Saturday, January 31, 2009

Moonstruck // Susan Grant

เล่มนี้เริ่มอ่านเมื่อคืนค่ะ หลังจากอาการไมเกรนเริ่มดีขึ้น แล้วก็อ่านเลยต่อไปจนเกือบเช้า ดังนั้นคงไม่ต้องบอกหรอกนะคะว่าเล่มนี้ถูกใจแม็กซ์แค่ไหน

Moonstruck ของซูซาน แกรนต์

แต่สำหรับแฟนโรแมนซ์หลายคน แค่อ่านบทเปิดเรื่องก็อาจจะหน้าเบกันแล้วก็ได้นะคะ (และแม็กซ์ก็บอกตามตรงนะว่า ไม่ค่อยชอบฉากเปิดเรื่องอย่างนี้นักหรอก) แต่ขอบอกได้เลยว่า ถ้าไม่อ่านหนังสือเล่มนี้เพราะฉากนี้ล่ะก้อ เป็นความน่าเสียดายของคุณเองนะ เพราะนางเอกของเรา ท่านนายพลบริต แบนดอร์กำลังใช้เวลากับชายอื่นที่ไม่ใช่พระเอกของเรื่อง เธอกำลังอยู่ระหว่างการหยุดพัก หลังจากทำสงครามมานาน แต่แล้วก็โดนเรียกตัวให้กลับไปรับคำสั่งเพื่อทำงานอีกครั้ง

หนังสือเล่มนี้โฆษณาว่าเป็นเล่มแรกในชุด The Tales of the Borderlands แต่ความจริงแล้วมันคือส่วนต่อเนื่องมาจากชุด Otherworldly Men ที่เล่าเรื่องของการบุกโลกของมนุษย์ต่างดาว แล้วเหล่าพี่น้องตระกูลแจสเปอร์ช่วยกันพิทักษ์โลกไว้ได้สำเร็จ แต่ก็ไม่จำเป็นหรอกนะคะว่าต้องอ่านชุด OM มาก่อนถึงจะอ่านเรื่องนี้รู้เรื่อง เพราะภูมิหลังที่สำคัญที่นำทางจนมาถึงเล่มนี้ก็เล่าไว้ครบถ้วนในเล่มนี้ดี

แต่เพื่อเตือนความทรงจำ แม็กซ์ขอท้าวความย้อนหลังเองแล้วกัน

ในชุด OM โลกมนุษย์ได้รับการติดต่อจากต่างดาวซึ่งมีแผนการจะนำโลกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง ของฝ่ายพันธมิตร (ที่ไม่ได้ชุมนุมอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลนะคะ) แต่การเป็นส่วนหนึ่งหมายถึงมนุษย์โลกจะต้องกลายเป็นผู้อพยพ เป็นพลเมืองชั้นสองในสังคมของเหล่าพันธมิตรอันยิ่งใหญ่ และนั่นไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์เราต้องการ หนึ่งในทหารของฝ่ายพันธมิตรที่เมื่อหลายสิบปีก่อนตกหลุมรักเด็กน้อยชาวโลก ตัดสินใจทิ้งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงหรือเกียรติยศเดินทางมายังโลก เพื่อเตือนให้โลกรับรู้ถึงภัยคุกคามอันนี้ และในที่สุดก็ด้วยแผนการอันแยบยลก็หลอกฝ่ายพันธมิตรได้สำเร็จว่า โลกเรามีกองทัพกันน่าเกรงขาม (พล็อตนี้อยู่ใน Your plantnet or mine)

แต่เพราะฝ่ายพันธมิตรเกรงกลัวมนุษย์โลก (เพราะโดนหลอกสำเร็จ) ราชินีซึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของฝ่ายพันธมิตรจึงต้องการได้ฝ่ายโลกเป็นพวก ก่อนที่โลกจะหันไปเป็นพวกเดียวกับเดรคเค่น อันเป็นศัตรูสูงสุดของฝ่ายพันธมิตร เธอจึงเจรจาจนได้สามีชาวโลกมาเป็นตัวประกัน (และนี่เป็นพล็อตของเล่มสองเรื่อง My Favorite Earthling) ผลสรุปของเล่มนี้ก็คือ การยุติสงครามระหว่างฝ่ายพันธมิตร และเดรคเค่นอันมีมานาน เมื่อราชินีฆ่าผู้นำสูงสุดของเดรคเกอร์ได้สำเร็จ

ฝ่ายเดรคเค่นซึ่งเป็นตัวร้ายใหญ่ในเรื่องชุด OM ก็ถึงกาลอวสาร จนกระทั่งมาถึงชุดนี้ The Tales of the Borderlands ที่เล่าถึงเหตุการณ์ภายหลังฝ่ายเดรคเค่นยอมแพ้

พันธมิตรสามฝ่ายเกิดขึ้น มันเป็นการรวมตัวกันระหว่างฝ่ายพันธมิตร ชาวโลก และฝ่ายเดรคเค่นผู้แพ้สงคราม และเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่า ทั้งหมดได้รวมกันเป็นหนึ่งแล้ว ยานยูนิตี้จึงเกิดขึ้น นึกถึงคอนเซ็ปต์ของยานเอ็นเตอร์ไพร์ส (ในสตาร์เทร็ค) ที่มีผู้การเรือคือนายพลหญิงบริต แบนดอร์ซึ่งเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่และเก่งกาจของฝ่ายพันธมิตร เธอมีอดีตอันเจ็บปวดจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของพวกเดรคเค่น

การมารับตำแหน่งผู้การเรือยูนิตี้ของเธอ แม้จะเป็นการเลื่อนระดับเพราะเรือลำนี้ใหญ่และดีกว่ายานอวกาศลำเดิมของเธอ แต่เธอก็ต้องยอมรับเอาชาวเดรคเค่นที่เธอรังเกียจเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของลูก เรือ และหนึ่งในนั้นคือรองผู้การฟิน ร็อคเค่น ซึ่งเคยเป็นศัตรูตัวสำคัญที่เธอตามล่า และเขาก็หนีรอดไปได้หลายต่อหลายครั้ง

หนังสือเรื่องนี้อาจจะออกแนวสตาร์เทร็คนะคะ แต่เนื้อเรื่องไม่ได้เน้นไปที่ความน่าตื่นเต้น หรือการต่อสู้กลางอวกาศ แต่หัวใจหลักของเรื่องนี้ก็คือ การยอมรับความแตกต่าง ละทิ้งความลำเอียง และการเริ่มต้นใหม่

ฟินเป็นตัวละครที่แม็กซ์กรี๊ดให้เต็ม ๆ เขาเป็นทหารของฝ่ายแพ้ และต้องยอมรับทำงานให้กับผู้ชนะเพื่อสวัสดิภาพของลูกเรือของเขา เขาต้องอยู่ใต้อำนาจบังคับบัญชาของผู้หญิง ของคนที่เคยเป็นศัตรู และเธอรังเกียจคนในชาติเขาอย่างมาก และแม้เมื่อเธอแพ้ใจตัวเองยอมมีความสัมพันธ์กับเขาแล้ว ฉากนอกเขาก็ยังเป็นได้แค่รองผู้การชาวเดรคเค่นที่ไม่น่าไว้ใจ

ทั้งหมดที่ฟินต้องเผชิญ แต่เขาไม่สูญเสียความเป็นตัวเอง ไม่สูญเสียอารมณ์ขันและการมองโลกในแง่ดี และแม็กซ์ชอบทัศนคติของเขามาก ๆ ตอนที่เขาคิดถึงบริต แม้ในยามที่เธอไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย เขาบอกกับตัวเองว่า "เมื่อได้ของดีมาอยู่ในมือ เขาก็ไม่มีวันยอมปล่อยเธอไป" และในความคิดของฟิน บริตคือของดีที่เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อเก็บเธอให้อยู่ในชีวิตของเขา

แล้วก็มาถึงบริต เธอเป็นตัวละครที่มีอดีตอันเจ็บปวด และนั่นเป็นข้ออ้างที่ใช้ได้ในความเลือดเย็นที่เธอมีต่อฟิน เพราะในท้ายที่สุด ในเวลาสำคัญที่สุด เธออยู่ข้างเขา

ตัวละครรองในเรื่องก็น่าอ่านค่ะ แม้ว่าจะไม่มีใครโดดเด่นขนาดเก็งได้ว่า น่าจะกลายเป็นพระเอกหรือนางเอกในเล่มหน้า แต่แต่ละคนก็มีแง่มุมที่น่าสนใจพอกัน ไม่ว่าจะเป็นฝั่งมนุษย์โลกที่เอาวัฒนธรรมแปลก ๆ ไปเผยแพร่ให้ชาวต่างดาว หรือเหล่าเดรคเค่นที่มีอดีตที่น่าสนใจ

โดยรวมเล่มนี้เป็นอีกเล่มที่ถูกใจแม็กซ์ค่ะ คะแนนที่ 80

No comments: