Tuesday, January 20, 2009

Maximum Exposure // Alison Kent

อลิสัน เค้นท์เคยเป็นนักเขียนที่แม็กซ์คลั่งไคล้เอามาก ๆ (โปรดสังเกตคำว่า "เคย" นะคะ) มีอยู่ช่วงนึงในชีวิตที่ไม่ว่าแม็กซ์จะอ่านอะไรที่เธอเขียน ก็จะออกมาสนุกสุดสุดทุกเล่ม โดยเฉพาะเรื่อง Indiscretion ที่เอาไว้ฤกษ์งามยามดีวันไหนจะเอามารีวิวให้อ่านกันสักรอบ เล่มนี้มีองค์ประกอบของพล็อตแนวที่เราชอบมาก ๆ หลายอย่าง

แต่วันเวลาเหล่านั้นผ่านไปแล้วนะคะ เราเริ่มรู้สึกว่างานของเธอ ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าที่ควร (เราอ่านบราว่าสองเล่มหลังสุดของเธอไม่จบสักกะเล่ม) แต่พอแม็กซ์ได้เล่มนี้มาอยู่ในมือ หลังจากอ่านพล็อตด้านหลังเล่ม ก็ลัดคิวหยิบขึ้นมาอ่านทันควัน

Maximum Exposure ของอลิสัน เค้นท์

เราชอบหน้าปกของหนังสือเล่มนี้นะคะ เซ็กซี่ดีอ่ะ เรื่องนี้เป็นหนังสือเล่มที่สิบในชุด SG-5 ซึ่งบ่งบอกถึงความนิยมของหนังสือชุดนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะอะไรน่ะหรือคะ

นั่นเพราะชื่อชุด SG-5 ย่อมาจาก The Smithson Group 5 หมายถึงสายลับห้าคนที่ทำงานให้กับองค์กรสายลับที่ชื่อว่าเดอะ สมิธสัน กรุ๊ป หนังสือห้าเล่มแรกในชุดเล่าเรื่องของสายลับทั้งห้าคนนี้ แต่เล่มนี้เป็นเล่มที่สิบ นั่นเพราะว่าชุดนี้มันฮิตมากไงคะ คนแต่งก็เลยสั่งให้หัวหน้าหน่วยงานดังกล่าวสรรหาชายหนุ่มหน้าตาดีมาเข้า สังกัดเพิ่มเติม เพื่อที่จะได้เขียนเล่มต่อไปในชุดได้ คำอธิบายตัวสายลับในกลุ่มนี้ตอนที่เริ่มต้นชุดใหม่ ๆ คือ Bad boys, Good spies, Unforgettable Lovers ซึ่งแม็กซ์ว่ามันน่ารักดีนะคะ และอธิบายเนื้อเรื่องได้พอสมควรเลยล่ะ

แต่การเพิ่มตัวละครเข้าในชุดที่วางแผนเอาไว้แค่ห้าเล่ม จนมันกลายเป็นสิบเล่ม (และจะเป็นสิบสองเล่มเมื่อสิ้นปีหน้า) นี่เองกระมั่งที่เป็นจุดเริ่มต้นของความไม่สนุกของหนังสือชุดนี้

หลายเล่มโดยเฉพาะเล่มหลัง ๆ แทนที่จะเป็นการเล่าเรื่องราวการออกไปทำภารกิจของเหล่าสายลับ กลับเป็นการใช้เหตุบังเอิญมาเล่าเรื่อง ตัวอย่างนะคะถ้าไม่เห็นภาพกัน พระเอกซึ่งเป็นสายลับออกไปปฏิบัติภารกิจสอดแนมผู้ร้าย ขณะกำลังเดินมาทานอาหารเช้าในร้านอาหาร ก็ดันไปเจอกับผู้ร้ายที่จับตัวคนในร้านอาหารเป็นตัวประกัน และผู้ร้ายดวงซวย (ที่ซวยเพราะดันไปยุ่งกับพระเอกที่เป็นซุปเปอร์ฮีโร่เข้า) ก็สั่งให้พระเอกและผู้หญิงคนนึงในร้านนั้นออกไปทำงานบางอย่าง ไม่อย่างนั้นจะฆ่าคนในร้านอาหาร (เรื่อง Deep Breath) หรือพระเอกที่ถูกผู้ร้ายทำร้ายปางตาย แล้วนางเอกไปช่วยชีวิตไว้ แต่ดันเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง และเรื่องเลยหันเหไปทางนั้น โดยไม่พูดถึงคนร้ายที่ทำร้ายพระเอกเลยจนจบเรื่อง (Larger than life)

มันอาจเป็นความผิดของแม็กซ์เองแหละที่คาดหวังว่าจะได้อ่านเรื่องราวแนว สายลับ แต่ดันไปเจอกับพล็อตอย่างนี้เข้า ไม่ใช่ว่ามันเลวร้ายมากนะคะ เพียงแต่ผิดคาดไปหน่อย

และเช่นกัน เล่มนี้ก็คงนำความผิดคาดมาให้กับหลายคนที่อ่าน เพราะแม้จะเป็นส่วนหนึ่งในชุด SG-5 แต่พระเอกของเราก็ไม่ใช่สายลับที่ทำงานให้หน่วยงานนั้น เขาเป็นน้องชายของภรรยาของหนึ่งในสายลับ (เรื่อง Deep Breath) และทั้งเรื่องก็แทบจะไม่กล่าวถึงหน่วย SG-5 เลยด้วยซ้ำ หนำซ้ำคนที่คาดหวังว่าจะได้อ่านเรื่องแนวโรแมนติกสืบสวนก็ทำใจหน่อยแล้วกัน เพราะมันก็ไม่ใช่อีกแหละ

มันเป็นเรื่องรักแนวปัจจุบันที่ว่าไปก็สนุกในตัวของมันเอง เพียงแต่การโฆษณาอาจทำให้คนอ่านที่ "ผิดคาด" รู้สึกเซ็งนิดหน่อย

ฟิน แม็คเคลนเป็นนักสืบเอกชนที่เดินทางมาทำงานในไมอามี่ เพื่อสืบเรื่องราวส่วนตัวของผู้จัดการร้านขายของแนวอาร์ต แต่การซุ่มมองความเคลื่อนไหวของคนในร้านแห่งนี้กลับเป็นที่สังเกตของโอลิ เวีย แฮมมอนด์เจ้าของร้านแห่งนั้นได้ เธอเผชิญหน้ากับเขา และหลังจากเขาบอกว่า ไม่ได้จับตามองร้านของเธอเพื่อสืบความลับ เธอก็ยื่นข้อเสมอแปลกมากให้เขา

ด้วยความที่เข้าใจว่าฟินเ็ป็นช่างภาพ โอลิเวียต้องการให้เขาถ่ายรูปของเธอ และไม่ใช่เธอเท่านั้นที่ให้เขาถ่าย เธออยากให้เขาถ่ายรูปปฏิกิริยาของผู้คนที่มองเห็นเธอ นั่นเพราะโอลิเวียมีนิสัยบางอย่างที่... แปลก

เธอชอบทำพฤติกรรมที่ดาราไทยหลายคนนิยมทำ นั่นคือทำนมหก หรืออะไรก็ตามที่ควรเป็นของลับออกโชว์ในที่สาธารณะ ไม่ถึงขนาดแก้ผ้าเดินออกตามท้องถนนหรอกนะคะ แต่ใส่เสื้อผ้าที่วับ ๆ แวม ๆ เพื่อนสนิทของเธอซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายงานศิลปะรบเร้าเธอหลายครั้งให้ภาพ ถ่ายเหล่านี้มาโชว์ในห้องภาพของเขาเสียที และเมื่อเธอได้เจอกับฟิน โอลิเวียก็คิดว่านี่เ็ป็นโอกาสอันดี

ความสัมพันธ์ของทั้งสองดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และร้อนแรง เราชอบการเขียนเรื่องฮ็อต ๆ และล่อแหลมของอลิสัน เค้นท์นะคะ เราว่าเธอเขียนเรื่องที่ทำให้ตัวละครดูเซ็กซี่ได้ดีเหลือเกิน พฤติกรรมของโอลิเวียไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวังให้กับนางเอกในนิยายโรแมนซ์ของ เราเป็น แต่คนแต่งก็ทำออกมาให้ดูมีคลาส ไม่ใช่เป็นผู้หญิงชั้นต่ำเหมือนที่เราคิดกับดาราไทยที่ทำอย่างเดียวกันเป็น ส่วนใหญ่ ที่สำคัญมันฮ็อตเอามาก ๆ (ไม่ได้ฮ็อตเพราะฉากเซ็กส์หรอกนะคะ แต่ฮ็อตเพราะการบรรยายฉากมันเห็นควันเลยแหละ)

เราชอบเรื่องราวระหว่างโอลิเวียและฟินมากค่ะ ซึ่งถ้าคนแต่งดำเนินเรื่องไปในทิศทางนี้ นั่นคือเป็นเรื่องรักแนวปัจจุบันของชีวิตคนเมือง (ในสังคมตะวันตก) เราคงชอบเล่มนี้มากกว่านี้ ปัญหาก็คือ ตัวพระนางกลับต้องแ่บ่งเวลาในเรื่องให้กับตัวละครรอง และพล็อตสืบสวนที่ห่วยแตก

นั่นเพราะการสืบสวนคดีเกี่ยวกับยาเสพติดในเรื่อง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวเอกเลย พระเอกไม่ใช่สายลับ นางเอกไม่เกี่ยวข้องกับผู้ร้าย มันเป็นพล็อตที่แยกกันต่างหากอย่างสิ้นเชิง การอ่านเรื่องนี้เหมือนการอ่านหนังสือสองเล่มในเวลาเดียวกัน ซึ่งมันทำให้อารมณ์สะดุดขาดช่วงตลอด เรากำลังอินกับฟินและโอลิเวีย ก็ต้องปรับอารมณ์มาอ่านเรื่องตัวละครรองที่เป็นตำรวจหน่วยปราบปรามยาเสพติด ที่ปลอมตัวมาสืบคดีค้ายา

นี่เป็นจุดด้อยที่สุดของเรื่อง โอเคนะเรายอมรับว่าเราชอบตัวละครรองทั้งสอง ตำรวจที่ปลอมตัวมาสืบคดี และแสดงตนว่าเป็นเกย์ กับหญิงสาวที่ดูออกว่าเขาไม่ใช่เกย์ และพยายามยั่วยวนเขาจนตบะแตก เรื่องราวของทั้งสองน่าจะสนุกนะคะ ถ้าพวกเขามีเล่มเป็นของตัวเอง ไม่ใช่มาแบ่งพื้นที่กับตัวละครหลัก จนทำให้เรื่องถูกดึงไปในสองทิศทางที่แตกต่างกันอย่างมาก

เราแทบไม่เคยอ่านหนังสือที่แบ่งแยกกันมากขนาดนี้เลยนะคะ มันเป็นวิธีการเล่าเรื่องที่ประหลาด เพราะถ้าสุดท้ายแล้ว ตัวละครทั้งหมดมาบรรจบกันได้ ชนิดที่พล็อตวางมาไว้แต่แรก เหมือนอย่างทีหนังเรื่อง ID 4 ทำได้ เราคงจะโอเค แต่การบรรจบกันของพล็อตกับไม่สนิท และดูฝืนเหมือนไม่มีการวางแผน จึงทำให้นี่เป็นปัญหาใหญ่ของเราในการอ่าน

คงต้องบอกว่า สำหรับคนที่ต้องการอ่านเรื่องรักแนว Urban ของคนในสังคมตะวันตก เรื่องราวของฟินและโอลิเวียเป็นตัวแทนได้ดีค่ะ เราชอบนะ แต่เราไม่ชอบการเอาตัวละครรองมาเบียดบังพื้นที่ของพวกเขา คะแนนก็เลยอยู่ที่ 60

No comments: