Sunday, March 1, 2015

Review: Give It All


Give It All
Give It All by Cara McKenna

My rating: 5 of 5 stars



Give It All ของคารา แม็คเคนนา

อ่านงานของคารา แม็คเคนนาไปหลายเล่มนะคะ ส่วนใหญ่สอบผ่าน นั่นคืออ่านสนุกใช้ได้ แต่ก็ยังไม่มีเล่มไหนที่ "โดน" ใจเราเต็ม ๆ จนกระทั่งเรื่องนี้

Give It All เป็นเล่มที่สองในชุด Desert Dogs ซึ่งเราเชื่อว่า เป็นการทำการตลาดโดยเอาเรื่องไปโยงกับแนวแก๊งค์มอเตอร์ไซด์ (ซึ่งเป็นแนวเรื่องที่กำลังฮิตกันในตอนนี้) แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่ถึงขั้นเป็นแก๊งค์อะไรนะคะ แค่เป็นเพื่อนสนิทกันสี่คนที่หลังจากเวลาหลายปีได้กลับมาที่บ้านเกิด รวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือเมืองที่ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างคาสิโน ซึ่งจะทำให้ชีวิตของทุกคนในเมืองเปลี่ยนแปลงไป

เล่มแรกในชุด (Lay It Down) กล่าวถึงจุดเริ่มต้น เมื่อเพื่อนทั้งสี่ร่วมกันสืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายของเพื่อนสนิทคนนึง ซึ่งตอนจบแม้จะหาตัวคนร้ายเจอ แต่ก็ยังไม่อาจพบตัวผู้บงการ เล่มนี้จึงเหมือนดำเนินเรื่องต่อมา

ในแง่ของพล็อตที่ต่อเนื่องกับเล่มแรก เราคงบอกว่า ไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรเท่าไหร แต่นั่นไม่สำคัญเลย เพราะตัวละครโดดเด่นจนเราไม่สนใจพล็อต เรารู้สึกแบบนั้นจริง ๆ

ถือว่าเล่มนี้เป็นหนังสือที่ถูกใจเราเต็ม ๆ แห่งปี 2015 เลยก็ได้

ดันแคน พระเอกของเรื่องไม่ใช่สมาชิกในแก๊งค์ที่เรากล่าวถึง หากแต่เป็นเรน่า นางเอกของเรื่อง เล่มนี้ไม่ใช่เป็นโรแมนซ์แบบที่หลายคนอาจจะรับได้ นางเอกมีอดีต ไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสาอ่อนต่อโลก หรือรอคอยเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วย อันที่จริงเป็นดันแคนด้วยซ้ำที่ต้องการความช่วยเหลือ

ในฐานะตัวแทนของคาสิโนที่ถูกส่งมาที่บ้านเกิดของเรน่า ดันแคนคือผู้แก้ปัญหา คือคนที่จะทำให้มั่นใจว่า การก่อสร้างคาสิโนจะเสร็จตามแผน เขาควรจะเป็นศัตรูกับกลุ่มของนางเอกด้วยซ้ำ ตอนที่เปิดตัวของดันแคนในเล่มแรกของชุด เราก็ลังเลนะคะว่า เขาจะเป็นฝ่ายคนดี หรือร้าย แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ เขาโคตรจะน่าสนใจ และมาในเล่มนี้เขาก็พิสูจน์ว่า ความคิดของเราถูกต้อง มีอะไรเยอะมากที่ซ่อนอยู่ภายใต้สูทที่ตัดเย็บมาอย่างดีของเขา

คารา แม็คเคนน่าเป็นนักเขียนที่เขียนคาแร็คเตอร์ที่มีมิติ เธอไม่ได้ใช้สูตรสำเร็จ หรือสร้างตัวละครตามภาพลักษณ์ที่คนอ่านคุ้นเคย เรน่าแตกต่าง และดันแคนแตกต่าง เราไม่แน่ใจนะคะว่า คนอ่านที่ชอบเรื่องที่คุ้นเคยจะมองเรื่องนี้อย่างไร แต่สำหรับเรา คาแร็คเตอร์คือส่วนที่ดีที่สุดของหนังสือเรื่องนี้

อย่างที่กล่าวไปแล้ว พล็อตเรื่องไม่ใช่ส่วนที่สำคัญ แทบจะไม่มีอะไรน่าสนใจในพล็อตเลยด้วยซ้ำ ก็แค่ดันแคนถูกใส่ความว่าเป็นผู้บงการเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดในเล่มแรก ซึ่งเรน่ารู้ดี และเมื่อคิดว่า เขาเป็นคนที่ช่วยเธอและเพื่อน ๆ ในการค้นหาความจริง (ที่เกิดในเล่มแรก) เธอจึงรู้สึกรับผิดชอบ เลยต้องเข้าไปปกป้องเขา

คนที่รู้จักรสนิยมของเราดี ก็คงรู้ว่า นี่เป็นจุดอ่อนของเราเลยด้วยซ้ำ การใช้บทบาททางเพศที่สลับกัน แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เรื่องนี้ไม่ได้เขียนให้ดันแคนอ่อนแอ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เขาอาจจะไม่ใช่นักสู้ที่เอาชนะศัตรูตัวใหญ่กว่า (เยอะ ๆ) ได้ แต่เขาก็คือนักสู้ และที่สำคัญเขาน่าสนใจ ไม่อยากสปอยล์นะคะว่า ดันแคนเป็นยังไง แต่เราขอบอกว่า เขาเป็นมากกว่าที่เราคาดหวัง เอาเป็นว่า คำโปรยบนหน้าปกที่เขียนว่า "The Sun Goes Down, The Suit Comes Off, and Then the Real Fun Begins" จริงแท้มาก ๆ

เราเจอคนแต่งเมื่อปีก่อน และมีโอกาสคุยกับเธอเรื่องคาแร็คเตอร์ของดันแคน ซึ่งเราชอบตั้งแต่เจอเขาในเล่มแรกของชุด เธอพูดจนเราคิดเลยนะคะว่า จะสามารถเขียนได้งั้นหรือ แต่พิสูจน์แล้วว่า ทำได้



View all my reviews

Tuesday, January 27, 2015

Review: Never Kiss a Rake


Never Kiss a Rake
Never Kiss a Rake by Anne Stuart

My rating: 3 of 5 stars



Sorry to say that I'm quite disappoint in this book. Except for the fact that the hero married someone else at the beginning of the story, almost all components are what I love in romance.

A hero with dark past & reputation, who ruthless enough to seduce his own housekeeper. But somehow I cannot connect with the characters both the hero and the heroine. Bryony, the heroine, disguises as a housekeeper with intention to find the truth about her father's death. But throughout the book I barely see Bryony attempted to find any information. She got along with other servant. She became a very good housekeeper and she fell in love with the man she suspected involvement with her father's death. The romance is not that bad but lack of chemistry I always expect from Ms. Stuart.

I am frustrated with the pace of the story. I feel like the author kept a lot of suspense plot (about Bryony's father murder) for the next book). I understand it's important to keep trilogy interesting but if the first book is not working who care about the rest.

P.S. I received ARC from NetGalley in exchange for an honest review but I was not sure it's good idea to post this review at the time of publication consider I do not love the book. So I waited until today.



View all my reviews

Review: In For the Kill


In For the Kill
In For the Kill by Shannon McKenna

My rating: 5 of 5 stars



I love Shannon McKenna and absolutely love every single books in this series. But I confess I am a little on the fence about this book. Maybe I look at Sveti and think "kid", memorable and courageous but still a kid whom I met her back in "Extreme Danger". Subsequent books may show Sveti as an grown woman but it's not working. So when I heard Ms. McKenna planed to write her story, I proceed with caution.

However, I requested this book as soon as it appeared in NetGalley because frankly I cannot resist a Shannon McKenna book. And I'm not disappoint especially this book is nothing like I imagine it's going to be.

The romance works perfectly because Sam, the hero do not think of Sveti as a kid. The age differences has been mentioned but not emphasize and certainly not the problem in their complicated relationship. I overcome the feeling of perceiving Sveti as a kid when I saw her through Sam's eyes. He DOES NOT look at her as a child and does not treat as a child. So we still get a certified Shannon McKenna HOT, HOT, and very HOT romance.

I also like the way Sam pursuit Sveti. Nothing better than an obsessive tall, dark, and handsom guy who does everything to get you. Sam is that and much more. I love his attitude, his directness, and the way he does not give up on their relationship. He reminds me of Sean McCloud, which is my all-time favorite Shannon McKenna's hero. (But after I reread "Edge of Midnight", I notice the different so it must be the way Sam make me feel. I like him that much.)

Somehow I heard that this would be the last book in the series. If it's true, it's a very sad day because I love this world. So every time I pick up new book in the series, I learn more about my favorite characters, which are almost couples.

Anyhow, for people who never read Ms. McKenna before, this book is also great place to start. There may be some back story (from previous books) but I do not think it's too much to create confusion. You can read without any concern for the previous books.

In conclusion, this book is not the best Shannon McKenna I've ever read but quite close. But consider how high I place this author on my favorite books of all-time list, it is a high praise. I give the book 5 stars because when I finished reading this book, I went back and reread every books in this series (beginning with Behind Close Door). It took me 2 weeks of continuing rereading. The thing I've never done in a long time.




View all my reviews

Monday, December 15, 2014

Review: Before We Fall


Before We Fall
Before We Fall by Courtney Cole

My rating: 3 of 5 stars



เล่มนี้ถือว่าพัฒนาขึ้นมาจากสองเล่มแรกในชุดนะคะ แต่คงต้องบอกว่า ด้วยระดับที่เป็นอยู่ตอนนี้ เราไม่คิดว่า เราจะติดตามอ่านงานของนักเขียนคนนี้ต่อแล้วล่ะค่ะ (ในแง่ที่ว่า ให้เราออกเงินซื้อหนังสือของเธอมาอ่านเอง) เพราะเราให้โอกาสอ่านครบสามครั้งแล้ว และมันก็ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่เราคิดว่า ดีพอ (หรือลงตัวสำหรับเราเอง) ถ้าใครอ่านงานของนักเขียนคนนี้แล้วมีเรื่องไหนแนะนำก็ช่วยบอกเข้ามาด้วยนะคะ เราเห็นว่า ยังมีงานของเธออีกหลายเล่ม และดูจากชื่อเสียงของเธอ เราคาดหวังมากกว่านี้น่ะค่ะ ดังนั้นจึงอาจจะเป็นได้ว่า เรายังไม่เจอเรื่องที่ "ใช่" ของเธอก็ได้

เรื่องนี้เล่าถึงดอมินิค ดาราหนังฮอลีวู้ดที่มีชื่อเสียง (ถ้าอ่านและจำไม่ผิด พระเอกน่าจะเคยถึงระดับได้รางวัลออสการ์แล้วด้วยนะ) ซึ่งตอนนี้กลับมาพักผ่อนที่บ้านของน้องชาย ซึ่งเป็นนักร้องเพลงร็อคชื่อดัง (คือประมาณว่า บ้านนี้ดังทั้งตระกูล น้องอีกคนก็เป็นนักร้อง) เลยทำให้เขาได้มีโอกาสได้เจอกับเจซีย์ สาวเสิร์ฟในงานที่แต่งกายวับ ๆ แวม ๆ ซึ่งทำให้เขามองว่า เธอก็คงเป็นผู้หญิงง่าย ๆ อีกคน

เรื่องค่อนข้างชัดเจนกับรสนิยมทางเพศที่ชอบ "มอง" ของดอมินิค การชอบมองแบบไม่เข้าไปมีส่วนร่วมของเขาบอกใบ้คนอ่านถึงอดีตอันมีปัญหาของเขา และนี่ก็ถือเป็นส่วนสำคัญของพล็อตเรื่อง เพราะหลังจากที่ดอม และเจซีย์ถูกจับด้วยข้อหามีกัญชาในครอบครอง (คือดอมขับรถไปส่งเจซีย์กลับบ้าน เพราะเพื่อนของเจซีย์ที่เดินทางมาด้วยกันถูกน้องชายของเขาพอไปกก เขาเลยต้องไปส่งเธอกลับบ้าน) กัญชาที่ทั้งเจซีย์ และดอมไม่ยอมรับว่าเป็นของตัวเอง แต่นั่นไม่สำคัญ เพราะผู้พิพาษาลงโทษพวกเขาทั้งคู่ให้ไปทำงานรับใช้สังคม

แน่ล่ะนั่นทำให้ทั้งคู่มีโอกาสใกล้ชิด และรู้จักกันมากขึ้น

เราไม่ค่อยชอบพระเอกช่วงต้น ๆ เรื่องนะคะ คือเราไม่ชอบตัวละครที่อ้างความทุกข์ของตัวเองในอดีตมาเป็นข้ออ้างในการมองคนอื่นในแง่ร้าย และภาพที่ดอมมองเจซีย์ตอนแรกไม่ดีเอาเสียเลย มันเหมือนเขาเหมาหมดว่าผู้หญิงทุกคนจะต้องคาดหวังอะไรจากเขา (เราว่า หลงตัวเองมากไปไหม) นอกจากนี้การที่เขาทิ้งให้เจซีย์ต้องรับผิดชอบในคดีการมีกัญชาในครอบครองตามลำพัง เราว่า ไม่เป็นพระเอกเอาเลย เพราะเราคิดว่า ยังไงกัญชาก็ต้องเป็นของเขา หรือน้องชายของเขานั่นแหละ จนตอนท้ายมาเฉลยถึงได้รู้ว่า ผียัดมา (เป็นผีจริง ๆ นะคะ ไปอ่านดูกันเองแล้วกัน) ก็เลยถึงได้เข้าใจเขามากขึ้นหน่อย

เราว่าช่วงกลางเรื่อง เมื่อดอม และเจซีย์ได้รู้จักกันเป็นส่วนที่เรื่องไหลลื่นและอ่านสนุกขึ้น ถือว่าเป็นช่วงที่เราชอบเรื่องนี้ที่สุดนะคะ จนไปถึงตอนท้ายเรื่อง เมื่อมีการเปิดเผยถึงอดีตอันทุกข์ทนของดอม เราก็ออกอาการแบบว่า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับอาการชอบมองคนอื่นมีเซ็กส์ของเขาวะ เราโยงไม่เข้าน่ะค่ะ คือบอกตามตรงว่า คิดว่า ว่าคนแต่งอยากจะช็อคคนอ่าน ก็เลยเขียนให้ดอมมีอาการแบบนี้ แต่มันไม่ได้มีคำอธิบายมากพอ เราว่า บอกว่า เป็นรสนิยมทางเพศไปเลยจะดีกว่าไหม

โดยรวมเราว่า เล่มนี้โอเคนะคะ เป็นแนว New Adult ที่อ่านได้ แม้จะต้องทำใจกับเรื่องไม่ค่อยสมจริงบางอย่าง (โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสถานะความเป็นดาราของดอม ที่อ่านยังไงก็ดูไม่น่าจะเป็นดาราดัง คือดาราดังไม่น่าจะใช้ชีวิตแบบดอมได้) แต่เพราะเป็นเล่มที่สามแล้วของนักเขียนคนนี้ที่เราอ่าน สำหรับเราก็เลยหมดเวลาให้กับนักเขียนคนนี้ไปแล้วน่ะค่ะ (ยกเว้นจะมีใครมาแนะนำเรื่องอื่น ๆ สนุก ๆ ของเธอให้เรานะคะ)



View all my reviews

Review: Midnight Vengeance


Midnight Vengeance
Midnight Vengeance by Lisa Marie Rice

My rating: 3 of 5 stars



เป็นหนังสือเล่มที่สี่ในชุด Midnight ของลิซา มารี ไรซ์ และสำหรับแฟนของหนังสือชุดนี้ก็ไม่น่าผิดหวังนะคะ เพราะเรื่องเป็นไปตามสูตรของชุดเลยก็ว่าได้ ลอเรน แดร์ ซึ่งใช้ชีวิตตลอดเวลาสองปีหลบซ่อนอยู่ในเงามืด หลบหนีการตามล่าของศัตรู แต่เพราะความเผลอในคืนวันนึง ในงานแสดงศิลปะที่ลอเรนเป็นผู้สร้างสรร (แต่ไม่อาจเปิดเผยได้ เพราะกลัวจะเป็นที่สนใจเกินไป จึงออกแสดงในชื่อของคนอื่นแทน) เธอพลาดทำให้ตัวเองกลายเป็นจุดสนใจ และเธอก็รู้ว่า ถึงเวลาที่จะต้องหนีอีกครั้ง

แต่ก่อนที่จะหนี ลอเรนตัดสินใช้เวลาในค่ำคืนนั้นกับยาคโค หนึ่งในคนที่ทำงานให้กับบริษัท ASI ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องการรักษาความปลอดภัย (ที่เจ้าของบริษัทเป็นสามีของเพื่อนคนนึงของลอเรน) เธอคิดว่า จะหนีไปเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ภายใต้ตัวตนใหม่ในวันรุ่งขึ้น แต่ยาคโคไม่ยอมให้เธอจากไปโดยง่าย เขาอ่านแผนการของเธอออก และสามารถทำให้ลอเรนยอมเปิดปากเล่าเรื่องราวในอดีต ถึงชีวิตก่อนที่จะต้องหลบหนีได้ และแน่นอนว่า ตามสูตรของลิซา มารี ไรซ์ เขาเสนอตัวเองเป็นผู้คุ้มครองเธอ

หนังสือเรื่องนี้เป็นไปตามสูตรสำเร็จของนักเขียนคนนี้เลยนะคะ ในแง่หนึ่งก็ถือว่า อ่านง่ายสนุกพอควร คือถ้าไม่คาดหวังอะไรมาก ตัวละครประพฤติตามคาแร็คเตอร์ที่ถูกวางมา นางเอกอ่อนหวาน มีปัญหาถูกคุกคาม ต้องการคนช่วยเหลือ พระเอกร่างใหญ่ ใจดี และรักจริง พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อนางเอก ในแง่นี้ทั้งลอเรนและยาคโคก็ทำหน้าที่ของตัวเอง แต่ระหว่างที่อ่านเราบอกตามตรงว่า เรารู้สึกอยากได้มากกว่านี้ค่ะ เรานึกอยากให้ตัวละครมีจุดโดดเด่นเป็นของตัวเอง (คือต้องบอกว่า หลังจากอ่านเล่มห้าในชุด Midnight Promise เราเข้าใจตัวเองเลยว่า ต้องการอะไรที่มากกว่านี้ คือเราอยากได้ตัวละครที่น่าจดจำ มีจุดเด่น และแม้จะพล็อตเหมือนกัน คาแร็คเตอร์ของนางเอกในเรื่อง MP ทำให้เราชอบเล่มนั้นมากกว่าเล่มนี้เยอะเลย)

ดังนั้นเล่มนี้จึงเหมือนหนังสืออ่านฆ่าเวลา คือสนุกระหว่างที่อ่านนะคะ แต่ไม่ได้อยู่ในระดับของงานแบบที่ลิซา มารี ไรซ์สามารถเขียนได้ คือเราคาดหวังมากกว่านี้จากงานของเธอน่ะค่ะ



View all my reviews

Review: Midnight Promises


Midnight Promises
Midnight Promises by Lisa Marie Rice

My rating: 4 of 5 stars



ARC has been graciously provided by the author, which I thank her very much since I am a big fan.

I love the Midnight series. I think Midnight Man (the 1st book in the series) is the reason I totally buy into the ebook crown. I may not be an early ebook adopted if not for the greatness of Midnight Man. That book convinces me that ebook is the same (or much better than) as printed book.

Midnight Promises is the fifth (single title) book in the series. Both Metal and Felicity are the characters in the previous book (Midnight Vengeance) but the readers do not need to read that book except that if your read Midnight Vengeance, you would feel that you HAVE TO read this book.

The theme in this story still is in line with the whole series, the heroine in jeopardy and the hero to the rescue. Felicity Ward is a genius computer nerd who lived alone for all her life. With no relative, and no friend, it is very obvious that she is very lonely. She arrived at Portland Airport with a hope to connect with Lauren, a virtual friend whom she helps to get a new life but never meet before in person. But someone is waiting for her at the airport and try to abduct her. She escape but is hurt in the process. Lauren is the only one she can trust but when Felicity finds Lauren, she also find Metal aka Sean O'Brien and with him she finds her protector.

As mentioned the plot is nothing new but what make me really love this book is the characters especially Felicity. I totally believe in what Ms. Rice describe her to be. An intelligent woman with of-the-chart IQ who may not quite sophisticate about the world. A lot of books fail to convince me to believe the intelligent of a characters but not this one. The trick Felicity used to escape the bad guy at the airport are totally believable and very into her already built-in character that the author described. I may not know much about computer but I think I know enough (to survive) and I believe the story. And I love Felicity as a person. I like the combination of naive and cleverness.

As for the romance, it is Lisa Marie Rice signature. InstantLove. And since I expect it to happen, I am OK with it. Of course I already fall in love with (the character of) Felicity so I do not disappoint that Metal also fall for her. She is the type of person people can feel the love for.

The only "let down" thing I have with this book is the reason why the bad guy hunted Felicity. It may be the fault of the movie "The Peacemaker". I find that portable nuclear is the old concept. It is not exciting at all. And I am kind of think that it is already manufacturing by someone else already. So I do not find that it should be the big secret of the decade.

All in all, I love this story. It has everything I expected in a Lisa Marie Rice's story.



View all my reviews

Friday, December 12, 2014

Review: The Game and the Governess


The Game and the Governess
The Game and the Governess by Kate Noble

My rating: 3 of 5 stars



เป็นงานของเคท โนเบิ้ลเล่มแรกที่เราอ่าน และจะไม่ใช่เล่มสุดท้ายแน่นอน เรื่องนี้อาจจะไม่ได้ถึงกับโดนใจ ทำให้เราชอบมาก แต่การเขียนน่าสนใจ การเล่าเรื่องมีมิติ ตัวละครที่เป็นมากกว่าที่ตาเห็น เราชอบในสิ่งที่ได้อ่านไปค่ะ

เนด แอชบี้เชื่อมันในโชคของตัวเองเป็นอย่างมาก เขารู้ว่าตัวเองเป็นคนโชคดี จะมีสักกี่คนที่เป็นทายาทอันดับท้าย ๆ ของบรรดาศักดิ์ท่านเอิร์ล แต่ทุกคนตายหมด จนกระทั่งถึงเขา นั่นทำให้เขาถูกพาตัวออกจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ไร้ความเจริญ ไปสู่ความมั่งคั่งของบรรดาศักดิ์ ได้รับการเลี้ยงดู การศึกษาเป็นอย่างดี กระทั่งไปรบในสงครามที่หลายคนเสียชีวิต เนดก็รอดตายอย่างปาฎิหารย์ เขาเชื่อมั่นในโชคของตัวเองมากพอที่จะรับการท้าพนันของจอห์น อดีตเพื่อนสนิท อดีตผู้บังคับบัญชาสมัยที่ออกรบ แต่ตอนนี้ทำงานเป็นเลขานุการส่วนตัว

การท้าที่พนันว่า ถ้าเนดสลับตัวตนกันกับจอห์น ไม่บอกให้ใครรู้ว่า เนดคือท่านเอิร์ล และจอห์นเป็นแค่เลขานุการ เนดจะทำให้หญิงสาวในชนบทอันห่างไกลตกหลุมรักเนดผู้เป็นแค่เลขาได้

พล็อตนี้ไม่ได้ถูกใช้เป็นครั้งแรก ไม่ได้มีอะไรใหม่ เราคิดว่า เคยดูในหนังไทยสมัยก่อนหลายครั้งนะคะ นั่นเป็นเหตุให้เราไม่ได้หยิบเล่มนี้มาอ่านสักที จนกระทั่งเราได้อ่านบทแรก ซึ่งเล่าถึงนางเอกของเรื่อง และมันทำให้เราติดพันอ่านต่อ

จุดเด่นของเรื่องนี้ก็คือ ไม่มีอะไรเป็นอย่างที่ตาเห็น

จากพล็อตเราคิดว่า จะเป็นเรื่องแนวโรแมนติกคอเมดี้ ซึ่งมันก็เป็น แต่มีอะไรซ่อนอยู่มากมาย ในคาแร็คเตอร์เนด มันลึกซึ้ง หลายจุดทำให้เรานึกถึงอินส์วูดจากเรื่อง The Last Hellion แต่เราคิดว่า เนดมีความลึกมากกว่านั้น (ลึกขนาดตัวเนดเองก็ยังไม่รู้ว่า ตัวเองมี) เรื่องนี้ถ่ายทอดความโดดเดี่ยว การแสวงหาความรัก และการกลบเกลื่อนความรู้สึกทั้งปวงภายใต้เสียงหัวเราะ และการมองชีวิตด้านบวกที่มากเกินไป

ในแง่นึงเรื่องนี้เป็นการเล่าเรื่องราวของเนด แต่ฟีบี้นางเอกของเรื่องก็มีความน่าสนใจ (แต่ปฏิเสธไม่ได้นะคะว่า เรารู้สึกว่า เธอเป็นตัวประกอบอยู่ไม่น้อย) ชีวิตของเธอตกต่ำจากลูกสาวของผู้ดีมีอันจะกิน กลายมาทำงานเป็นครูพี่เลี้ยง ส่วนหนึ่งก็เพราะการกระทำที่ไม่เอาใจใส่ของเนด ซึ่งเธอไม่รู้ว่า เขาคือชายคนนั้น (เนื่องจากการสลับตัวกัน) เธอเป็นหญิงสาวที่สมอง และเป็นเหตุเป็นผล เธอรู้ว่า ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเนด เพราะแค่การที่เขาเป็นเลขาของชายที่ทำลายชีวิตเธอก็มากพอแล้ว ที่เธอจะหลีกเลี่ยงเขา แต่ก็ยากที่จะทำได้ในเมื่อเขาก็ตื้อเธอเหลือเกิน

เรื่องนี้น่ารัก พร้อมกับมีความลึกในแง่ของคาแร็คเตอร์ ชอบค่ะ



View all my reviews