Friday, January 23, 2009

Dangerous Secrets // Lisa Marie Rice

ลิซ่า มาเรีย ไรซ์เป็นนักเขียนที่ทำให้เราค้นพบว่า นักเขียนอีบุ๊คที่เขียนเรื่องดีดีที่ไม่จำเป็นต้องเน้นฉากเอ็กซ์อย่างเดียว ก็ยังมี (เราไม่ได้ว่าอะไรกะฉากเอ็กซ์ หรือบอกว่าลิซ่า มาเรียเขียนเรื่องไม่เอ็กซ์นะคะ) แม็กซ์เริ่มซื้อหนังสือฉบับอีบุ๊คครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน สมัยที่คนยังไม่รู้จักสนพ.อีลอร่าส เคฟ แต่แม็กซ์รู้จักเพราะมีเพื่อนกูรูตัวจริงเสียงจริง (แปลว่ารู้จริงไม่ได้แอบอ้าง) แนะนำให้แม็กซ์รู้จักกะนักเขียนที่ชื่อว่าเจด แบล็ค ซึ่งตอนนั้นแม็กซ์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอคือเจ้าของอีลอร่า ทำให้แม็กซ์ลองตามเข้าไปในเว็บของสนพ.นั้น และลองซื้อมาอ่าน

หลังจากตามเก็บประสาทที่เตลิดเถิดเทิงไปเพราะฉากเอ็กซ์ชนิดที่ไม่เคยเห็นมา ก่อนในชีวิตกะเรื่อง The Empress's New Cloth แม็กซ์ก็เริ่มบ้าอ่านหนังสือของอีลอร่าอย่างกู่ไม่กลับ แล้วก็พบกับความจริงว่า แต่ละเล่มมันช่างเหมือนกัน จนในที่สุดก็เบื่อ เบื่อ แล้วก็เบื่อ

จนกระทั่งแม็กซ์ได้พบกับงานเขียนของลิซ่า มาเรีย ไรซ์ และแม็กซ์ก็ได้พบกับรักแท้มาก ๆ ครั้งนึงในชีวิต เพราะแม็กซ์ชอบงานของเธอ ชอบ ชอบ ชอบ ชอบได้ยินกันไหมเนี่ย

ถ้าขอยืมคำพูดของเพื่อน แม็กซ์จะพูดแทนเธอว่า งานของลิซ่า มาเรีย ไรซ์เหมือนกับงานของลินดา โฮเวิร์ดในยุคสุดรุ่งเรืองของเธอ พระเอกที่เป็นอัลฟ่าจ๋า แต่ไม่น่ารำคาญ นางเอกก็เข้มแข็ง ยืนหยัดต่อพระเอกได้ โดยไม่ต้องใช้ความแข็งกร้าว

ถ้าเอาคำพูดของแม็กซ์เอง ก็ขอบอกว่า งานของลิซ่า มาเรีย เหมือนกับงานของแชนน่อน แม็คเคนน่า ฉบับที่พระเอกไม่ได้เป็นโรคจิต หรือเซ็กส์จัดจนน่ากลัว (แปลว่า เซ็กส์จัดค่ะ แต่ดูเหมือนคนปกติมากกว่าพระเอกของแชนน่อน และแม็กซ์ก็ไม่ได้บอกว่า มีอะไรเสียหายกะพระเอกของแชนน่อนนะคะ)

<ขออนุญาตออกไปดูแฮนค็อคก่อนนะคะ เดี๋ยวกลับมาเขียนต่อ>

<นอกเรื่องหลังได้ดูแฮนค็อค ขอบอกว่า ถ้าคิดจะไปดูหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่สู้กันข้าวของพัง ก็คงได้เห็นข้าวของพังนะคะ แต่แม็กซ์รู้สึกว่าธีมเรื่องมันไม่ใช่ มันเป็นหนังชีวิตหน่อย ๆ ส่วนตัวเราขอเรียกว่า "ด้านมืดของความเป็นอมตะ">

กลับมาเข้าเรื่องหนังสือของเรากัน

Dangerouse Secrets ของลิซ่า มาเรีย ไรซ์

วันนี้โชว์ปกใหญ่ให้ดูกันสะใจไปเลย หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่สองแล้วที่ลิซ่าเขียนให้กะสนพ.เอว่อน กับอิมพรินต์อีโรติคของเขาที่ชื่อว่าเอว่อน เรด แต่ส่วนตัวนะคะ แม็กซ์ไม่คิดว่าเล่มนี้มันจะใช่อีโรติค โรแมนซ์หรอกนะคะ จริงอยู่มันอาจจะมีฉากเอ็กซ์ให้เสียวหัวใจกันเกือบทั้งเรื่อง แต่แม็กซ์รู้สึกเสมอว่า ความรักนำทางเสมอ

แชริตี้ พรีวิตต์เป็นบรรณารักษ์ในห้องสมุดของเมืองเล็ก ๆ ชีวิตของเธอไม่น่าจะเข้าไปพัวพันกับผู้ก่อการร้าย หรือองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติได้เลย แต่เพราะเธอเป็นเพื่อนสนิทของมาเฟียรัสเซีย คนที่ต้องสงสัยว่ากำลังร่วมมือกับผู้ก่อการร้าย ทำให้เธอตกเป็นเป้าหมายการสอดแนมของนิโคลัส ไอร์แลนด์ อดีตทหารหน่วยเดลต้าที่ผันตัวเองมาเป็นสายลับให้กับรัฐบาล

