Saturday, January 31, 2009

สามสิบยังแจ๋ว ที่ไม่ใช่เพลง

ถ้าเป็นสมัยก่อน คนอายุสามสิบก็ถือว่ามาถึงครึ่งทางชีวิตพอดี ตอนนี้เมื่อคนอายุยืนขึ้นไปเป็นแปดสิบเก้าสิบ อายุสามสิบจึงเปรียบเหมือนการเริ่มต้น คุณเพิ่งผ่านพ้นสิบปีแรกแห่งการทำงานในชีวิตมา (บางคนอาจจะยังไม่หมดภาระเรื่องเรียนด้วยซ้ำ) คุณเริ่มสนุกสนานกับการใช้เงินที่หามาได้เอง ใช้ชีวิตอย่างที่คุณใฝ่ฝัน (ถ้าคุณโชคดีพอ) สามสิบเป็นวัยแห่งการใช้ชีวิต

แม็กซ์นั่งคุยกับเด็กที่เพิ่งสอบเข้ามหาลัยได้ เขาอายุ 18 ปี กำลังหนุ่มเต็มตัว พ่อแม่ฉลองความสำเร็จให้เขาด้วยการซื้อรถให้ขับ เมื่อเราเจอกัน จู่ ๆ เขาก็ถามแม็กซ์ว่า อายุเท่าไหรแล้ว

พอตอบไปว่าสามสิบ... เขาก็พูดว่า นึกภาพตัวเองตอนอายุเท่านี้ไม่ออกเลย แล้วก็ไม่อยากจะคิดถึงตัวเองตอนอายุสามสิบด้วย มันแก่เกินไป

เอาล่ะสิ แก่งั้นเหรอ แม็กซ์บอกเลยนะว่า ไม่เคยคิดว่าตัวเองแก่ อาจเพราะตลอดเวลาการใช้ชีวิต แม็กซ์ไม่เคยเสียใจในสิ่งที่ตัวเองทำแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำผิดพลาด ทำเยอะด้วยนะ แต่ทุกความผิดพลาด ทุกความล้มเหลว คือประสบการณ์ที่ทำให้แม็กซ์เป็นคนอย่างทุกวันนี้

คนที่แม็กซ์พอใจที่ได้เป็น และมีความสุขที่ได้เป็น

ไม่มีคำว่าเสียใจ

แม็กซ์ตอบเด็กคนนั้นไป สามสิบไม่ใช่วัยที่น่ากลัว เป็นการเริ่มต้นชีวิตอันน่าพิศมัยด้วยซ้ำ ถ้าคุณใช้ชีวิตในช่วงเวลาก่อนหน้าอย่างฉลาด คุณจะมีวัยสามสิบที่สดใส เสียยิ่งกว่าวัยรุ่นขบเผาะเสียอีก

ทำไมน่ะเหรอ

สามสิบเป็นวัยที่คุณเริ่มก้าวหน้าในอาชีพ มีเงินที่คุณหามาเอง และแน่นอนว่าย่อมจะตัดสินใจใช้ยังไงตามแต่ใจที่คุณต้องการ คุณไม่ใช่เด็กวัยสิบเจ็ดที่แบมือขอเงินจากทางบ้าน ต้องหลบซ่อนสิ่งที่คุณชอบจากผู้ปกครอง เพียงเพราะพวกเขาอาจไม่เข้าใจในความลุ่มหลงของคุณอีกต่อไป

สำหรับแม็กซ์ มันคือการประกาศอิสรภาพ การเป็นตัวของตัวเอง เลือกที่จะใช้ชีวิตในแบบที่เราเลือก ไม่ใช่ในแบบที่ถูกเลือกให้เป็น

แต่แม็กซ์ไม่มีวันที่จะมายืนที่จุดนี้ในวัยสามสิบได้ ถ้าในช่วงก่อนหน้าไม่ฟังคำแนะนำจากคนอื่น ไม่ทำเต็มที่กับชีวิตที่อยู่ตรงหน้า ชีวิตไม่ได้เกิดจากการอธิษฐานขอพร (โอเคมันอาจมีส่วนช่วยนะ) แต่เป็นเพราะความพยายาม และทุ่มเทเกินร้อย

ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ มีแต่ไม่ได้ทำ (ไม่ใช่โฆษณาจอห์นนี่วอร์คเกอร์นะ แต่เป็นสิ่งที่แม็กซ์คิดเสมอ)

แม็กซ์ไม่เก่งอังกฤษมาจากท้องพ่อท้องแม่ แม้ทางบ้านจะลุ้นและดันด้วยการเสียเงินแป๊ะเจี๊ยให้เข้าเรียนในโรงเรียน ฝรั่งระดับดังย่านเทเวศร์ ตอนเรียนม.สองก็สอบตกวิชาภาษาอังกฤษ

ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับชีวิตของแม็กซ์ มันปลุกแม็กซ์ตื่นจากความฝันเฟื่องที่ว่า คนเราสอบผ่านกันได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือ

อาจมีคนทำได้ แต่ไม่ใช่แม็กซ์ ความพยายามทำให้แม็กซ์อ่านนิยายภาษาอังกฤษเล่มแรกจบขณะกำลังเรียนม.สอง และไม่เคยหันหลังกลับนับจากนั้น

ชีวิตในปัจจุบันมีฐานมาจากอดีต มันขึ้นอยู่กับว่า คุณใช้ชีวิตในอดีตยังไง มันเป็นภาพสะท้อนอดีตที่คุณเป็น และในขณะเดียวกันมันก็จะเป็นโครงร่างของชีวิตที่คุณกำลังจะเป็นในอนาคต

แม็กซ์ไม่ใจหายที่อายุสามสิบ เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต

No comments: