Saturday, January 31, 2009

Bare Necessaries // Marie Donovan & Shaken and Stirred // Kathleen O'Reilly

ในบรรดาหนังสือของเล่มเล็ก ๆ ของฮาร์ลิควินที่แม็กซ์ซื้อ+อ่านมากที่สุดเวลานี่ก็คงเป็น ฮาร์ลิควิน เบลซค่ะ และขอบอกเลยแล้วกันว่าไม่ใช่เพราะเซ็กส์ (แม้ว่าจะเป็นที่ฮิตกันมากในหมู่นักอ่านชาวไทยที่นิยมเสือป่า ดูได้จากสนพ.น้อยตร.นำมาแปลและขายอย่างเป็นล่ำเป็นสัน) แต่ที่แม็กซ์ติดตามอ่านก็เพราะ นักเขียนที่เขียนให้กับอิมพรินต์นี้ (ขอให้ศัพท์ฝรั่งหน่อยแล้วกันค่ะ เพราะแปลไทยไม่ถูกว่าควรใช้คำว่าอะไร แต่อธิบายง่าย ๆ ได้ว่า สนพ.นี่จะมีอิมพรินต์หลายอัน เช่นสนพ.อมรินทร์ ออกนิตยสารแพรว นี่ก็ถือว่าแพรวเป็นหนึ่งในอิมพรินต์ของอมรินทร์) เป็นนักเขียนโปรดของแม็กซ์ และยังไม่เลิกเขียน ซึ่งต่างจากซิลลูเอ็ด อินทริเมต โมเม้นต์ที่โดนทิ้งร้างไปแล้ว

วันวานได้คิวอ่านหนังสือเบลซสองเล่ม จากนักเขียนคนนึงที่แม็กซ์ชอบมากที่สุด (ที่เขียนให้เบลซ) และนักเขียนอีกคนนึงที่ได้ชื่อว่าน่าสนใจที่สุดในพ.ศ.นี้

หนังสือสองเล่มนี้มีแนวเรื่องที่คล้ายคลึงกันอย่างไม่น่าเชื่อ (มันไม่ใช่เหตุผลที่แม็กซ์หยิบมาอ่าน) ตรงที่ทั้งพระเอกและนางเอกรู้จักกันมาก่อนหน้าที่หนังสือจะเปิดเรื่องขึ้น อีก และที่น่าสนใจก็คือ วิธีการดำเนินเรื่องแตกต่างกันไปอย่างมาก

Bare Necessaries ของมาเรีย โดโนแวน

แม็กซ์กลายเป็นแฟนตัวจริงเสียงจริงของมาเรียตั้งแต่ได้อ่านหนังสือเล่มแรก ของเธอ (ที่ออกกะเบลซเช่นกัน) เรื่อง Her body of pleasure ที่เอ็กซ์ได้อย่างนุ่มนวลมาก แม้ว่าจะผิดหวังกะเล่มสอง Her Book of Pleasure แต่นั่นก็ไม่ทำให้แม็กซ์หวั่นไหว ยังตามติดซื้อผลงานเล่มที่สามของเธอมาอ่าน

ความรู้สึกทีได้ แม้จะไม่อาจเทียบกับ Her Body of Pleasure ได้ แต่ก็ถือว่าไม่เลวเลย

บริทจิตเป็นสาววิสคอนซิน (สรุปว่าบ้านนอก) ที่เดินทางมาเรียนในชิคาโก้ หลังจากใช้เวลาเก็บเงินเพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนแฟชั่นเป็นเวลาหกปี (แปลว่านางเอกไม่ใช่สาวน้อยวัยขบเผาะหรอกนะ อายุยี่สิบกว่าแล้ว) แต่ชีวิตในเมืองใหญ่ไม่เรื่องง่าย เธอจึงมีอาชีพเสริมด้วยการทำชุดชั้นในให้กับลูกค้ากลุ่มที่ถูกมองข้าม อย่างพวกนักเต้นระบำเปลื้องผ้า ที่มีความต้องการชุดชั้นในที่พิเศษไม่เหมือนใคร แต่ในวันนึงเมื่อเธอเดินทางไปยังคลับเปลื้องผ้าเพื่อส่งของให้ลูกค้า อดัมผู้เป็นเพื่อนสนิทกับพี่ชาย (ที่หวงน้องสาว) ของเธอก็บังเอิญมาเห็นเข้า และนำไปสู่เรื่องเข้าใจผิดว่า บริทจิตเป็นหนึ่งในสาวนักเต้น

พล็อตเรื่องของเบลซหาสาระอะไรไม่ค่อยได้หรอกนะคะ แต่ท่ามกลางความไร้สาระ หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างน้องสาว และเพื่อนของพี่ชายได้ดีมาก ๆ เล่มนึง

อดัมซึ่งปิ๊งบริทจิตตั้งแต่เห็นเธอสมัยยังเอ๊าะ แต่ไม่กล้าตามจีบ เพราะรู้สึกว่าเธอยังเด็กเกินไป และรู้ว่าบรรดาพี่ชายของเธอซึ่งเป็นเพื่อนของเขาคงเอาเขาตายแน่ ถ้ากล้ามาแหยมกับน้องสาว เขากลบเกลื่อนความรู้สึกที่มีต่อเธอด้วยการหนีหน้า ทั้งที่อยู่ในชิคาโก้ด้วยกัน แม้ว่าพี่ชายของเธอจะทั้งเน้นทั้งย้ำให้เขาดูแล "น้องสาว" คนนี้ให้ดี แต่เมื่อโอกาสมาเยือน เขาได้เจอเธออีกครั้ง อารามตกใจว่าเธอกลายเป็นนักเต้นเปลื้องผ้าไปแล้ว ทำให้อดัมรีบเสนอความช่วยเหลือทางการเงิน และพาตัวเข้ามาเกี่ยวข้องกับเธออีกครั้ง

เช่นเดียวกับเบลซเล่มอื่น ที่เซ็กส์ระหว่างตัวเองมาเร็วและแรง แต่ที่ดีกว่าคือ เล่มนี้ด้วยความที่ตัวละครรู้จักกันมานาน (และปิ๊งกันมานานกว่านั้น) ฉากเข้าด้ายเข้าเข็มจึงไม่ได้ให้ความรู้สึกฝืน มันเป็นไปตามธรรมชาติดี

และที่ดีกว่านั้น เรื่องนี้ไม่ได้ใช้พล็อตเข้าใจผิด หรือให้บริทจิตหลอกอดัมต่อไปเรื่อย ๆ ว่าเธอเป็นนักเต้นเปลื้องผ้า หลังจากการพบกันสองครั้ง เธอก็สารภาพความจริง และนี่เป็นส่วนที่แม็กซ์ชอบ เพราะตัวละครทั้งสองซื่อสัตย์ต่อกันอย่างมาก

แม้จะบอกกับตัวเองว่าทั้งคู่ยังอยากมีชีวิตที่เป็นอิสระ แต่การดำเนินเรื่องก็ทำให้เห็นชัดว่า สองคนนี่เหมาะกันแค่ไหน

ความสับสนของอดัมที่มีต่ออาชีพของตัวเอง (เขาเป็นนายหน้าค้าดัชนีการเกษตร -- ซึ่งเป็นงานที่เครียดที่สุดในโลกชนิดนึง แม็กซ์เคยทำและรับรองได้) ทำให้เขาหลงใหลชีวิตในชนบทอย่างที่บริทจิตมี ในขณะที่บริทจิตก็เบื่อหน่ายความธรรมดาของชนบทที่เธอต้องทนมาตลอดชีวิตเป็น อุปสรรคสำคัญ เพราะเธอรู้ว่า อดัมอยากกลับไปอยู่วิสคอนซิน ในขณะที่เธอต้องการเป็นดีไซน์เนอร์ชื่อดัง และเมืองใหญ่เท่านั้นที่เหมาะกับเธอ

มันเป็นความขัดแย้งที่เข้าใจได้ และแม็กซ์ชอบวิธีการแก้ปัญหาที่คนแต่งใช้ มันเป็นการพบกันครึ่งอย่างที่ตัวละครไม่ได้คิดว่า มันเป็นการเสียสละเลยสักนิดเดียว มันทำให้เชื่อว่า เมื่อรักแล้ว แค่นี้เป็นเรื่องเล็กแค่ไหน

คะแนนที่ 63 (อย่าคิดว่าน้อยนะคะ ปกติแม็กซ์ไม่ค่อยให้คะแนนหนังสือเล่มเล็กเยอะอยู่แล้วล่ะ)

Shaken and Stirred ของแคธลีน โอไรลี่ย์

หนังสือเล่มแรกในชุด Those Sexy O'Sullivan และอาจจะเป็นชื่อชุดที่แม็กซ์เห็นด้วยว่า ไม่ได้โอ้อวดไปเลยแม้แต่น้อย นั่นเพราะพี่น้องตระกูลโอซัลลิแวนนี่เซ็กซี่จริง รับประกันได้

แม็กซ์อ่านเล่มแรกแล้วก็ตกหลุมรักสามหนุ่มตระกูลนี้เข้าให้แล้วค่ะ เพื่อนคนนึงของแม็กซ์บอกก่อนที่แม็กซ์จะตัดสินใจซื้อหนังสือชุดนี้มาอ่านว่า "พระเอกของแคธลีน โอไรลี่ย์ให้อารมณ์พระเอกของนอร่า โรเบิร์ตมาก" และนั่นก็มากพอจะทำให้แม็กซ์สั่งซื้อเรื่องชุดนี้ทั้งชุด เพราะพระเอกของนอร่า โรเบิร์ตดีที่สุดในโลกโรแมนซ์ (คำว่าดีไม่ใช่ว่าเป็นคนดีที่สุดนะคะ แต่มันลงตัวจริง ๆ)

อ่านไปแล้วก็เห็นด้วยค่ะ เกบ โอซัลลิแวนเป็นหนึ่งในสามพี่น้องที่เป็นเจ้าของบาร์ที่ชื่อว่า "ไพรม" บาร์เหล้าที่สืบทอดกันมาในตระกูลโอซัลลิแวนย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยห้ามค้า เหล้าโน่นแล้ว เกบเป็นผู้ชายที่รู้จักตัวเองดีว่าต้องการอะไร เขารู้ตั้งแต่หกขวบว่า อยากเป็นเจ้าของบาร์ ดำเนินรอยตามลุงที่ทำกิจการในครอบครัว เขามั่นใจในตัวเอง แต่ไม่ขนาดเย่อหยิ่ง เขาพอใจในชีวิตที่เป็นอยู่

ซึ่งแตกต่างจากเทสซ่า บาร์เทนเดอร์ที่ทำงานให้เขา เทสซ่าย้ายมานิวยอร์คเมื่อสี่ปีก่อน และทำงานให้เกบนับจากนั้น เธอมีความสัมพันธ์ในอดีตที่เลวร้าย เธอหลงเชื่อคารมแฟนหนุ่ม เลิกเรียนมหาลัย แล้วออกมาใช้ชีวิตล่องลอยไปให้แฟนเลี้ยง แต่เมื่อเขาเบื่อ เขาก็ทิ้งเธอไปอย่างไม่ชายตามอง เทสซ่าต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ พร้อมกับใบประกาศว่าจบม.6 ในเมืองที่ค่าครองชีพอาจจะสูงที่สุดในโลก

เธอเรียนบัญชีเพราะคิดว่ามันเป็นอาชีพที่จะหาเงินได้เยอะ แต่เกลียดมัน เธออยากมีอิสระและยืนบนขาของตัวเองได้ แต่เธอกำลังจะถูกไล่ออกจากอพาทเม้นต์ โดยไม่มีทางเลือก เธอตอบรับข้อเสนอของเกบที่จะย้ายไปเป็นรูมเมทของเขา ตลอดเวลาสี่ปี เกบเป็นกำลังใจ เป็นเสาหลักที่คอยช่วยเหลือเธอ การย้ายไปอยู่ตามลำพังกับผู้ชายไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เทสซ่าก็คิดว่าตัวเองเข้มแข็งพอที่จะไม่ตกบ่วงเสน่ห์ของเกษ

และก็เพียงวันเดียวที่เซ็กส์เริ่มขึ้น (ก็มันเป็นเบลซนี่คะ) แต่เทสซ่าหาทางออกให้การกระทำของตัวเองด้วยการเสแสร้งว่าเกบเป็นคนแปลกหน้า ความสัมพันธ์ที่ตามมานับจากนั้นก็มีรูปแบบเดียวกัน

แม็กซ์เข้าใจนะว่า เล่มนี้เป็นเรื่องการค้นพบตัวเองของเทสซ่า หนทางที่เธอยืนอยู่บนขาของตัวเองได้ แม็กซ์เข้าใจและสนับสนุนนางเอกโรแมนซ์ที่เก่ง และไม่ต้องอ้อนพระเอกหากิน แต่เทสซ่ามันมากเกินไป เธอใจร้ายกับเกบมาก ขอให้เข้าใจนะคะ เกบเป็นพระเอกโรแมนซ์ที่น่ารัก และดีมาก ๆ การที่เห็นเขาถูกปฏิบัติเหมือนของไม่มีค่าจากเทสซ่ามันทำร้ายจิตใจบอบบางของ แม็กซ์มากเกินไป

เทสซ่าขอให้เกบรอ รอจนถึงวันที่เธอเข้มแข็ง และเป็นอิสระ วันที่เธอประสบความสำเร็จในชีวิต ก่อนที่เธอจะยอมเปิดใจรับเขาเข้ามา เธอคิดถึงตัวเองมากกว่า (ซึ่งเป็นข้อดีนะคะ ในชีวิตจริง แต่มันไม่โรแมนติกในโรแมนซ์ โดยเฉพาะในเรื่องที่พระเอกน่ารักอย่างนี้ ถ้าพระเอกแบบเจ้าแม่ยุ่งน้ำเน่า มันก็น่าอ่านล่ะนะ)

เป็นอีกเล่มที่ให้คะแนนยาก เพราะแม็กซ์ชอบพระเอกเหลือเกิน ในขณะเดียวกันก็ไม่ชอบความใจร้ายของนางเอกเลย คะแนนที่ 53

ขอทิ้งท้ายไว้ว่า เห็นแม็กซ์ชมเกบขนาดนี้ แต่เขายังไม่ใช่พี่น้องตระกูลโอซัลลิแวนที่แม็กซ์ชอบมากที่สุดหรอกนะคะ รอพบกับเดเนียลวันพรุ่งนี้ กับหนังสือที่อาจจะเป็นหนังสือเล่มเล็กที่ดีที่สุดแห่งปีนี้

No comments: