Saturday, January 31, 2009

น้ำใจที่คาดไม่ถึง

วันนี้ขอบลอกสั้น ๆ แล้วกันนะคะ พอดีมีเรื่องยุ่งนิดหน่อย แต่อยากจะแวะมาเล่าถึงความมีน้ำใจของคนที่ได้เจอในงาน RT

คนคนนี้ เราไม่ได้สนิทกับเขามากพอจะเรียกว่าเพื่อนได้ด้วยซ้ำ เราเจอเขาในคลับอาร์ที ซึ่งเป็นที่ที่นักเขียนจะมานั่งให้แฟนหนังสือเข้าไปพบ เราเข้าไปในนั้นเพราะมุ่งหวังจะได้เจอกับแมดเดลีน ฮันเตอร์ ซึ่งเราก็ได้พบ และหลังจากพูดคุยกับเธอ เราก็มองเห็นผู้หญิงผมแดงที่สวยมั่กมากนั่งอยู่ในคนกลุ่มใหญ่ (ชายหนึ่ง หญิงสาม) เราเหลือบมองป้ายชื่อ และเจอว่าเธอคือ ริเซล มีด นักเขียนอีกคนที่แม็กซ์ติดตามอ่านงานของเธอ ไม่ถึงขั้นติดหนึบหนับ แต่ก็ถือว่าเป็นแฟนคอยตามซื้อหนังสือ แม็กซ์จึงเดินเข้าไปหาเธอเพื่อพูดคุยและขอลายเซ็นต์ และก็พบว่า ทั้งสามสาวที่นั่งอยู่ด้วยกันล้วนเป็นนักเขียนแนว Urban Fantasy ที่แม็กซ์ตามอ่าน นั่นคือ ริเซล มีด, เคธลีน คิทเรจน์, และแจ๊คกี้ เคลเซอร์ แม็กซ์ก็เลยขอลายเซ็นต์มาทั้งสามคน

และเหลืออีกหนึ่งหนุ่มในกลุ่มนั้น ป้ายชื่อของเขาอ่านได้ว่า มาร์ค เฮนรี่ แม็กซ์ไม่เคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน และพูดกับเขาตามตรง มาร์คเริ่มอธิบายถึงนิยายของเขา ซึ่งเป็นผลงานเล่มแรก ชื่อว่า Happy Hour of the damned คอนเซ็ปต์ของเรื่องที่เขาพูดถึงน่าสนใจ และแม็กซ์ก็บอกเขาเช่นนั้น

เมื่อถึงวันที่มีงานขายหนังสือ ซึ่งนักเขียนจะมาแจกลายเซ็นต์พร้อมขายหนังสือ แม็กซ์ใช้เวลาชั่วโมงแรกล่าลายเซ็นต์ของนักเขียนคนโปรด เช่น โลร่า ลีย์, เซเลส แบรดลีย์, และคนอื่น ๆ จนเข้าชั่วโมงที่สองแล้ว แม็กซ์ถึงได้นึกถึงมาร์ค เฮนรี่ ซึ่งหลังจากได้ฟังเขาพูดถึงหนังสือของเขา แม็กซ์ก็คิดว่าจะลองซื้อมาอ่านดู

แต่พอไปถึงบู๊ทของเขา ก็พบว่า เขาขายหนังสือทั้งหมดที่มีไปหมดแล้ว

พูดตามตรงนะคะ แม็กซ์ไม่ได้ผิดหวัง มากนัก เพราะยังไม่เคยอ่าน หรือมีอาการเป็นแฟน แต่ก็รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ซื้อ เพราะอย่างที่บอก คอนเซ็ปต์เรื่องนี้น่าสนใจ และแม็กซ์อยากรู้ว่า Urban Fantasy ที่มีผู้หญิงเป็นตัวเอกที่เขียนโดยนักเขียนที่เป็นผู้ชาย จะเป็นยังไงบ้าง

แม็กซ์แสดงอาการผิดหวัง และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

มาร์คบอกว่า เขาจะส่งหนังสือมาให้แม็กซ์ที่เมืองไทย

และสองอาทิตย์หลังจากแม็กซ์กลับจากเมกา แม็กซ์ก็ได้รับพัสดุห่อนี้

หนังสือที่มีราคาขาย 15 เหรียญ ค่าส่งอีกสิบกว่าเหรียญ พร้อมปากการสองด้ามที่พิมพ์ชื่อของมาร์ค เฮนรี่ และลายเซ็นต์ของเขาในเล่ม

มันเกินความคาดหวังค่ะ แม็กซ์บอกตามตรงนะคะว่า แม็กซ์จะไม่รู้สึกอะไรเลย ถ้าเขาไม่ส่งของมาให้แม็กซ์สักอย่าง มันไม่ใช่หน้าที่ หรือภาระที่เขาจำเป็นต้องทำ แม็กซ์ไม่เคยคาดหวังอะไร

มันเป็นเรื่องของน้ำใจล้วน ๆ

ขอบคุณนะคะ ขอบคุณมาก จากใจ

1 comment:

Boonti said...

ยินดีด้วยนะคะที่ได้เจอกับน้ำใจเช่นนี้ อดไม่ได้เลยขอชื่นชมด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะ ตามอ่านบลอกของคุณแม็กซ์มาซักพักแล้วค่ะ ชอบอ่านโรแมนซ์เหมือนกันค่ะ แต่ไม่ค่อยได้อ่านจริงจังเหมือนแต่ก่อน อ่านที่แปลไทยน่ะค่ะ เพราะภาษาอังกฤษของตัวเองนี่แย่มากๆ แต่มาอ่านรีวิวที่นี่ทำให้เกิดแรงฮึดจะอ่านภาษาอังกฤษบ้างน่ะค่ะ เพราะมีหลายเล่มน่าอ่านจัง และจะได้อ่านหลากหลายขึ้นด้วย ถ้าอ่านจบซักเรื่องส่วนนึงเพราะที่นี่เลยนะคะ