก็เป็นกึ่งโค้ดลับระหว่างเราสองคนอยู่แล้ว) เราก็ขออธิบายนิดนึงนะคะ

จอห์น เมดิน่าเป็นตัวละครของลินดา โฮเวิร์ดที่ออกมามีบทบาทครั้งแรกในฐานะตัวละครรองในเรื่อง Kill and tell แต่ใน K&T ที่เขาออก ก็ออกมาชนิดขโมยซีน ชนิดทำเอาคนอ่านเกิดอาการอยากรู้เรื่องของเขา อยากอ่านเรื่องของเขาอย่างรุนแรง และลินดาก็ไม่ยอมเขียนเรื่องของเขาทันทีจนกระทั่งอีกหลายปีต่อมา ระหว่างนั้นเพื่อนคนนี้ของเราน่าสงสารมาก เกิดอาการทุรนทุรายอยากอ่าน ซึ่งเราก็โชคดีไม่ได้เป็นด้วยหรอกนะคะ เพราะตอนที่ K&T ออกขาย เรายังไม่ได้อ่านโรแมนซ์ กว่าจะมาอ่าน K&T เรื่องของจอห์น เมดิน่าก็ออกขายแล้ว (และด้วยความเห็นส่วนตัว สนุกสู้ K&T ไม่ได้ด้วยซ้ำ) ก็เลยไม่เกิดอาการ แต่เข้าใจเลยล่ะว่า อาการคลั่งตัวละครรองเป็นยังไง

ดังนั้นจึงต้องขอขอบคุณเพื่อนรักคนนี้มาก ๆ ค่ะ เพราะถ้าไม่ห้าม อาการที่เราเป็นอยู่ตอนนี้คงจะเกิดตั้งแต่เมื่อปีก่อน และเวลาหนึ่งปีที่รอคอยด้วยความอยากอ่านคงจะทุกข์ทรมานไม่น้อย

แต่ก็เหมือนรู้ว่าได้เวลา เพราะเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา แทนที่จะตื่นนอนด้วยความงุนงง ความคิดแรกของเราก็คือ Safe harbor มันได้เวลาที่ต้องอ่านแล้วล่ะ เพราะเล่มต่อไปในชุด (หรือเล่มหก) ก็จะเป็นเรื่องราวของตัวละครรองคนนี้ คนที่เรารอคอยและอยากอ่าน

ดังนั้นบลอกวันนี้แม้จะเป็นการรีวิวเรื่อง Safe Harbor แต่โปรดทำใจว่า โฟกัสของเราไม่ได้อยู่ที่พระเอกหรือนางเอก แต่อยู่ที่อิเลีย พราเคนสกี้ ตัวละครรองที่ทำเอาเราตอนนี้ใจคอไม่อยู่กะเนื้อกะตัว

คนที่อ่านหนังสือชุดพี่น้องตระกูลเดรคมาก็คงพอจะรู้ว่า พระเอกและนางเอกของเล่มนี้เป็นคู่ที่ปรากฎชัดตั้งแต่เล่มแรกที่พวกเขาออกมามีบทบาทกัน (ใน Magic in the wind ซึ่งเป็นเล่มแรกในชุด) โจนาส แฮริ่งตันหลงรักฮันนาห์ เดรคตั้งแต่เจอเธอครั้งแรกในสนามเด็กเล่น จุดเริ่มต้นไม่ใช่ความรักอย่างหนุ่มสาว แต่เขาห่วงใยเธอ ดูแลเธอเหมือนพี่ชายคนโต เมื่อเขาโตขึ้น โจนาสก็รู้ว่า ชีวิตของเขามีแต่ฮันนาห์เพียงคนเดียวเท่านั้น

ส่วนฮันนาห์ เธอก็รักโจนาสมานาน เรื่องมันคงไม่มีพล็อตอะไรถ้าสองคนนี้พูดกันให้มากขึ้น ทั้งคู่ก็คงแต่งงานกันไปก่อนเล่มหนึ่งด้วยซ้ำ แต่แนะล่ะ เพื่อเพิ่มเนื้อหาให้หนังสือ ทั้งโจนาสและฮันนาห์ก็ดูจะไม่ถูกกันนัก เถียงกันตลอด ด้วยนิสัยที่ออกอัลฟ่าชอบออกคำสั่งของโจนาสที่กะเกณฑ์ให้ฮันนาห์ทำตามความต้องการของเขา และหนึ่งในนั้นคือการห้ามไม่ให้ฮันนาห์ทำอาชีพนางแบบอีกต่อไป เขาไม่ชอบให้เธอโชว์เนื้อหนังให้ชายอื่นชื่นชม ไม่ชอบให้เธออยู่ท่ามกลางฝูงชน เพราะเขารู้ว่าเธอไม่สบายใจที่จะทำอย่างนั้น (แต่เธอก็ทำเพื่ออาชีพ)

เรายอมรับนะคะว่า เล่มนี้ทำให้ตัวเองเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับโจนาสได้ เพราะตลอดสี่เล่มในชุด เราไม่ชอบวิธีการที่เขาปฏิบัติต่อฮันนาห์มากนัก เขาออกคำสั่ง และคาดหวังให้เธอทำตาม แต่ในเล่มนี้เมื่อเรื่องของทั้งสองคนกลายเป็นตัวเอก เราก็เข้าใจเขา และเห็นด้วยว่า ฮันนาห์จำเป็นต้องมีคนออกคำสั่ง

ฮันนาห์เป็นนางแบบดังระดับโลก และเราขอบอกว่านางแบบเป็นอาชีพที่ไร้สมองที่สุดที่เราคิดออก โปรดอ่านให้ชัดเจนว่า เราไม่ได้พูดว่า นางแบบเป็นคนไร้สมองนะคะ นางแบบฉลาดมีตัวอย่างให้เห็นเยอะ เพียงแต่เราไม่รู้สึกว่า อาชีพนางแบบจำเป็นต้องใช้สมองเท่าไหรนัก ไม่ต้องท่องบทหรือเล่นละครอย่างนักแสดง ไม่ต้องเสียงดีเหมือนนักร้อง

และในกรณีของฮันนาห์ เธอก็ไปไกลกว่านั้นอีก เธอเป็นหนึ่งในนางเอกที่เราจัดประเภทให้อยู่ในจำพวก "โง่เกินกว่าจะควรมีชีวิตอยู่" เพราะด้วยความเป็นคนดัง เธอถูกพวกโรคจิตและอยากดังตามตื้อตลอด โจนาสเตือนเธอถึงอันตรายของคนพวกนั้น ฮันนาห์ผู้ชาญฉลาด (ประชดคร้าบ) ทำไงรู้ไหมคะ

มีชายโรคจิตคลั่งไคล้ตัวเธออย่างหนัก ถึงขั้นเขียนจม.ขู่ ฮันนาห์ตอบสนองหลังจากโจนาสเตือนให้อยู่ห่างชายคนนั้น ด้วยการไปพบเขาทุกครั้งที่มีงานเดินแบบ ให้รูปของเธอพร้อมลายเซ็นต์ทุกครั้ง

มีบาทหลวงคลั่งลัทธิคิดจะให้ฮันนาห์เป็นตัวอย่างในการประจานถึงความโสมมของวงการนางแบบ ฮันนาห์คนเก่ง (หลังจากได้รับคำเตือนของโจนาส) เดินทางไปพบเขาเป็นการส่วนตัวเพื่อพูดคุยกันด้วยเหตุผล

แต่ฮันนาห์มีข้อดีนะคะ (อันนี้ไม่ได้ประชด) และมันเป็นข้อดีมากพอที่เราให้อภัยกับ "ความโง่" ของหล่อนได้ นั่นก็คือ เธอรู้ตัวว่าตัวเองโง่ และยอมรับออกมากับพระเอก เมื่อเหตุการณ์มันรุนแรงเลยเถิดจนตัวเองถูกทำร้าย นางเอกชนิดนี้หาได้ยากมาก และควรเก็บรักษาไว้ให้เป็นตัวอย่างที่ดีค่ะ และนั่นทำให้เราชอบเธอ

นอกจากนี้แล้วคริสตีนก็ยังอธิบายนิสัยชอบออกคำสั่งของโจนาสได้ดี เขาสั่งให้ฮันนาห์เลิกเป็นนางแบบ ไม่ใช่เพราะเพื่อตัวเขาเอง (ซึ่งไม่ชอบอาชีพของเธอ) แต่เพราะเขารู้จักฮันนาห์ดีที่สุด เขารู้ว่าเธอไม่สบายใจในการอยู่ท่ามกลางฝูงชน และทำอาชีพนางแบบเพราะแรงกดดันของพี่น้องซึ่งล้วนเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิต (น้องสาวคนนึงของฮันนาห์เป็นนักร้องเพลงร็อคชื่อดัง พี่สาวคนนึงเป็นนักเขียน อีกคนเป็นหมอ) ทำให้เธอต้องพยายามประสบความสำเร็จบ้าง และเนื่องจากทุกคนบอกฮันนาห์ว่าเธอสวยมากเพียงใด เธอจึงยึดเอาอาชีพนางแบบเป็นหนทาง แม้ใจจริงแล้วเธอจะไม่ชอบมันเลย และเธอจะมีความสุขมากกว่าหากจะได้ทำหน้าที่แม่บ้าน

นางเอกไม่จำเป็นต้องมีแรงทะเยอทะยานเสมอไปหรอกนะคะ เราชอบฮันนาห์แม้จะไม่ชอบนิสัยของเธอ เธอดูถูกตัวเอง คิดว่าตัวเองไร้ค่า คิดว่าไม่สวยทั้งที่ทุกคนในเรื่องก็บอกว่าสวย แต่เรายังชอบเธอเพราะฮันนาห์รู้ว่าตัวเองคิดผิด แต่ไม่อาจห้ามความคิดตัวเองได้ การรู้จักตัวเองเป็นคุณสมบัติที่น่าชื่นชม

เรื่องนี้เปิดเรื่องด้วยความเข้าใจว่าโจนาสและฮันนาห์รักกันอย่างมาก แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ลงเอยกันสักที เพราะอาชีพของฮันนาห์ที่โจนาสไม่ชอบ และความเข้าใจผิดของฮันนาห์ที่คิดว่าโจนาสไม่รักเธอ แต่แล้วการปฏิบัติงานลับของโจนาส (ซึ่งปัจจุบันเป็นนายอำเภอในเมืองทีสาวตระกูลเดรคอาศัยอยู่) ที่เจ้านายเก่าเรียกไปทำ ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ฮันนาห์ซึ่งอยู่ไกลหลายร้อยไมล์ใช้พลังจิตของเธอในการช่วยชีวิตเขา (เราบอกรึยังว่าพี่น้องตระกูลเดรคล้วนมีพลังจิตพิเศษ) แต่เมื่อเขาพักรักษาตัวอยู่ ฮันนาห์ก็ต้องเดินทางไปเดินแบบที่นิวยอร์คตามลำพัง ซึ่งงานนี้จะเป็นงานสุดท้ายของเธอ (เธอตัดสินใจออกจากวงการ) แต่ในขณะที่เธออยู่ในงานเดินแบบที่ถ่ายทอดสด คนร้ายก็บุกเข้าไปทำร้ายเธอจนปางตาย

โจนาสซึ่งเห็นเหตุการณ์ผ่านหน้าจอทีวีรีบรุดไปที่เกิดเหตุ และพาตัวฮันนาห์กลับมาพันฟื้นที่บ้านเกิด และพยายามสืบหาคนร้าย พล็อตเรื่องนี้มีแค่นี้ล่ะค่ะ ส่วนใหญ่เป็นการทำความเข้าใจฮันนาห์และโจนาส (และเราคิดว่าคริสตีนทำได้ดี เพราะเราไม่ชอบสองคนนี้ตั้งแต่ต้น แต่ในเล่มนี้ก็เข้าใจว่าทำไมพวกเขาจึงเป็นคนอย่างที่พวกเขาเป็น)

ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องตระกูลเดรคก็น่าสนใจในอีกรูปแบบนึง พี่น้องผู้หญิงเจ็ดคนที่มีพลังเหนือธรรมชาติ เมื่ออยู่รวมกันพวกเธอทำได้ทุกอย่าง เป็นพี่น้องที่รักใคร่กันอย่างมาก แต่กระนั้นเราก็ยังรู้สึกว่ามันมากเกินไปสักหน่อยในฉากที่บรรดาพี่น้องของฮันนาห์เขียนจม.ถึงเธอ มันเรียกน้ำตาเกินไป แต่ก็นั่นแหละนะคะ เรา (ซึ่งไม่มีพี่น้อง) ชอบความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องแนวนอร่า โรเบิร์ตเขียนในชุดดรีมมากกว่า แต่ไม่ใช่ว่าพี่น้องตระกูลเดรคจะเลวร้ายอะไรนะคะ

โดยรวมเล่มนี้สนุกใช้ได้ค่ะ อันที่จริงดีเหนือความคาดคิดไว้เยอะค่ะ คะแนนที่ 70 (ไม่นับความคลั่งตัวละครรอง ที่ขโมยทุกซีนที่เขาออก)



โอเคค่ะส่วนรีวิวจบไปแล้วนะคะ เราต้องใช้ความพยายามมากที่จะไม่นอกเรื่องพูดถึงอิเลีย แต่ถ้าจะไม่พูด ไอ้ความคลั่งส่วนตัวมันก็ไม่ได้ระบายออกมา ดังนั้นขอเตือน (อีกแล้ว) ว่าต่อไปจะเป็นการพูดของคนที่อยู่ในอารมณ์กรี๊ดสลบ อยากอ่านเรื่องของเขามาก ๆ

มันไม่ได้มีสาระอะไรหรอกนะคะ แค่เป็นการบอกเหตุผลที่ทำไมเราถึงหันมากรี๊ดตัวละครตัวนี้มากอย่างนี้

อิเลีย พราเคนสกี้เป็นตัวละครที่ออกมาครั้งแรกในชุดพี่น้องตระกูลเดรคในเรื่อง Ocean of Fire (หนังสือในชุดที่เราชอบมากที่สุดตอนนี้) เขาเป็นความลึกลับ เป็นนักฆ่ามือหนึ่ง เป็นคนที่ทำงานที่ไม่มีใครอยากทำ ที่ปัจจุบันทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้กับมาเฟียใหญ่ชาวรัสเซีย แต่การกระทำหลายอย่างของเขาบ่งบอกว่ามันต้องมีมากกว่านั้น

ในเรื่อง OOF เขาเกือบจะขโมยซีนไปจากซาช่าพระเอก โชคดีของซาช่าที่อิเลียออกมามีบทไม่มากนัก (ไม่อย่างนั้นคงสำเร็จไปแล้วล่ะ) เขาปรากฏกายในฐานะอดีตสายลับ ปัจจุบันนักฆ่าที่อยู่ภายใต้คำสั่งฆ่าของรัฐบาลรัสเซีย และแม้แต่ซาช่าคนที่โตมากับเขา ก็ยังไม่รู้ว่า ตัวตนที่แท้จริงของเขาเป็นใครกันแน่ และที่ช็อคคนอ่านใน OOF ก็คือ อิเลียเป็นหนึ่งในคนที่มีพลังจิต (ซึ่งในเรื่องไม่ใช่จะมีกันทุกคน) และที่สำคัญพลังของเขามีมากพอกับเหล่าพี่น้องตระกูลเดรคเลยทีเดียว

เป็นที่รู้กันอย่างชัดเจนสำหรับคนที่อ่าน OOF ว่า อิเลียน่าจะเป็นพระเอกในเล่มหก เพราะเขาสนใจ และปิ๊งกันอย่างรุนแรงกับโจลีย์ เดรคน้องสาวคนที่หก เขาอาจจะเป็นคนเดียวที่ควบคุมความระห่ำของโจลีย์ได้อยู่ ในตอนจบเล่ม OOF อิเลียช่วยชีวิตซาช่าเอาไว้ เพื่อแลกกับความสัญญาของพี่น้องตระกูลเดรคว่าจะต้องติดหนี้บุญคุณเขา ซึ่งเขาก็ได้ใช้คำสัญญานั้นใน Safe Harbor โดยแลกกับการที่ให้บอกชื่อของผู้ชายที่โจลีย์มีภาพวามหวามอยู่ด้วยกัน เพื่อที่เขาจะได้ตามฆ่าผู้ชายได้ถูกคน

เราอาจจะโรคจิตนะ แต่ฉากนั้นทำเอาหัวใจอ่อนระทวยไปเลย นี่มันสเป็คพระเอกของเราชัด ๆ

และใน SH อิเลียก็ขโมยทุกซีนที่เขาออกมามีบทบาท และเล่มนี้เขาออกเยอะด้วย (ซึ่งต้องขอบคุณเพื่อนที่รักที่รู้จักเราดีว่า จะกรี๊ดสลบขนาดไหนกะผู้ชายคนนี้) แถมตอนท้ายเรื่องก็แสดงอาการเหมือนที่ซุปเปอร์แมนทำใน Crazy Sweet (สำหรับคนที่จำไม่ได้ เล่มนั้นคริสเตียนที่ไม่ใช่พระเอก กลับเป็นคนที่ออกตามล่าและฆ่าผู้ร้ายตายหมดคนเดียว)

ตอนนี้เราเลยมีอาการอิเลียฟีเวอร์อยู่นะคะ ข่าวดีก็คือ คงจะเป็นไม่นาน เพราะเรื่องของเขากำลังจะออกขายเดือนหน้านี้แล้วล่ะ





View all my reviews

No comments: