Saturday, January 31, 2009

Murphy's Law // Lori Foster

นี่เป็นหนังสือเก่าเก็บอีกเล่มที่แม็กซ์หยิบมาอ่าน คิดดูแล้วกันมานานขนาดไหน เล่มนี้เขียนตั้งแต่สมัยที่ลอรี่ ฟอสเตอร์ยังเขียนหนังสือให้กับสนพ. เคนซิงตันอยู่เลย (เดี๋ยวนี้เธอย้ายมาเบิร์คเลย์ และออกงานเล่มใหม่กว่ากะเบิร์คเล่ย์มาตั้งสามเล่มแล้วนะ)

งานของลอรี่ ฟอสเตอร์กะแม็กซ์นี่ถือว่าเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายค่ะ คือบางเล่มก็หนุกโคตร (อย่าง Caught in the act หรือ Jamie) บางเล่มก็พออ่านได้ บางเล่มก็เหลือทน และเล่มนี้ก็อยู่ข้างมาอย่างหลังค่ะ

ด้วยพล็อตเรื่องที่ราวกับเจ๊ลินน์ เกรแฮมแต่งเอง เรื่องราวของสาวที่แม้วัยจะไม่ขบเผาะเหมือนเจ้าแม่ยุงชุมเค้า แต่ก็ยังรักษาความบริสุทธิ์ผุดผ่องมาจนวัยยี่สิบเจ็ดปี แอชลี่ย์ ไมลล์เป็นหญิงสาวที่ต้องทำงานไปเรียนไป และนั่นทำให้เธอไม่มีเวลาให้กับควินตัน เมอร์ฟี่ย์ อภิมหาเศรษฐีหนุ่มโสดสุดหล่อที่ตามเทียวไล้เทียวขื่อเธอมาหลายเดือน

ทั้งคู่เจอกันเพราะหนึ่งในงานที่แอชลีย์ทำคือเป็นพนักงานทำความสะอาดให้กับ บริษัทที่ควินตันเป็นเจ้าของ ได้กลิ่นเจ๊ลินน์กันบ้างรึยัง และเขาก็ปิ๊งเธออย่างจัง และตามจีบนับบัดนั้น แต่สาวเจ้าก็ไม่เล่นด้วย ทั้งที่ก็ปิ๊งกลับอยู่ไม่น้อย แต่เพราะเธอมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนที่ต้องทำงาน ทำงาน ทำงาน และเรียน และเรียน และเรียน เธอจึงไม่มีเวลาให้ใครทั้งนั้น

ส่วนควินตันก็ตามตื้อ และตื้อ แล้วก็ตื้อ ซึ่งก็โอเคนะ ฉากจีบกันของแอชลี่ย์และควินตันถือว่าสนุกดี อ่านได้ ที่ทนไม่ได้ก็คงเป็นตัวร้ายนี่แหละ

ขอเท้าความ (สะกดถูกไหมเนี่ย) ย้อนหลังก่อน เล่มนี้เป็นเล่มที่ต่อเนื่องมาจากหนังสืออีกเล่ม คือ Jude's Law ซึ่งเป็นเรื่องราวของเพื่อนสนิทของแอชลี่ย์ ที่ไปพบรักกับนักแสดง/นักสู้แนว Ultimate Fighter (คนที่ดู UBC ช่อง AXN อาจจะพอนึกออก เอาคนมาสู้กันในกรง) ที่มีอดีตเคยถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร แต่ในตอนท้ายของ JL ก็เฉลยว่า คนร้ายที่แท้จริงคือใคร แต่คนร้ายดันหนีไปได้ก่อนตร.จับ

ซึ่งอย่างที่บอก แอชลี่ย์เป็นเพื่อนกะเมียของจู๊ด แล้วก็มีส่วนเกี่ยวข้องแค่โทรศัพท์ไปบอกจู๊ดว่า เธอเห็นคนร้ายคนนี้ในห้องอาหารที่เธอทำงานอยู่ แต่ในเล่มนี้ จู่ ๆ คนร้ายที่หนีไปได้ (จาก JL) ก็มาตามจองล้างจองผลาญแอชลีย์ชนิดจะเอาให้ตาย

มันไม่มีเหตุผลสักกะนิดเดียว

คนแต่งก็พยาย้ามพยายามนะที่จะอธิบายเรื่องไร้สาระนี่ให้เป็นเหตุเป็นผลขึ้น มา โดยให้คนร้ายมานั่งวิเคราะห์ว่า จะทำร้ายใครดีระหว่างจู๊ด เมียของจู๊ด (ที่เป็นเพื่อนของแอชลี่ย) เพื่อนของจู๊ด พี่ชายเมียของจู๊ด และแอชลี่ย์ สุดท้ายก็สรุปว่า ทำร้ายแอชลี่ย์ดีกว่า เพราะเป็นเป้าหมายที่ง่ายที่สุด

แม็กซ์อยากรู้ว่า ความแค้นนี่มันเกี่ยวกับความยากง่ายตรงไหน แล้วที่สำคัญ เมื่อควินตันรู้ว่าแอชลี่ย์กลายเป็นเป้าหมายของคนร้าย เขาจึงจ้องบอดี้การ์ดมาคอยคุ้มกันเธอ ความคิดของคนร้ายจากเดิมที่บอกว่า เลือกแอชลี่ยเพราะง่าย ก็เริ่มเปลี่ยนอีก โดยคราวนี้ให้เหตุผลว่า ทำร้ายควินตันดีกว่า เพราะง่ายกว่า

อะไรของมันวะ

อ่านแล้วก็งงนะ คนร้ายบ้าอะไร ทำร้ายคนมั่วไปหมด ถ้าคนแต่งบอกว่า ไอ้หมอนี่มันเป็นคนบ้า ถือมีดไล่ฆ่าคนไม่ทั่ว ชนิดไม่เลือกเหยื่อ ก็โอเคนะ แต่นี่ก็ไม่ใช่ เธอพยายามให้เหตุผลร้อยแปดพันเก้า แต่ไม่เข้าท่าสักนิดเดียวกับคนอ่าน

ทำให้แม็กซ์รู้สึกว่า มันง่ายไงในการใช้คนร้ายคนเดิมจากเล่มก่อน ทั้งที่ไม่ได้มีความเกี่ยวพันกันเลย

นอกจากนี้แล้ว ความเหมือนกับนิยายของป้าลินน์ก็ไม่จบลงแค่ที่เล่านะ ยังมีความโง่ (หรือหลายคนใช้คำว่า ไร้เดียงสาว/ซื่อ/ฯลฯ) ที่นางเอกวิ่งแถเข้าไปหาผู้ร้าย

เคยอ่านไหมคะที่ผู้ร้ายโทรศัพท์เรียกนางเอกให้ไปพบ โดยบอกตรง ๆ ว่า "กูคือผู้ร้าย" และนางเอกยอมไปพบกับผู้ร้าย โดยไม่คิดที่จะติดต่อบอกใครสักคน (แต่หล่อนฉลาดนะ คิดในใจว่า ถ้ายามที่เฝ้าบ้านอยู่ไม่เจอว่าเธอกลับบ้านตรงเวลา ก็คงจะโทรเรียกพระเอก -- นี่แม็กซ์ประชดนะ)

คะแนนที่ 53 (ที่ยังได้เกินครึ่ง เพราะแม็กซ์ชอบความสัมพันธ์ระหว่างแอชลี่ย์และควินตัน อันที่จริงเรื่องคงน่าอ่านกว่านี้นะ ถ้าตัดพล็อตคนร้ายที่ตามรังควาญนางเอกออกไปให้หมดเลย)

No comments: