Saturday, January 31, 2009

A Lady's Secret // Jo Beverley

แม็กซ์ชอบงานของโจ เบฟเวอรี่ โดยเฉพาะเรื่องในยุคจอร์เจี้ยนที่เธอเขียน ดังนั้นหากจะบอกว่า จินตนาการของแม็กซ์ของสังคมในยุคจอร์เจี้ยนเกือบจะทุกอย่างลอกเลียนและสร้าง ภาพมาจากความคิดของโจทั้งสิ้นก็คงถูกนะ

เพื่อนคนนึงของแม็กซ์ที่เรียนจบสาขาประวัติศาสตร์บอกแม็กซ์ว่า ผู้ชายในยุคจอร์เจี้ยนเซ็กซี่ที่สุด ยุคที่ผู้ชายแต่งตัวสวยกว่าผู้หญิง ใส่วิก และเสื้อคับติ้ว (แต่ฟูฟ่องด้วยลูกไม้) ฉากหน้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ภายใต้เปลือกนอกที่ดูศิวิไลซ์ซ่อนไว้ด้วยความโหดเหี้ยม ยุคนี้การท้าดวลไม่ผิดกฎหมาย การวางยาพิษเป็นเรื่องปกติ นาทีนึงคุณเป็นคนสำคัญในราชสำนัก อีกนาทีนึงคุณอาจถูกสั่งประหารชีวิต

โลกที่น่าสนใจ

และอย่างที่บอก ความรับรู้ของแม็กซ์ที่มีต่อยุคนี้ไม่ได้มาจากตำราเรียนหรือหนังสือเชิง สารคดี แต่มาจากโจ เบฟเวอรี่ หรือพูดให้ถูก มาจากหนังสือชุดมัลโลเรนของเธอ แม็กซ์ไม่อาจบอกได้หรอกนะคะว่า เธอเขียนถูกต้องตามประวัติศาสตร์มากแค่ไหน

บอกได้แค่ว่า เธอเขียนตัวละครได้น่าสนใจมาก โดยเฉพาะ (ทุกคนที่รู้จักแม็กซ์คงรู้ดีว่าแม็กซ์กำลังจะพูดถึงใคร) มาร์ควิสแห่งโรธการ์ ตัวละครอันแสนทรงพลังที่ทำให้แม็กซ์ขนลุกได้ แค่เพียงคิดถึง เรื่องราวของเขาออกขายไปแล้ว ชื่อเรื่องว่า Devilish และควรจะเป็นเล่มปิดท้ายชุดมัลโลเรนที่เล่าเรื่องราวของพี่น้องตระกูลมัลโล เรนห้าคน

แต่ก็เหมือนหนังสือขายดีทั่วไปล่ะค่ะ ที่ตราบเท่าที่แฟนหนังสือยังเรียกร้อง คนแต่งก็ย่อมจัดให้ได้ ปัจจุบันหนังสือที่เกี่ยวเนื่องกับชุดมัลโลเรนมีออกมาเพิ่มเติมอีก 3 เล่ม (ทำให้ทั้งชุดรวมเป็นแปดเล่มแล้ว)

และ A Lady's Secrert เป็นเล่มล่าสุด เรื่องราวที่อ่านเผิน ๆ ดูไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับมัลโลเรน แค่เกิดในยุคจอร์เจี้ยน และเพื่อเป็นการไม่สปอลย์ แม็กซ์ก็จะไม่บอกตรงนี้ว่ามันเกี่ยวยังไง นอกจาก (คนที่เดาสปอลย์เก่งก็ไม่ต้องอ่านนะคะ)

นี่อาจเป็นหนังสือเล่มเดียวที่แม็กซ์กรี๊ดพ่อนางเอกมากกว่าตัวละครใด ๆ ในเรื่อง

โรบิน ท่านเอิร์ลหนุ่มซึ่งเดินทางท่องเที่ยวในฝรั่งเศสสังเกตเห็นเพตราครั้งแรก เมื่อเธอซึ่งอยู่ในชุดนางชีสบถออกมาเป็นภาษาอิตาลี และนั่นก็มากพอจะทำให้เขาซึ่งกำลังเบื่อหน่ายเหลือเกินสนใจเธอขึ้นมา เขาหวังว่าการเดินทางร่วมกับนางชีคนนี้เพื่อพาเธอไปสู่อังกฤษจะช่วยผ่อนคลาย ความเฉื่อยชาต่อชีวิตที่เขามีลงได้ เขาไม่เคยคิดว่าจะได้พบอะไรมากกว่านั้น

สำหรับเพตรา โรบินเป็นทางออก เธอถูกตามล่าจากลูกน้องของชายที่หวังจะเอาตัวเธอเป็นเมียเก็บ ด้วยคำสั่งเสียของมารดาที่ให้ตามหาพ่อที่ไม่เคยได้พบกันมาก่อน เธอหวังว่าเขาจะช่วยเหลือเธอได้ แต่เขาอยู่ไกลถึงในอังกฤษ และโรบินก็กำลังเดินทางมุ่งหน้าไปทางนั้นพอดี การซ่อนตัวภายใต้เสื้อคลุมนางชี เธอหวังว่ามันจะช่วยเธอจากความพยายามยั่วยวนเธอจากเขาได้ แต่สิ่งที่เธอไม่คาดก็คือ ใจของตัวเอง

หนังสือเล่มนี้เป็นโรด โรแมนซ์ เล่าเรื่องการเดินทางผ่านชนบทในฝรั่งเศส และอังกฤษ เรื่องราวการผจญภัยของชายหญิงสองคนที่ต่างคนคิดว่าอีกฝ่ายไม่เหมาะสม แต่ก็เหมือนโรแมนซ์ทุกเล่ม ที่มันลงเอยด้วยความรัก

แม็กซ์เชื่อในความรักที่เกิดในเรื่องนี้ค่ะ เชื่อว่าเมื่อถึงฉากที่โรบินขอเพตราแต่งงาน ทั้งใจของเขารักเธอจนหมด และมันไม่สำคัญอีกต่อไปว่า เขาคือท่านเอิร์ลบรรดาศักดิ์สูงและร่ำรวย ในขณะที่เธอเป็นเพียงลูกนอกสมรสยากจนคนนึง (และชอบมากที่คนแต่งให้เขาขอเธอแต่งงานก่อนที่จะรู้ความจริงว่า แท้จริงแล้วเพตราเป็นใคร)

ความที่เป็นโรด โรแมนซ์ และพระเอกที่ชื่อโรบิน ทำให้แม็กซ์นึกถึงหนังสืออีกเล่มที่พล็อตใกล้เคียงกัน (ตรงส่วนที่ว่า พระเอกพานางเอกเดินทางไปด้วยกัน และต้องผจญภัยมากมายระหว่างการเดินทาง) ในหนังสือที่ชื่อว่า Angel Rogue (ที่หลายคนอาจจะพอรู้ว่าเป็นเล่มที่แม็กซ์ชอบมากที่สุดเรื่องนึง) และนั่นอาจเป็นความโชคร้ายของ A Lady's Secret เพราะแม็กซ์อดที่จะนำสองเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกันไม่ได้ และแน่นอนว่า เล่มนี้ไม่ว่าจะดียังไง ก็เทียบ AR ไม่ได้ ซึ่งนั่นไม่ใช่ความผิดของ ALS เลย

แล้วก็เช่นกัน เป็นความผิดของแม็กซ์เองที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานยังไง ก็ยังรักพ่อนางเอกมากกว่า ตัวละครตัวไหน ซึ่งนั่นรวมทั้งพระเอกของเรื่องนี้ด้วย มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงจริง แต่นั่นก็คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทุกเรื่องในชุดนี้

คะแนนที่ 73

No comments: