Saturday, January 31, 2009

Dark Needs at Night's Edge // Kresley Cole

ไม่ได้รีวิวหนังสือเสียหลายวันนะคะ วันนี้ก็เลยกลับมาพร้อมกับรีวิวหนังสือสามเล่ม ที่ได้ความหมายอย่างชื่อบลอก

เราเริ่มกันที่ The Good แล้วกัน

หนังสือภาคต่อในชุด IAD หรือ Immortals after dark หนังสือชุดแนวพารานอมอลที่แม็กซ์ชอบมากที่สุดชุดนึง และเล่มนี้ก็ถือว่าเป็นตอนต่อในชุดที่ไม่น่าผิดหวัง อาจะไม่ดีเท่า No rest for the wicked แต่แม็กซ์ก็ไม่ได้คาดหวังให้มันดีขนาดนั้น

สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับชุดนี้ แม็กซ์เล่าแบบย่อ ๆ นะคะ IAD เป็นเรื่องราวของกลุ่มสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่ไม่ใช่มนุษย์ พวกนี้ประกอบไปด้วยทุกอย่างที่คุณคิดว่าไม่มีอยู่จริง ทั้งแวมไพร์, มนุษย์หมาป่า, แม่มด, เดม่อน (ที่ไม่ใช่ปีศาจ), นางไซเรน, และอื่น ๆ

แต่คอนเซ็ปต์ของเรื่องที่แม็กซ์ชอบมากที่สุดก็เป็นเรื่องของแวมไพร์ ที่เครสลีย์ โคลคนแต่งกำหนดให้ไม่มีชีวิตอย่างจริงจัง (นั่นคือหัวใจไม่เต้น เลือดไม่ไหลเวียน ดังนั้นจึงไร้สมรรถภาพทางเพศไปโดยปริยาย) จนกว่าเขาจะได้พบกับไบร์ด (Bride) ของเขา ผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวที่จะปลุกเขาให้ฟื้นกลับมามีชีวิต

เล่มนี้เป็นเรื่องราวของคอนราด เวิร์ท น้องชายคนเล็กสุดในบรรดาพี่น้องตระกูลแวมไพร์เวิร์ท (ซึ่งเป็นพระเอกไปก่อนหน้าเล่มนี้แล้วสองคน ส่วนอีกคนก็เป็นพระเอกในเรื่องสั้นที่ถูกเลื่อนกำหนดการออกขายจากปีนี้ไป เป็นปีหน้าโน่นเลยค่ะ) เขาเป็นแวมไพร์โดยไม่อยากเป็น เพราะพี่ชายของเขานิโคไลย์ และเมอร์ด็อคซึ่งถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ก่อนหน้า (หลังจากตายในการรบ) ไม่อาจยอมรับความจริงได้ว่า ครอบครัวของพวกเขาตายหมดแล้ว คอนรอดและเซบาสเตียนพี่ชายคนที่สาม ตายจากความพยายามปกป้องบ้านของพวกเขาจากผู้บุกรุก ก่อนหน้านั้นน้องสาวของพวกเขาสามคนตายเพราะโรคระบาด นิโคไลย์และเมอร์ด็อคไม่อาจยอมรับความสูญเสียได้อีก และทำในสิ่งที่ขัดกับความต้องการของน้องชาย

เปลี่ยนเขาเป็นแวมไพร์ และคอนราดไม่ได้ต้องการชีวิตเช่นนั้น เขาสติแตก นี่เป็นคำอธิบายเดียว เขาหนีไปจากพี่ชายเพราะทนไม่ได้ที่พวกนั้นเปลี่ยนเขาเป็นสิ่งที่เขาตามล่ามา ตลอดชีวิต (คอนราดเป็นหนึ่งในกลุ่มนักล่าแวมไพร์ตอนที่เขามีชีวิต) แต่สุดท้ายเพื่อเอาชีวิตรอด เขาก็ถลำลึกกลายเป็นแวมไพร์อันตราย เป็นนักฆ่ามือหนึ่ง แม้จะยังคงสภาพพระเอกอยู่ด้วยการฆ่าเฉพาะคนเลว แต่เพราะเขาดื่มเลือดพวกนั้น ทำให้ความทรงจำอันเลวร้ายเข้ามาอยู่ในสมอง

สามร้อยปีผ่านไป คอนราดอยู่ในสภาพกึ่งบ้า เห็นภาพหลอน และเมื่อเขาโดยบรรดาพี่ชาย (ที่ตอนนี้แต่งงานแฮปปี้แล้ว) จับไปขัง โดยหวังให้เขากลับคืนฟื้นสติ และตัดสินใจเรื่องสำคัญ ดังนั้นเขาก็ได้เห็นนาโอมิ อดีตนักบัลเลย์ที่จบชีวิตลงอย่างกระทันหัน และกลายเป็นวิญญาณสิงอยู่ในบ้านที่คอนราดถูกขังไว้ เขาคิดว่าเธอคือภาพหลอน

ถ้าให้แม็กซ์ประเมินนะคะ ก็คงบอกว่า เรื่องนี้สอบผ่านฉลุย (ระดับเกรดบีบวก) ในเรื่องโรแมนซ์ เพราะแม็กซ์เชื่อในความสัมพันธ์ระหว่างคอนราดและนาโอมิ เชื่อว่าเขาจะยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อเธอ ความสัมพันธ์ของสองคนนี้เป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดในเรื่อง มันพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายแล้ว คำว่ารัก ไม่จำเป็นเลย และนี่คือสิ่งที่แม็กซ์ชอบมากที่สุดในโรแมนซ์ เรื่องราวที่ตัวละครผูกพันกันมากจนกระทั่งไม่จำเป็นต้องบอกรัก ไม่ต้องย้ำเช้าย้ำเย็นว่าฉันรักเธอ จากนั้นก็ตบโครมล้มคว่ำ เพราะเข้าใจผิด

เรื่องนี้มีการเข้าใจผิดค่ะ มีฉากที่คอนราดทิ้งนาโอมิไป เพราะคิดว่าเธอมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง แต่เขาคิดได้เอง ไม่ต้องมีตัวละครอื่นมาชี้นำ มาพิสูจน์ และนั่นเป็นสิ่งที่แม็กซ์ชอบ

แต่อาจเพราะเวลาส่วนใหญ่ในเรื่องทุ่มให้กับความสัมพันธ์ระหว่างคอนราดและนา โอมิ ก็เลยทำให้องค์ประกอบอื่นขาดหายไปด้วย ในฐานะส่วนหนึ่งของชุด แม็กซ์ไม่รู้สึกว่าเล่มนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดในชุดนี้เพิ่ม ขึ้นเลย นั่นอาจเพราะคอนราดคือคนนอก เขาเป็นแวมไพร์นอกแถว (ไม่ใช่พวกดีอย่างที่พี่ชายเขาเป็น) ทำให้เขาไม่รู้เรื่องวงใน นาโอมิยิ่งแล้วใหญ่ เธอเป็นผีมาแปดสิบปี ไม่รู้กระทั่งว่ามีสิ่งมีชีวิตเหนือมนุษย์อยู่ในโลกด้วยซ้ำ

แล้วการแก้ปัญหาการอยู่กันไม่ได้ ระหว่างคนและผีของคอนราดและนาโอมิ ดูมันง่ายจัง แต่อย่างว่านะคะ แม็กซ์เลือกความง่ายอย่างนี้มากกว่าการเลือกฉากจบอย่างที่วีได้รับในเรื่อง Lover Unbound ค่ะ

อย่างที่บอก เล่มนี้คือ The Good Read คะแนนที่ 73

No comments: