Saturday, January 31, 2009

simply Magic // Mary Balogh

หนังสือเล่มสุดท้ายของแมรี่ บาล็อคธ์ที่แม็กซ์ก็ย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 กับเรื่อง Slightly Dangerous ที่ทิ้งร้างงานของเธอไม่นานไม่ใช่เพราะผิดหวังกับ SD หรอกนะคะ

แต่เป็นเพราะ SD มันดีขนาดที่เราไม่คิดว่าเรื่องที่ตามมาจะเทียบเคียงได้ แม็กซ์เป็นเช่นนี้เสมอ เวลาได้อ่านหนังสือที่สนุกมาก ๆ ขนาดที่คิดว่า นี่คือจุดสูงสุดของนักเขียนแล้ว แม็กซ์ก็มักจะรู้สึกว่าเล่มถัดมาของเธอ ยังไงก็ไม่อาจเทียบได้ คุณจะเทียบเคียงกับความสมบูรณ์แบบได้อย่างไร

และนี่คือเหตุผลที่แม็กซ์ดองงานของแมรี่มานานถึง 4 ปี ก่อนจะหยิบเล่มนี้มาอ่าน

Simply Magic ของแมรี่ บาล็อคธ์

หนังสือเล่มนี้อาจเป็นเล่มแรกที่แม็กซ์หยิบของแมรี่มาอ่านในรอบสี่ปี แต่เล่มนี้ก็ไม่ใช่เล่มแรกในชุดหรอกนะคะ มันคือเล่มที่สามในหนังสือชุดสี่เล่มที่เล่าเรื่องบรรดาคุณครูยังสาวใน โรงเรียนสตรียุครีเจนซี่ เล่มนี้เป็นเรื่องราวของซูซานนา ออสบอร์น อดีตนักเรียนทุนของโรงเรียน ทีต่อมาได้กลายเป็นครูในโรงเรียนที่เธอสำเร็จการศึกษา

และแม็กซ์กล้าบอกว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องอ่านเล่มหนึ่งและสองก่อนเพื่อทำความเข้าใจกับเล่มนี้ เพราะแม็กซ์ก็ยังไม่ได้อ่านทั้งสองเล่มนั้น แต่ข้ามมาอ่านเล่มนี้ได้อย่างสบาย

สำหรับคนที่ยังไม่เคยจับงานของแมรี่มาอ่าน แม็กซ์ก็คงต้องบอกว่า ตอนนี้สไตล์ของแมรี่ย้อนกลับไปเหมือนนักเขียนแนว Traditional Regency ในอดีตหลายคน (หนึ่งในนั้นก็คือตัวเธอเองนั่นแหละ) ที่สร้างสรรเรื่องราวที่ไม่จำเป็นต้องตื่นเต้น โลดโผน ทุกอย่างในเรื่องเรียบง่าย เรื่องราวความรักของคนสองคนที่ตกหลุมรักกันอย่างจัง การเดินทางของพวกเขาในการไปสู่ความสุขที่ได้คู่กัน

ความเรียบง่ายที่แม็กซ์พูดถึงไม่ใช่ว่าจะเป็นความราบเรียบนะคะ เพราะเรื่องราวในเล่มนี้ยังเต็มไปด้วยความน่าสนใจ น่าติดตามอ่าน แม็กซ์รู้สึกร่วมไปกับตัวละครในทุกช่วงเวลาของพวกเขา นี่เป็นหนังสืออีกเล่มที่ทำให้แม็กซ์ยอมเสียการนอนเพื่ออ่านต่อเพื่ออยาก รู้สึกจุดลงเอยแห่งความรักของตัวละครสองคนที่น่าสนใจมาก ๆ

ซูซานน่า ออสบอร์นเดินทางมาพักผ่อนช่วงฤดูร้อนที่บ้านของอดีตเพื่อนซึ่งเคยเป็นครูที่ สอนในโรงเรียนเดียวกัน (ก็เป็นนางเอกเล่มหนึ่งในชุดนั่นแหละ) ซึ่งที่นั่นเธอต้องเผชิญกับผู้ชายที่มาจากอดีตที่เธอใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อ ลืมเลือน และไม่ใช่หรอกนะคะ เล่มนี้ไม่ใช่พล็อตคนรักเก่าย้อนกลับมารักกันใหม่ เพราะตอนที่ซูซานน่าจากบ้านออกไปเผชิญโชคในลอนดอนเธออายุแค่สิบสองปี พ่อของเธอเพิ่งฆ่าตัวตาย และเธอถูกทิ้งไว้ตามลำพัง

ในขณะที่ปีเตอร์ เอดจ์เวิร์ธ ไวสเคาท์หนุ่มสุดหล่อ เวลานั้นอายุสิบห้า และกำลังเรียนหนังสือในโรงเรียนประจำ ซึ่งที่ปีเตอร์ไม่รู้ก็คือ ครอบครัวของเขามีส่วนอย่างยิ่งต่อการตายของพ่อของซูซานน่า

และไม่ใช่หรอกนะคะ เล่มนี้ไม่ใช่พล็อตการแก้แค้นที่ซูซานน่ากระทำต่อปีเตอร์ เพราะสิ่งสุดท้ายที่เธอต้องการก็คือ การบอกความจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในปีเตอร์รับรู้

ปีเตอร์ซึ่งจากบ้านมานานกว่าห้าปี หลังจากมีเรื่องขัดแย้งกับครอบครัวอย่างรุนแรง เขาพร้อมแล้วที่จะกลับบ้าน และเล่นบทไวสเคาท์ผู้ดูแลที่ดิน แต่กระทั้งเขาก็ยังไม่อยากกลับไปบ้านในขณะที่ผู้เป็นมารดาพยายามยัดเยียด หญิงสาวให้มาเป็นเจ้าสาวของเขา บาดแผลเมื่อห้าปีก่อนกับหญิงสาวอีกคนที่แม่จัดหาให้เขามันยังสดและใหม่เกิน ไป ดังนั้นปีเตอร์จึงตอบรับคำเชิญของเพื่อนที่จะอยู่ต่อเพื่อร่วมงานเต้นรำ ประจำหมู่บ้าน

และเมื่อเขาได้พบกับซูซานน่า เขาก็รู้ว่าตัวเองทำถูกแล้ว แรกพบซูซานน่าไม่ชอบปีเตอร์เพราะความลื่นไหลและมีเสน่ห์ ในขณะที่ปีเตอร์เขาก็เคยชินกับการเล่นบทชายในฝันของหญิงทุกคน จนทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงสาวที่เขาปรารถนา เขารู้สึกว่าตัวเองต้อยต่ำเกินกว่าคุณครูสาวคนนี้

แต่เวลาที่ทั้งคู่ได้ใช้ร่วมกันในชนบทก็ทำให้ทั้งสองได้รู้จักกันดีขึ้น อย่างที่แม็กซ์บอกค่ะ เรื่องนี้เรียบง่าย ดวงใจของพล็อตเรื่องก็คือการตกหลุมรักของคนสองคน และเราก็ได้เห็นการตกหลุมรักของปีเตอร์และซูซานน่า

เมื่อฤดูร้อนจบลง ทั้งสองตกลงแยกย้ายกลับไปสู่ชีวิตดั้งเดิมของตัวเอง ซูซานน่ากลับไปเป็นครู ปีเตอร์กลับบ้านที่จากไปนาน แต่โชคชะตาและหัวใจของทั้งสองไม่อาจปล่อยให้ความรักเหี่ยวตายไปเองได้

โอกาสมาถึง และปีเตอร์ก็คว้ามันเอาไว้ เขาได้พบกับซูซานน่าอีกครั้ง และอย่างที่ปีเตอร์คิดในเรื่อง ความรักไม่สลายไปเอง มันคงอยู่ และเจ็บปวด

เพราะนอกจากฐานะทางสังคมที่ต่างกัน อดีตของซูซานน่า ความตายของพ่อเธอ และครอบครัวเขาเกี่ยวพันจนอาจจะมากกว่าความรักทานทนไหว

สิ่งที่ทำให้แม็กซ์ชอบเรื่องนี้มาก ๆ ก็คือการไม่ยอมแพ้ของปีเตอร์ แม้เรื่องที่เกิดในอดีตจะร้ายแรง และถ้าเป็นพระเอกคนอื่นก็คงนั่งคร่ำครวญหรือโชคชะตา แต่ปีเตอร์ไม่ยอมแพ้ เขาต่อสู้เพื่อความรัก และที่แม็กซ์ชอบมากที่สุดก็คือการที่เขาไม่เลือก แม็กซ์ไม่อยากสปอลย์นะคะ แต่คนที่อ่านเรื่องนี้คงรู้ว่าแม็กซ์หมายถึงอะไร แม็กซ์ชอบคำพูดของเขามากที่ว่า "ผมไม่อาจเลือกระหว่างความรักและความรักได้หรอก"

เล่มนี้สนุกกว่าที่คิด แต่ก็เป็นไปอย่างที่คิดว่า มันไม่อาจเทียบ Slightly Dangerous ได้ ซึ่งแม็กซ์ดีใจนะคะที่รอสี่ปีก่อนที่จะกลับมาอ่านงานของแมรี่อีกครั้ง เพราะถ้าแม็กซ์รีบอ่านตั้งแต่หลังจาก SD แม็กซ์อาจไม่สามารถชื่นชมความงดงามของเล่มนี้ได้เต็มที่ (เพราะใจมัวแต่ไปหมกหมุ่นในการเปรียบเทียบกับเรื่อง SD จนไม่อาจรู้สึกคุณค่าของเล่มนี้ด้วยตัวของมันเอง)

คะแนนที่ 70

No comments: