Saturday, January 31, 2009

A Rogue's Game // Renee Bernard

ในโลกของนิยาย ตัวละครที่แม็กซ์ไม่เคยห้ามใจตัวเองได้อยู่ก็คือหนุ่มเสเพล (Rake/Rogue/Whatever you called him) ผู้ชายที่แม็กซ์ไม่คิดจะแม้ได้พบในชีวิตจริง แต่ในโลกแห่งนิยายคือคนที่แม็กซ์ไม่อ่านไม่ได้

และวันนี้ก็ฟิตจัดอ่านหนังสือจบไปถึงสองเล่ม และทั้งสองเล่มก็มีสิ่งที่เหมือนกันก็คือ พระเอกที่ได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มเสเพล ติดจะร้ายนิด ๆ อีกต่างหาก

ในเล่มแรก A Rogue's Game ของเรเน่ เบอร์นาร์ด เล่มนี้แม็กซ์รอคอยและอยากอ่านมาก เพราะจูเลี่ยน เคลย์พระเอกเป็นตัวละครที่ออกมาดตัวร้ายในเรื่อง A Lady's Pleasure ซึ่งเป็นเล่มแรกในชุดนี้ สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน ALP และคิดจะอ่าน แม็กซ์ก็แนะนำว่าอย่าเพิ่งอ่าน ARG นะคะ เพราะจะมีสปอลย์เนื้อเรื่องของเล่มแรกในเล่มนี้ด้วย

จูเลี่ยนใช้ชีวิตเสเพลตั้งแต่รุ่นหนุ่ม เขาสูญเสียทรัพย์สินทุกอย่างไปกับโต๊ะพนัน และการใช้ชีวิตที่ไม่มีข้อจำกัด เขาทำหลายอย่างที่เลวร้าย เป็นชู้กับเมียชาวบ้าน หรือแม้กระทั่งเมียของเพื่อนสนิทตัวเอง แต่เขากลับหนีรอดการเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัวได้ เพราะการกระทำของเขาที่เข้าไปช่วยชีวิตคู่หมั้นของศัตรู (ก็พระเอก ALP นั่นแหละ) ด้วยการรับกระสุนที่มุ่งหมายชีวิตของเธอไว้

และนั่นทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษ จูเลี่ยนกลับมาลอนดอนอีกครั้งหลังจากหลบไปรักษาแผลในชนบท แต่แม้จะหนีรอดจากการหมดตัว เขาก็ไม่ได้มีทรัพย์สินเหลืออยู่เยอะนักหรอก และมันบีบบังคับให้เขาต้องเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านเพื่อน ใช้ร่างกายตัวเองเป็นค่าเช่าบ้านให้กับเมียเพื่อน

แม็กซ์มีโอกาสคุยกับเรเน่เกี่ยวกับจูเลี่ยนเมื่อครั้งที่ไปงาน RT เธอบอกแม็กซ์ว่า จูเลี่ยนไม่ได้กลับตัวเป็นคนดีหรอกนะ อันที่จริงเขายังคงเป็นคนเดิม แต่ดีขึ้นเพราะนางเอก

ซึ่งแม็กซ์เห็นชอบ และเมื่อได้อ่านก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง แม็กซ์ไม่ชอบพระเอกที่ถูกบรรยายว่าเลวร้ายอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ท้ายสุดก็กลายเป็นคนดีได้ราวกับนางเอกมีไม้เท้าวิเศษเสกให้กลับตัว

แม็กซ์ชอบพระเอกที่เจ้าเล่ห์หน่อย ๆ ร้ายนิด ๆ (ที่ร้ายนี่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องตบนางเอกหน้าคว่ำหรอกนะ) ขอนอกเรื่องนิดนึงเพื่อบอกว่า พระเอกแนวนี้ที่ได้ใจแม็กซ์มากที่สุดคนนึงก็คือ คริสเตียน พระเอกของแอน สจ๊วตในเรื่อง The Devil's waltz

กลับมาที่เล่มนี้ อย่างที่เรเน่บอก จูเลี่ยนไม่ได้กลับตัวได้โดยปฏิหารณ์ เขายังเสเพล เล่นพนัน ใช้ชีวิตอย่างที่ rogue ทั่วไปเป็นกัน และเขาก็ได้เจอกับอีฟ หญิงสาวที่จับจ้องความสนใจของเขาไว้ได้ทั้งหมด

อีฟไม่ใช่หญิงสาวไร้เดียงสาอย่างที่เธอแสดงฉากหน้าให้วงสังคมเห็น เธอและลุงของเธอเป็นนักหลอกลวง มาที่ลอนดอนเพื่อปอกลอกบรรดาเศรษฐีในสังคมชั้นสูง แต่อีฟมีเป้าหมายอื่น เธอต้องการเก็บเงินให้มากพอ แล้วออกจากวงการ ไปใช้ชีวิตอย่างสงบในชนบท แต่การได้พบกับจูเลี่ยน นำความยุ่งยากมาสู่แผนการของเธอ

ในสายตาของคนทั่วไป จูเลี่ยนดูเหมือนจะตกหลุมรักสาวน้อยไร้เดียงสา แต่สำหรับเขาแล้ว จูเลี่ยนมองผ่านฉากหน้า และรู้จักตัวตนแท้จริงของอีฟ เขาเข้าใจเธอ และยอมรับเธออย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้

แม็กซ์ชอบเรื่องนี้เพราะจูเลี่ยนยังคงเป็นจูเลี่ยน ผู้ชายที่เห็นแก่ตัว เขาเห็นอีฟ และต้องการเธอ และเขาก็บอกเธอว่าเขาอยากได้เธอ และเขาต้องได้เธอ แต่ในทางกลับกัน จูเลี่ยนอาจจะเป็นผู้ชายคนเดียวที่ยอมรับตัวตนแท้จริงของอีฟได้โดยไม่รู้สึก ว่าเธอต้อยต่ำ และแน่ละเขาเป็นผู้ชายที่เหมาะสมในการจัดการกับลุงของเธอ

ต่อไปสปอลย์นะคะ

แม็กซ์ชอบฉากจบของเรื่องนี้มาก ๆ เมื่อจูเลี่ยนท้าลุงของอีฟพนัน โดยเดิมพันทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขา เพื่อแลกกับการที่ลุงของเธอจะเลิกยุ่งกับเธอ และในตอนจบเมื่อเขาบอกเฉลยความจริงว่า เขาไม่ได้มีทรัพย์สินอะไรอีกแล้ว เพราะเขาได้โอนมันทั้งหมดให้กับอีฟตั้งแต่ก่อนหน้าที่ทั้งคู่จะหนีไปด้วยกัน เสียอีก นี่เป็นการแสดงถึงความจริงใจที่เขามีกับอีฟ โดยไม่ต้องอาศัยคำบอกรัก แล้วยังวิธีที่เขาสารภาพรักและขอเธอแต่งงานอีก เมื่อเขาบอกกับเธอว่า "นอกจากความซื่อสัตย์รักเดียวใจเดียวแล้ว เขาไม่อาจเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างอื่นเพื่อเธอได้อีก เขาไม่อาจเลิกดื่มเหล้า เลิกการพนัน หรือทำตัวเป็นผู้ชายที่เถรตรงน่านับถือได้ เขาแค่รักเธอได้เท่านั้นเอง"

ฉากจบกินใจได้คะแนนไปเยอะค่ะ ก็เลยอยู่ที่ 73

อันที่จริงว่าจะพูดถึงเรื่อง Don't tempt me ของซิลเวีย เดย์อีกเรื่องด้วยค่ะ แต่คิดว่าเขียนเยอะแล้วนะคะ ไว้พรุ่งนี้แล้วกัน

No comments: