Saturday, January 31, 2009

Killer Secrets // Lora Leigh

หากจะบอกว่าเรื่อง Hidden Agenda เป็นเล่มที่โลร่า ลีย์มีพัฒนาการมากที่สุด ก็คงต้องบอกเพิ่มเติมด้วยว่า Killer Secrets อาจจะเป็นหนังสือที่ดีที่สุดที่เธอเคยเขียนก็เป็นได้

แม็กซ์ไม่ได้กำลังจะบอกว่าเรื่องนี้สมบูรณ์แบบ ความต่อเนื่องในการดำเนินเรื่องขาดหายไปบางครั้ง และหลายครั้งที่แม็กซ์อ่านแล้วรู้สึกว่า ไม่ได้มีการวางแผนล่วงหน้ามาก่อนเท่าไหรในการเขียนเรื่อง เพราะมีการเพิ่มประเด็นเข้าไปในเรื่อง ทั้งที่ไม่มีการเอ่ยถึงมาเลยก่อนหน้านี้

เรื่องนี้เป็นเล่มสามในชุด Tempting SEALS (แต่เป็นเรื่องที่ห้าในชุด เพราะอีกสองเล่มเป็นเรื่องสั้น) เล่าเรื่องของเอียน ริชาร์ด หรือที่เปลี่ยนชื่อเป็น เอียน ฟูเอนเตส ตามข้อตกลงที่เขาทำกับพ่อผู้ให้กำเนิด (แต่ไม่ได้เลี้ยงดู) เพื่อแลกกับการที่ดิเอโก้ ฟูเอนเตสปล่อยเพื่อนตายร่วมหน่วยซีลของเขาออกจากที่คุมขัง

เอียนกำลังเล่นเกมส์ที่อันตราย เขาเป็นนักรบหน่วยซีลที่หนีทหาร เป็นคนทรยศ เขาตัดขาดจากเพื่อนร่วมทีมทุกคน กลายเป็นทายาทผู้สืบทอดอาณาจักรค้ายา กลายเป็นคนที่เขาใช้เวลาตลอดชีวิตในการกำจัด

เพียงแค่ไม่กี่เดือนที่เขายินยอมรับตำแหน่งทายาทแห่งอาณาจักรฟูเอนเตส เอียนกลายเป็นเจ้าพ่อผู้น่าเกรงขาม เขาขยายอิทธิพล ฆ่าคู่แข่ง และออกตามล่าซอเรล นักก่อการร้ายตัวแสบที่หมายปองจะครอบครองอาณาจักรฟูเอนเตส เขาใช้ประสบการณ์ในการเป็นหน่วยซีลฝึกฝนนักรบในอาณาจักรอันสกปรกเป็นเครื่อง มือในการบรรลุเป้าประสงค์

ท่ามกลางเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น หญิงสาวคนหนึ่งยังคงเชื่อมั่นในตัวเขาเสมอ ไคร่า พอร์เตอร์มีโอกาสเจอกับเอียนหลายครั้งผ่านการปฏิบัติการที่เขาในฐานะหน่วยซี ลเข้าไปกวาดล้างผู้ก่อการร้ายที่เธอเป็นผู้ให้ข่าว เอียนเป็นคนเพียงคนเดียวที่ดูออกว่าแท้จริงแล้วเธอคือไคร่า ในฐานะของแชมมาล่อน (แปลว่ากิ้งก่า แต่ไม่อยากใช้คำนี้ดูน่าเกลียด) เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกครั้งที่ออกปฏิบัติงาน ไม่เคยมีใครรู้ว่าสายลับที่แทรกซึมเข้าไปในองค์กรก่อการร้ายเป็นใคร หรือกระทั่งเป็นคนเดียวกันกับที่เคยทำเมื่องานก่อน แต่เอียนดูออก เขารู้เสมอว่า คนคนนั้นเป็นเธอ

และคราวนี้ไคร่าก็ดูออก หรืออย่างน้อยก็เชื่อมั่นว่า เอียนไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนเชื่อกัน

เธอไม่เชื่อว่าผู้ชายที่ทำทุกอย่างเพื่อความถูกต้องมาตลอดชีวิตจะสลัดความ เชื่อนั้น แล้วหันมารับบทบาทเป็นมาเฟียเจ้าพ่อค้ายา และความเชื่อนั้นก็มาพอจะทำให้เธอเดินทางมาอะรูบ้าเพื่อพบกับเอียน และเป็นคนที่จะคอยคุ้มกันเขา ไม่ว่าจะเป็นจากใคร

"She had come to Aruba to claim what was hers before his father, Diego Fuentes, could steal his soul"

แค่ประโยคนี้ในหน้าสิบเอ็ด ก็ทำให้แม็กซ์รู้แล้วล่ะว่าจะต้องชอบหนังสือเล่มนี้ขนาดไหน

แม้จะไม่ได้รับการยืนยัน แต่ไคร่าก็มั่นใจในตัวเอียนว่าเขาจะไม่ทรยศหลักการของตัวเอง เธอพร้อมจะเอาทุกอย่างเข้าเสี่ยงเพื่อเป็นคนช่วยเขาในปฏิบัติการที่เขาเลือก แล้วว่าจะทำเองตามลำพัง

ส่วนเอียน เมื่อรู้แน่ชัดแล้วว่า ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็เขาไม่อาจกันให้ไคร่าออกไปจากชีวิตเขาเพื่อความปลอดภัย ของตัวเธอเองได้ เขาก็เป็นลูกผู้ชายพอจะยอมรับในความสามารถของไคร่า และเลือกที่จะให้เธอยืนเคียงข้างเขาในภารกิจอันแสนอันตรายนี้

คงไม่ต้องบอกว่าแม็กซ์ชอบเอียนและไคร่า

แต่ที่เซอร์ไพร์มากกว่านั้น แม็กซ์ชอบวิธีการที่โลร่าบรรยายถึงดิเอโก้ ฟูเอนเตสผู้เป็นพ่อตามสายเลือดของเอียน แม็กซ์ชอบประโยคที่ไคร่าพูดกับเอียนถึงพ่อของเขา

"He's a monster but he's a monster who loves his son"

นั่นเป็นคำอธิบายที่ดีที่สุด โลร่าไม่ได้ทำให้สิ่งที่ดิเอโก้เป็นสกปรกน้อยลง ไม่ได้พยายามทำให้การที่เป็นเจ้าพ่อแก๊งค์มาเฟียเป็นเรื่องโรแมนติก ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่แม็กซ์เห็นด้วยเต็มหัวใจ แต่ในขณะเดียวกันเธอก็นำเสนออีกด้านหนึ่ง ในความเลวร้ายทั้งหมด ดิเอโก้ก็ยังคงเป็นพ่อ

อย่างที่บอกตอนต้นเล่มนี้ยังมีหลายจุดที่หลวมที่แสดงให้เห็นชัดว่า คนแต่งไม่ได้วางแผนล่วงหน้าจะให้เรื่องออกมาเป็นอย่างนี้ เพราะไม่เคยมีการบอกใบ้มาก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เลย แต่มันไม่สำคัญเลย เพราะเธอชนะใจแม็กซ์ได้ด้วยตัวละครที่มีความซับซ้อน และจริงใจต่อกันอย่างมาก

เอียนอยู่ในฐานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาเป็นทหารรับใช้ชาติ และมีหน้าที่กวาดล้างผู้ร้าย แต่พ่อบังเกิดเกล้าของเขาเองกลับเป็นอาชญากรตัวสำคัญ เป็นฆาตกรที่ฆ่าคนนับหมื่นผ่านยาเสพติด เป็นคนโรคจิตที่จับเพื่อนรักของเขามาทรมาน ในขณะที่ไคร่า เธอเป็นทายาทของมรดกนับล้าน แต่ด้วยอดีตที่พ่อแม่ถูกฆ่าโดยผู้ก่อการร้าย ไคร่าเลือกที่จะใช้ชีวิตสองหน้า ฉากหน้าที่เป็นสาวสังคมที่ใช้ชีวิตไม่เป็นโล้พาย อีกด้านเธอเป็นสายลับพันหน้า แต่ท้ายที่สุดก็ไม่มีอะไรสำคัญสำหรับไคร่ามากไปกว่าเอียน นั่นทำให้เธอชนะใจแม็กซ์

"I have your back. No matter what you do, Ian. I have your back"

แล้วแม็กซ์จะไม่รักผู้หญิงคนนี้ได้ยังไงล่ะ

คะแนนที่ 90

No comments: