และสุดท้าย The DNF สำหรับคนที่ไม่รู้ คำนี้ย่อมาจาก Did Not Finish แปลว่า อ่านไม่จบคร้าบ (และคงไม่อ่านอีกเป็นแน่) มันเลวร้ายกว่าแย่นะ
แม็กซ์เป็นคนชนิดที่ไม่ฟังความเห็นใครเกี่ยวกับหนังสือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ค่อยเชื่อหากคนบอกว่าหนังสือเล่มนี้แย่หรือเลวร้ายยัง ไง เพราะหลายครั้ง ความแย่นั้นกลับเป็นสิ่งที่แม็กซ์ชอบ (ในทางกลับกัน หากคนแนะนำว่าหนังสือดี แม็กซ์ก็รับมาเก็บไว้นะคะ แต่ไม่ใช่ตัวแปรในการตัดสินใจซื้อ ยกเว้นคนบอกเป็นเพื่อนที่คุ้นเคยและแน่ใจว่ารสนิยมต้องการอย่างแรง)
และเล่มนี้ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ได้รับคำวิจารณ์ว่า ห่วย แย่ เลวร้ายถึงเลวร้ายมาก
แต่แม็กซ์ก็ยังคงเป็นแม็กซ์ที่ไม่ฟัง
แม็กซ์สนใจหนังสือเล่มนี้เพราะมันเป็นแนว Urban Fantasy ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวที่แม็กซ์ชอบ ปกหนังสือก็ดูน่าอ่านมาก หนังสือเล่มนี้ถูกวางให้เป็นเล่มแรกในหนังสือชุดที่เล่าเรื่องกิลเลี่ยน คีย์ นักจิตวิทยา และในขณะเดียวกันก็เป็นทหาร ได้รับเชิญให้ไปดูแลอาการของแวมไพร์ในโรมาเนีย แต่นั่นเป็นเพียงฉากหน้า แท้จริงแล้วเธอไปเพื่อสืบความลับเกี่ยวกับแผนการครองโลกของแด็กคูล่า
ปัญหาแรกก็คือ การเขียน ไม่ใช่ว่าภาษายากหรอกนะคะ แต่ทาเลียเขียนไม่เป็นภาษามนุษย์ การดำเนินเรื่องสะดุด การตัดไปตัดมาของ Point of view (ซึ่งอธิบายง่าย ๆ ก็คือ ปกติจะมีความคิดของตัวละครในเรื่อง ซึ่งก็แล้วแต่ว่าฉากนั้นจะให้ใครเป็นคนเล่าเรื่อง) แต่ในเล่มนี้ มันสลับกันจนงงโคตร หนังสือก็ตัดตอนในแต่ละฉากอย่างไม่มีเหตุผล ไม่ต่อเนื่อง อ่านแล้วเวียนเฮดมาก
แล้วยังตัวละครซึ่งแม็กซ์ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดในการเขียนเรื่อง แนว UF เพราะว่าตัวละครนี่แหละจะเป็นคนดำเนินเรื่องทั้งชุด ไม่ใช่แค่จบภายในเล่มเดียว ถ้าเขาเหล่านั้นไม่น่าสนใจ หนังสือมันก็ฟุบ และแม็กซ์ของบอกว่ากิลเลี่ยนไม่มีอะไรน่าสนใจเลย พระเอก (หรือคนที่น่าจะเป็นพระเอก ยังไม่รู้ เพราะมันเพิ่งเล่มแรกในชุด) ก็ไม่น่าสนใจ อันที่จริงกิลเลี่ยนติดจะน่ารำคาญด้วยซ้ำ
เหตุผลที่แม็กซ์อ่านเล่มนี้ไม่จบเป็นเพราะพล็อตเรื่องไม่มีอะไรน่าสนใจ ไม่มีทิศทาง ไม่มีอนาคต
ไม่มีคะแนนให้เช่นกันค่ะ เพราะว่าอ่านไม่จบ
No comments:
Post a Comment