ด้วยฉายาเดอะไอซ์แมน หรือมนุษย์น้ำแข็ง นิคประสบความสำเร็จในการทำภารกิจทุกอย่างที่ได้รับมอบหมาย และการหลอกลวงบรรณารักษ์สาวแสนซื่ออย่างแชริตี้ว่าเขาคือ นิค เอมส์ นายหน้าค้าหุ้นผู้ประสบความสำเร็จ และกำลังมองหาช่องทางการลงทุนในเมืองเล็ก ๆ ที่เธออยู่อาศัยเป็นเรื่องง่ายมาก แต่สิ่งที่นิคไม่ได้คิดถึงก็คือ เขาจะตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง

เขารักเธอมากจนทำผิดกฎทุกอย่างของสายลับ เขารักเธอมากพอจะแต่งงานกับเธอภายใต้ชื่อปลอม เพียงเพื่อให้ความคุ้มครองแก่เธอ

แม็กซ์ถือว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่สมบูรณ์ที่สุดของลิ ซ่า มาเรียที่แม็กซ์เคยอ่านมานะคะ แม็กซ์ชอบ Midnight Man แต่คิดว่ามันสั้นเกินไป แต่เล่มนี้กำลังพอดี แม้ว่าจะยังมีช่องโหว่หลายจุดในพล็อต

เรามาพูดถึงจุดที่แม็กซ์ชอบกันก่อนดีกว่า แม็กซ์ชอบความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกและนางเอก แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ลิซ่า มาเรียเป็นคนที่เขียนพระเอกนางเอกได้ดีที่สุดคนนึ่งที่แม็กซ์เคยอ่านมา เธอมีพรสวรรค์ที่จะเขียนให้พระเอกและนางเอกที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงวัน และมีเซ็กส์ด้วยกัน โดยทำให้คนอ่านรู้สึกว่ามันเกิดจากความรัก แม็กซ์อธิบายไม่ได้ แต่นี่เป็นสิ่งที่แม็กซ์รู้สึก แม็กซ์ไม่เคยต้องตั้งข้อสงสัยในความรักที่นิคและแชริตี้มีต่อกัน มันโดดเด่น และชัดเจนมากพอ

แม็กซ์ชอบรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ลิซ่า มาเรียใส่ในเนื้อเรื่อง แม็กซ์ชอบที่เธอกล่าวถึงเพื่อนสนิทของนิค (ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องเลย) เพื่อใช้ในการบอกเล่าความเป็นคนดีโดยเนื้อแท้ของนิค เพราะการกระทำของเขาที่หลอกแชริตี้ดูไม่ค่อยน่ารักนัก

แม็กซ์ชอบที่ลิซ่า มาเรียเขียนให้ตัวร้ายเป็นมนุษย์ วาสิลี่เป็นผู้ร้ายที่น่าสนใจที่สุดคนนึงที่แม็กซ์ได้อ่านในรอบปีนี้ เขาเป็นนักประพันธ์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงโนเบล และเพราะผลจากการเป็นเหยื่อในระบอบคอมมิวนิสต์ทำให้เขาและคนรักถูกส่งเข้า คุกในไซบีเรีย ความโหดร้ายและการสูญเสียคนรักเปลี่ยนแปลงตัวเขาจนกลายมาเป็นหัวหน้ามาเฟีย ใหญ่ เขาเป็นตัวละครที่น่าสนใจมาก ๆ (อันที่จริงแม็กซ์คิดอยากให้มีการเขียนถึงเขาในอีกเวอร์ชั่นนึงที่เขากลาย เป็นพระเอก อยากรู้ว่าเขาจะเป็นยังไงถ้าเขาเลือกอีกทางที่ไม่ใช่กลายเป็นผู้ร้าย) และแม็กซ์เข้าใจว่าทำไมเขาถึงปฏิเสธระบบ และตกเป็นทาสของอำนาจ เขาสูญเสียทุกอย่างที่มีค่าในชีวิต เพราะอำนาจ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาจะแสวงหามันเพื่อปกป้องตัวเขาจากความสูญเสียนั้นอีก

มาถึงข้อเสียกัน อันที่จริงจะเรียกข้อเสียก็คงไม่ถูกนักหรอกค่ะ เพราะแม็กซ์ไม่ได้คิดว่ามันเลวร้ายขนาดทำลายเนื้อเรื่อง แต่ก็ขอบอกว่าพล็อตเรื่องนี้อ่อนเหตุผลไปในหลายจุดมาก แม็กซ์ไม่คิดว่า เบาะแสที่นิคและทีมงานของเขาได้มามันมากพอที่จะขนาดทำให้พวกเขาต้องลงทุน ขนาดสร้างเรื่องหลอกแชริตี้เสียใหญ่โตขนาดในเรื่อง แล้วแม็กซ์ก็ไม่เห็นว่า การสืบเรื่องวาสิลี่ผ่านแชริตี้จะได้ข้อมูลมากพอที่จะทำอะไรได้สักนิดเดียว การที่จัดการผู้ร้ายได้ เป็นเพราะมันเป็นนิยายโรแมนซ์และจำเป็นต้องจบอย่างแฮ็ปปี้เป็นเหตุผลหลักที่ ทำให้ภารกิจของพระเอกและพวกประสบความสำเร็จ

แต่อย่างที่บอก มันเป็นข้อเสียที่เล็กน้อยมากสำหรับแม็กซ์ เพราะโดยแกนของเรื่องนี้แล้ว มันก็คือเรื่องรัก ไม่ใช่สืบสวน แม้จะพยายามให้มันเป็นอย่างนั้นก็ตาม คะแนนที่ 77

No comments: