Saturday, January 31, 2009

Sex, Straight up // Kathleen O'Reilly

แม็กซ์ไม่ได้อ่านหนังสือแล้วร้องไห้หนักขนาดนี้มานานมากแล้วล่ะค่ะ ส่วนใหญ่ ก็ร้องแค่ฉากใดฉากหนึ่ง แต่ไม่ใช่ว่าเกือบจะทั้งเรื่องอย่างนี้ แต่ไม่ใช่เพราะเรื่องมันรันทด ชีวิตบัดซบหรอกนะคะ เพียงแต่ประเด็นในเรื่องมันโดนใจแม็กซ์เข้าไปเต็ม ๆ เลยน่ะค่ะ

อย่างที่โฆษณากันไว้เมื่อวาน หนังสือเล่มนี้ดีจริง ๆ (และแม็กซ์เชื่อว่าคงมีคนหลงเข้ามาอ่านบลอกนี้กันหลายคน เพราะเห็นชื่อหัวข้อบลอกแล้วมันดูปลุกใจดี แต่ก็ขอบอกว่าเซ็กส์มันไม่ได้แรงอย่างชื่อเรื่องหรอกนะคะ)

Sex, Straight up ของแคธลีน โอไรลี่ย์

สำหรับคนอ่านโรแมนซ์ แม็กซ์เชื่อว่า พวกเราเชื่อในคำกล่าวอันนี้ "Love was forever. A promise was forever." (แม็กซ์โค้ดมาจากเรื่องนี้นะคะ เป็นฉากที่พระเอกตื่นนอนขึ้นมาแล้วขึ้นถึงเมียของเขา)

สำหรับเดเนียลแล้ว เขาเองก็เชื่อเช่นนั้น เขาเป็นลูกคนกลางในบรรดาพี่น้องสามคน เป็นคนที่เงียบที่สุด ไม่มีเสน่ห์เท่ากับฌอน พี่ชายคนโต ไม่ได้เป็นคนไนซ์เหมือนเกบ น้องคนเล็ก เดเนียลเป็นนักบัญชี เขาวางแผน และคิดอย่างเป็นระบบ เขายังแตกต่างจากพี่น้องตรงที่เขาพบรักแท้ของเขาแล้ว เธอชื่อมิเชลล์ พวกเขาแต่งงานกันได้ห้าเดือน หลังจากคบหาดูใจกันมาปีนึง เธอเองก็เป็นนักบัญชี ทำงานที่เดียวกับเขา ชีวิตของพวกเขายาวไกล และสดใส จนกระทั่ง...

วันอังคาร์ในเช้าทีสดใสของเดือนกันยายน ปี 2001 และอย่างที่บรรยายไว้ในเรื่อง ชีวิตของเขาก็พังทลายลง

"But then one September morning seven years ago, bright sunlight mocking in the sky, that all exploded, along with two airliners, two buildings and two thousand, severn hundred and forty people -- one of whom was his wife.

Gone."

มิเชลล์เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 9/11 และเดเนียลซึ่งออกไปซื้อกาแฟขณะที่เกิดเหตุรอดตาย

ปกติแม็กซ์ไม่ใช่คนที่ชอบอ่านเรื่องที่พระเอกเคยมีรักแท้กับผู้หญิงคนอื่นมา ก่อนนางเอกนะคะ แม็กซ์ไม่ชอบความรู้สึกของการเป็นเป็นที่สอง หรือมาทีหลัง แต่เล่มนี้แคธลีนเขียนได้ดีมาก ๆ จนประเด็นนี้ไม่รบกวนจิตใจแม็กซ์เลย ทั้งที่มันเป็นส่วนสำคัญที่สุดของเรื่อง

มันเป็นไปได้ไหมสำหรับคนที่เหลืออยู่ที่จะมีชีวิตต่อ มีความรักครั้งใหม่ และมีความสุขอีกครั้ง

เจ็ดปีผ่านไปแล้ว ความเศร้าเสียใจเริ่มเลือนหายไป และนั่นยิ่งเพิ่มความรู้สึกผิดให้เดเนียล เขาสัญญาที่จะรักมิเชลล์ตลอดไป ความรักมันควรจะอยู่ตลอดไป แต่เขารู้สึกโดดเดี่ยวขึ้นเรื่อย ๆ การอยู่ตามลำพังในเมืองใหญ่ การจมอยู่กับความรู้สึกผิดตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องง่าย หรือดีต่อสุขภาพจิตเลย แต่เดเนียลก็ปฏิเสธที่จะเดินหน้าต่อไปในชีวิต

จนกระทั่งเขาได้พบกับแคทเทอลีน ขณะที่ไปพักร้อนช่วงสุดสัปดาห์ ความเศร้าในดวงตาของเดเนียลเรียกหาเธอ ในฐานะของศิลปิน เธอรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดในวิญญาณ ทั้งสองคนถูกดึงดูดเข้าหากัน และได้ใช้เวลาชั่วสั้น ๆ นั้นกับกันและกัน โดยไม่หวังจะมีอะไรที่มากไปกว่านั้น

สุดสัปดาห์นั้นจบลง พร้อมกับการเข้าใจผิด เพราะแคทเทอลีนพบแหวนแต่งงานของเขาเข้า และคิดว่าเขาแต่งงานแล้ว ส่วนเดเนียลเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายได้อย่างไรว่า ทำไมเขายังสวมแหวนแต่งงานอยู่ ทั้งที่เมียก็ตายไปตั้งเจ็ดปีแล้ว เขาจะอธิบายเรื่องเศร้าที่เกิดกับเขาได้อย่างไร

ทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้ง เมื่อเดเนียลเป็นหนึ่งในทีมงานที่ถูกส่งเข้ามาตรวจสอบบัญชีในบริษัทที่แคทเท อลีนทำงานอยู่ (และปู่ของเธอเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย) และความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่พยายามบอกว่า ไม่อาจเป็นได้มากกว่าเซ็กส์ก็เริ่มขึ้น

ฟังพล็อตเรื่องนี้ก็รู้สึกเหมือนพระเอกเห็นแก่ตัวมาก ๆ นะคะ เพราะเขาเป็นคนที่ไม่อาจเปิดใจยอมรับนางเอกเข้ามา เป็นคนที่หมกหมุ่นอยู่กับความรักในอดีต และพยายามที่จะกันแคทเทอลีนออกไปจากชีวิต แต่แม็กซ์ก็พบว่าตัวเองเกลียดเขาไม่ลง ไม่ใช่ว่าเดเนียลไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรลงไปกับแคทเทอลีน แต่เขาไม่รู้ว่า "ควร" จะต้องทำยังไง เขาควรจะมีรักแท้เพียงครั้งเดียว เขาควรจะซื่อสัตย์ต่อความรักจนวันตาย แม้มิเชลล์จะจากไปก่อนที่เขาจะทันตั้งตัว เขาต้องต่อสู้กับความรู้สึกผิดที่ว่าตัวเองเป็นคนทรยศต่อความรัก นี่เป็นฉากหนึ่งที่เขาพูดคุยกับแม่ของมิเชลล์ แม็กซ์ชอบแม่ของมิเชลล์นะคะ เพราะเป็นเธอที่ให้เหตุผลกับเดเนียล "

"Loving someone isn't something you put behind you... it's forever"

She's not coming back, Daniel. What? You're going to be alone for the rest of your life? Another fifty years? Is that really that you want?"

"I made a promise to your daughter. Ihad our life so completely and carefully planned. It wasn't supposed to be fucked. She didn't deserve it.

"She didn't deserve it, and neither did you. You can't live like this forever, Daniel. She wouldn't want you to"

"Michelle's gone now and I can't change that, and you can't change that. I wasn't supposed to bury a daughter, you weren't supposed to bury a wife, but we did. and you're too young for this."

เห็นอย่างนี้เดเนียลไม่ใช่พระเอกทมทุกข์นะคะ แต่เขามีหลักการ มีแผนการ และมีแผลในใจที่ใหญ่มาก เขารู้ตัวว่ารักแคทเทอลีน แต่ไม่กล้าสานความสัมพันธ์ให้มากไปกว่านี้ เพราะเขาไม่แน่ใจว่า ตัวเองจะมีวันทำใจให้รักเธอโดยไม่รู้สึกผิดต่อมิเชลล์ได้ไหม

และแม็กซ์ชอบการที่เขาคิดได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้มีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงชีวิต หรือมีคนมาพร่ำสอนชี้ทางสว่างให้ เพราะเรื่องอย่างนี้มันต้องคิดตกด้วยตัวเองค่ะ

พูดตามตรงนะคะ แม็กซ์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ถ้าเป็นเราเอง เกิดตายก่อนคนที่เรารัก (และเขารักเรา) เราจะคาดหวังให้เขาไว้ทุกข์ให้เราไปตลอดชีวิตเลยเหรอ (แต่ที่แน่ ๆ แม็กซ์ไม่ต้องการให้ใครฆ่าตัวตายตามแม็กซ์ไปหรอกนะคะ ไม่บ้าหนังเกาหลีขนาดนั้น)

หนังสือเล่มนี้ท้าทายความเชื่อของแม็กซ์เรื่อง พระเอกโรแมนซ์มีรักแท้ได้แค่ครั้งเดียวมาก อย่างที่บอก ปกติไม่ชอบพล็อตแนวนี้อย่างแรง แต่เล่มนี้สอบผ่านค่ะ ผ่านแบบได้เอเสียด้วย

คะแนนที่ 83

No comments: