Saturday, January 31, 2009

The Black Dagger Brotherhood Series // J.R. Ward

เมื่อตอนเริ่มต้นเขียนบลอกใหม่ ๆ ช่วงปี 2006 แม็กซ์เคยเขียนถึงหนังสือชุดแนวพารานอมอลที่ตัวเองชอบมากที่สุดเอาไว้ (ที่บลอกอันนี้) เรียงอันดับกัน ตานี้ก็เลยมีคนถามแม็กซ์ว่า ความคิดเราเปลี่ยนไปรึยัง หนุ่มแวมไพร์สูงหกฟุตเจ็ดนิ้ว (ที่อาจจะเป็นคนผิวดำ) ที่ชอบใส่เสื้อหนังเป็นชีวิตจิตใจยังคงเป็นกลุ่มที่อยู่ในใจแม็กซ์เหมือน เมื่อสองปีก่อนรึเปล่า

แม็กซ์ยังรักเรื่องนี้อยู่ไหม กับสิ่งที่เกิดกับเจนในเรื่อง Lover Unbound

เราใช้เวลาคิดไม่นานนะคะ เพราะบอกตามตรงว่า ตอนนี้ก็ยังไม่หายคลั่งชุด BDB ยิ่งจอห์น แมทธิวโดดเด่นและน่าสนใจขนาดนี้ เพราะถึงจะมีเหตุการณ์อันเลวร้ายเกิดขึ้นในเรื่องที่สร้างความเจ็บปวดให้ กับตัวละคร แต่แม็กซ์ยังมีความรู้สึกว่า เจอาร์ วาร์ดรู้ตัวอยู่ว่ากำลังทำอะไร เรื่องราวของเธอมีทิศทางที่แน่นอน คำใบ้ที่เธอทิ้งไว้ถูกนำเอามาใช้ตลอด

วันนี้ก็เลยถือเป็นฤกษ์งามยามดี พูดถึงหนังสือชุดนี้กันทั้งชุดกันดีกว่า และโดยไม่ต้องบอก แม็กซ์สปอยล์เต็มที่นะคะ คนที่ยังไม่ได้อ่าน ก็ขอให้หยุดเสียตรงนี้แล้วกัน

Dark Lover

หนังสือเล่มเปิดชุด ที่อาจจะไม่ใช่เล่มที่สนุกที่สุด แต่ก็น่าสนใจมากพอที่จะทำให้แม็กซ์ติดตามอ่านหนังสือชุดนี้ต่อไป และในฐานะของคนที่ซื้อหนังสือเล่มนี้อ่านด้วยตัวเอง (ไม่ได้มาจากคำแนะนำของใคร) แม็กซ์จึงถือว่าตัวเองภาคภูมิใจที่ตัวเองตาถึง และเล็งเห็นคุณค่าของเรื่องนี้ ก่อนที่คนอื่นจะเริ่มพูดถึง (เป็นแฟนคนแรก ๆ ว่างั้นเถอะ)

เล่มนี้เป็นการเปิดตัวละครหกตัว ผู้ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องเหล่าแวมไพร์จากศัตรูเก่าแก่ แวมไพร์ในโลกของเจอาร์ วาร์ดไม่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากเทพเจ้าของพวกเขา (ที่ชื่อว่า สไครบ เวอร์จิ้น หรือแม็กซ์ของเรียกว่า SV แล้วกันนะคะ) แต่ด้วยความอิจฉาของพี่ชายของ SV ซึ่งก็คือเดอะ โอเมก้า ทำให้โอเมก้าสร้างเผ่าพันธุ์ของตัวเองขึ้นมาเช่นกันในการกวาดล้างพวกแวมไพร์ ของน้องสาว (แม็กซ์ไม่ค่อยแน่ใจนะคะว่าใครเป็นพี่เป็นน้องกันแน่) แต่เนื่องจากโอเมก้าไม่มีพลังในการสร้าง (หรือการให้กำเนิด) เผ่าพันธุ์ของจึงไม่ใช่ชนชาติใหม่ หากแต่เป็นมนุษย์ผู้ชั่วร้ายที่ขายวิญญาณของตัวเองให้กับโอเมก้า โดยรับเอาส่วนหนึ่งของโอเมก้าไว้ในร่างของตัวเอง พวกนี้เรียกตัวเองว่าเลสเซอร์ ทำให้พวกแวมไพร์ต้องรวมกลุ่มกันและสร้างผู้ปกป้องชนชาติของตัวเองเอาไว้ กลุ่มที่ปกป้องเรียกตัวเองว่าแบล็ค เด็กเกอร์ บราเธอร์ฮู้ด (หรือ BDB)

การต่อสู้มีมานาน จนกระทั่งในยุคปัจจุบัน BDB เหลือกำลังลดลงมาแค่ 7 คน และในช่วงเปิดเรื่อง ดาเรียสหนึ่งใน BDB ผู้มีอายุมากที่สุดก็ถูกลอบสังหาร คำขอสุดท้ายก่อนตายของเขาที่มีต่อราธ ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่ม BDB และยังเป็นกษัตริย์ของพวกแวมไพร์ทั้งปวง ก็คือให้ราธ นำพาเบธ ลูกสาวของเขามาสู่โลกของแวมไพร์อย่างปลอดภัยด้วย

อย่างที่เกริ่น แวมไพร์เป็นชนชาติที่แยกขาดจากมนุษย์ แต่ไม่ใช่ว่าการข้ามเผ่าพันธุ์จะเป็นไปไม่ได้ เหล่าลูกครึ่งระหว่างแวมไพร์ และมนุษย์ จะมีบางคนที่สามารถข้ามขอบเขตการเป็นมนุษย์ไปสู่การเป็นแวมไพร์ได้ แต่มันเสี่ยง และเกิดขึ้นสำหรับบางคนเท่านั้น และดาเรียสคิดว่าเบธเป็นหนึ่งในนั้น

ราธซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ไม่เต็มใจ เขาไม่เคยเห็นว่าตัวเองคู่ควรกับความยิ่งใหญ่ และความหวังที่ชนชาติฝากไว้บนบ่าของเขา ในวัยเด็กเฉกเช่นแวมไพร์ทุกคน เขาอ่อนแอขี้โรค เขามองดูครอบครัวถูกฆ่าตาย และใช้ชีวิตตามลำพัง เพียงชั่วข้ามคืนเมื่ออายุครบยี่สิบห้าปี ราธเปลี่ยนแปลง รูปลักษณ์ภายนอกเปลี่ยนไปทั้งหมด แต่แม้เขาอาจจะแข็งแรงขึ้น โหดเหี้ยมขึ้น หรือมีความแข็งแกร่งที่เหล่า BDB เป็น เขาก็ยังรู้สึกถึงความไม่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่งสูงสุด เขาปฏิเสธที่จะเป็นกษัตริย์ กลับเอาชีวิตมาเสี่ยงตายกับการทำหน้าที่ BDB แต่การได้พบกับเบธก็ทำให้เขาเปลี่ยนไป

เช่นเดียวกับหนังสือที่เป็นจุดเริ่มต้นของชุดเล่มอื่น ๆ เล่มนี้ใช้เวลาในการวางพื้นฐานของเรื่องเยอะมาก แต่แม็กซ็ก็ยังคิดว่าเจอาร์ทำได้ดีนะในการเขียนเรื่องโรแมนซ์ระหว่างเบธและ ราธ

แม็กซ์ให้คะแนนเล่มนี้ที่ 70

Lover Eternal

หนังสือเล่มที่สองในชุด และเป็นเล่มที่เริ่มทำให้แม็กซ์หันมาจับตามองเรื่องชุดนี้อย่างจริงจัง เล่มนี้เล่าเรื่องของเรจ หนึ่งใน BDB ที่ขึ้นชื่อว่ามีเสน่ห์ต่อสาว ๆ มากที่สุด (จนถึงขั้นถูกเรียกว่าฮอลีวู้ดตามความหล่อที่มีเหมือนพระเอกหนังฮอลีวู้ด) แต่ที่ซ่อนไว้เบื้องหลังหน้ากากที่หล่อเหลางดงามก็คือ ความเกรี้ยดกราดอันห้ามไม่อยู่ และเมื่อใดที่มันเกิดขึ้น เรจก็จะกลายเป็นปีศาจของแท้ ตามคำสาปของ SV

และเล่มนี้เป็นครั้งแรกทีเราได้พบกับจอห์น แมทธิว เด็กชาย (ซึ่งก็เป็นการเรียกที่ไม่ถูกนักหรอกนะคะ เพราะในเรื่องเขาก็เกือบจะยี่สิบห้าแล้ว แต่ด้วยลักษณะของแวมไพร์ที่จะยังไม่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวจนกว่าจะเข้าสู่การ "เปลี่ยนแปลง" เขาก็ยังคงเป็นเด็กอยู่) ที่ถูกค้นพบว่ามีสายเลือดของ BDB อยู่ในกาย และหนึ่งในผู้คุ้มครองเขาคือ แมรี่ ผู้หญิงคนเดียวที่เรจไม่อาจครอบครองได้

นั่นเพราะแมรี่เป็นมนุษย์ ซึ่งความรักระหว่างทั้งคู่ไม่มีวันจะเป็นไปได้เลย นี่ยังไม่ได้พูดถึงเจ้าสัตว์ประหลาดที่แฝงอยู่ในร่างกายของเรจอีก การลงเอยในเรื่องความรักระหว่างแมรี่ และเรจกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่ถูกพูดถึงกันอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเล่มห้าในชุดเรื่อง Lover Unbound ที่ตอนจบทำร้ายจิตใจคนอ่านเหลือเกิน ว่าทำไมถึงไม่จบเรื่อง LU อย่างที่จบในเล่มนี้

คะแนนที่ 83

Lover Awakened

หนังสือที่แม็กซ์คิดว่าเป็นเล่มที่สุดที่สุดในชุดนี้ตอนนี้นะคะ เรื่องราวของซาดิสต์ ผู้เต็มไปด้วยบาดแผลจากอดีต แม็กซ์บอกตรง ๆ เลยนะว่า แรกที่เห็นเขาออกมามีบทบาทใน Dark Lover เขาทำให้แม็กซ์นึกถึงตัวละครของเชอริลีน เคนย่อนในชุดดาร์ค ฮันเตอร์ที่ชื่อว่าซาเร็ตมาก

ตัวละครทั้งสองมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ซาดิสต์ถูกลักพาตัวไปจากครอบครัว และฟิวรี่น้องชายฝาแฝดของเขา และถูกขายเป็นทาส ที่ซึ่งเขาได้รับการทรมานในสารพัดรูปแบบเป็นเวลาเกือบร้อยปี แม้กระทั่งเมื่อถูกฟิวรี่ช่วยเหลือออกมาได้ บาดแผลเหล่านั้นก็ยังติดตามมาหลอกหลอน ซีไม่เหมือน BDB คนอื่น อันที่จริงเขาไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติได้ เขาจำเป็นต้องทำร้ายตัวเองเมื่อรู้สึกว่าทุกอย่างมันเหนือการควบคุม

และเบลล่าก็ทำให้ทุกอย่างเหนือการควบคุม ซีรู้ว่าเขาไม่เหมาะสมกับเธอ ไม่คู่ควร เป็นฟิวรี่มากกว่าที่เหมาะสม (แต่ถ้าใครอ่าน Lover Enshirned แล้วก็คงรู้ว่าเบลล่าเฮงมากที่คู่กับซี) เขาพยายามหลีกทาง แต่ก็ไม่อาจทำได้

แม็กซ์ขอบอกว่าเบลล่าเป็นตัวละครที่ได้ใจแม็กซ์อย่างมาก เธอเป็นนางเอกที่รู้ใจตัวเอง เพราะถ้าไม่ใช่เพราะการทั้งอ่อย ทั้งเปิดทาง ทั้งให้ท่าสารพัดของเธอ ซีก็คงไม่ใจอ่อน และซีจำเป็นจะต้องได้นางเอกที่เต็มใจอย่างยิ่งด้วย

ข่าวดีสำหรับคนที่อยากอ่านเรื่องของซีและเบลล่าให้เต็มอิ่ม ปลายปีนี้เดือนตุลาคม เจอาร์ วาร์ดจะออกหนังสือรวมประวัติของเหล่า BDB ที่ในเล่มนั้นจะมีเรื่องสั้นยาว 125 หน้าเล่าเรื่องการเกิดของเนลล่า ลูกสาวของซีและเบลล่าเอาไว้ในนั้นด้วย

อ้อขอเพิ่มเติมนิดนึง ที่แม็กซ์เคยบอกว่า รู้สึกว่าซีเหมือนกับซาเร็ต (หรือก็เรียกว่าซีเหมือนกัน) ความรู้สึกนั้นมันก็ยังอยู่นะคะในส่วนของคาแร็คเตอร์ แต่อยากจะบอกว่า เรื่องของซีไม่เหมือนกับเรื่องของซาเร็ตเลย วิธีการเล่าเรื่องและดำเนินเรื่องก็แตกต่างกัน ทำให้ทั้งสองเล่มมีความไม่เหมือนกันอย่างชัดเจน

คะแนนที่ 90

Lover Revealed

เล่มนี้แม็กซ์เคยเขียนรีวิวไปแล้วในบลอกนี้นะ คะ ขอเพิ่มเติมนิดนึงนะคะ เล่มนี้ถือว่าสนุกกว่าที่คาดหวังไว้มาก เพราะแม็กซ์ไม่ชอบคาแร็คเตอร์ของมาริสซ่าอย่างรุนแรง เธอเป็นผู้หญิงที่น่าเหยียบ

แม็กซ์นึกถึงตอนที่ได้มีโอกาสเจอกับเจอาร์ วาร์ด ระหว่างที่เธอพูดถึงบุคลิกของมาริสซ่า แล้วมีคนตะโกนออกมาว่า "Hate her, Hate her, Hate her" มันตรงใจมากนะคะ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเรื่องนี้จึงเป็นเล่มที่แม็กซ์ชอบ

นั่นเพราะว่าเมื่อจบเรื่อง แม็กซ์ไม่ได้เกลียดมาริสซ่าอีกต่อไป เจอาร์ทำให้แม็กซ์มองเห็นความแข็งแกร่งในความอ่อนโยนที่เธอมีได้

นี่เป็นอีกเรื่องที่ตอนจบมันดูเหลือเชื่อไปนิดนึง กับการที่บุชกลายมาเป็นหนึ่งใน BDB (และมันยิ่งทำให้เจ็บช้ำเมื่อคิดว่าวีต้องยอมรับเจนในสภาพที่เธอเป็นใน ตอนจบเรื่อง Lover Unbound) แต่แม็กซ์ก็ชอบตอนจบที่มันแฮปปี้มากกว่าสมจริงนะคะ

คะแนนที่ 73

Lover Unbound

เช่นกันแม็กซ์ก็รีวิวเรื่องนี้ไปแล้ว

และเช่นกันก็ขอเพิ่มเติมว่า ถ้าเล่มนี้ไม่ได้มีฉากจบอย่างที่มันเป็น เล่มนี้ก็จะเป็นหนังสือที่แม็กซ์ชอบมากที่สุดในชุด เพราะมันเป็นเรื่องราวของตัวละครที่แม็กซ์รู้สึกว่าน่าสนใจที่สุด (นับตั้งแต่แม็กซ์ได้เห็นเขาออกมามีบทบาทใน Dark Lover)

อันที่จริงเรื่องนี้ลงตัวไปหมดทุกอย่างนะคะ แม็กซ์ชอบการเล่าเรื่องของวี เพราะมันทำให้เข้าใจตัวตนของเขามากขึ้น เข้าใจทางเลือกที่เขาทำ ทำไมเขาถึงมีรสนิยมที่เบนไปทาง BDSM ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่ามันไม่ใช่เรื่องเพศ แต่เป็นเรื่องการควบคุม ที่เขาไม่เคยมีในชีวิตนับตั้งแต่เด็ก มันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของเขา แต่เขาก็ยินดีที่จะสละการควบคุมนั้นให้กับผู้หญิงที่สอนให้เขารู้จักคำว่า รักเป็นครั้งแรก

พูดตามจริงก็คือ แม็กซ์ชอบทุกอย่างในเล่มนี้ จนกระทั่งตอนจบที่ SV ใจร้ายมาก (และเมื่อคิดถึงสิ่งที่เจอาร์ แก้ปัญหาให้กับความรักของเรจ และบุชแล้ว แม็กซ์ยิ่งน้อยใจว่าทำไมวีของฉ้านถึงโดนขนาดนี้)

คะแนนที่ 90

Lover Enshirned

เล่มล่าสุด และเช่นเดิม รีวิวไปแล้วค่ะ ที่บลอกนี้

เล่มนี้สอบตกในส่วนของโรแมนซ์ แต่แม็กซ์ถึงว่าเล่มนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการดำเนินเรื่องเลยนะคะ เพราะว่าในห้าเล่มแรก คนอ่านจะรู้สึกว่าพวกเลสเซอร์บ่มีไก๊ สู้พระเอกไม่ได้เลย (แต่กระนั้นก็ยังสร้างปัญหาสารพัด) และตัวละครหลักก็ล้วนมีเรื่องของตัวเองไปหมดแล้ว ดังนั้นมาในเล่มนี้เจอาร์จึงเปิดฉากแนะนำตัวละครซ้ายทีขวาที ชนิดที่น่าสนใจ น่าอ่านทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นควินน์ บอดี้การ์ดคนล่าสุดของจอห์น แมทธิว ชายหนุ่มผู้มีตาสองสี และถูกมองว่าเป็นความบกพร่องทางกรรมพันธุ์ และทำให้เขาไม่อาจเป็นส่วนหนึ่งของสังคมชั้นสูงในหมู่แวมไพร์ได้ หรือว่าที่พระเอกเล่มหน้าอย่างรีเวนจ์ที่แม้จะออกมาตั้งแต่ Lover Awakened แต่เล่มนี้ก็เปิดเผยตัวตนมากขึ้น

คะแนนที่ 70

What is next?

ตามข่าวก็คือ ปลายปีนี้จะมีหนังสือที่เรียกว่า Inside's guide ซึ่งเป็นหนังสือเชิงสารคดีเกี่ยวกับเหล่า BDB (ไม่ใช่นิยาย) แต่ในเล่มนั้นจะมีเรื่องสั้นของซีและเบลล่า เล่าถึงช่วงที่เบลล่าคลอดลูก

จากนั้นเล่มถัดไปก็จะเป็นเรื่องของรีเวนจ์ที่ตอนนี้ยืนยันวันออกขายมาแล้ว ที่เดือนพฤษภาคม 2009 และจะเป็นปกแข็ง สำหรับคนที่ช่างสังเกตก็อาจจะเคยเห็นนางเอกของเขา ซึ่งก็คือ.... (สปอยล์)

อีเลน่า เธอเป็นนางพยาบาลในสำนักแพทย์ของฮาเว่น

และเล่มหลังจากนั้น เจอาร์ใช้คำว่า "I'm thinking that JM is going to be up next after Rahv" (ขอบคุณ The Good, the bad, and the unread for information)

และหากคิดว่า หนังสือชุดนี้น่าจะเขียนกันต่อไปอีกยาวนานนนนนน ก็ดูท่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะนี่คือคำตอบที่เจอาร์ตอบเมื่อคนถามถึงเนลล่า "Nalla may very well have her own book butit will be a looooooong time!"

สำหรับคำตอบที่คนอยากรู้เกี่ยวกับจอห์น แมทธิว (JM) ว่าเขาเป็นอะไรกับดาเรียสกันแน่ ในที่สุดเจอาร์ก็ยืนยัน "Yes J.M is Darius reincarnated, the S.V did a cool time whammy and put D back. But he had to make sacrifices to do so, so he can't talk or remember his past life."

และนี่คือคำตอบของแม็กซ์ต่อคำถามสั้น ๆ ที่ว่า แม็กซ์ยังชอบชุด BDB อยู่รึเปล่า

No comments: