หนังสือเล่มนี้เป็นอีกเรื่องนึงที่แม็กซ์อยากอ่านมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากอ่านเรื่อง A Mermaid's Kiss จบไป เพราะแม็กซ์คิดว่า คาแร็คเตอร์ของนางเอกเล่มนี้ (ซึ่งเป็นตัวละครรองของเล่มก่อน) อย่างไมน่า เป็นคนที่น่าสนใจมาก ๆ ทำให้เราอยากรู้เรื่องราวของเธอ
ว่าอะไรอยู่ภายใต้ความคิดของแม่มดทะเล ลูกครึ่งนางเงือกและปีศาจ (ซึ่งเป็นกลุ่มที่เป็นผู้ร้ายใหญ่ในเรื่องชุดนี้) ผู้หญิงที่ถูกทุกคนรังเกียจ เพราะชาติตระกูล (ไมน่าสืบเืชื้อสายมาจากแม่มดที่สาปแอเรียน --- ถ้าเคยดู The Little Mermaid ก็คงพอจะนึกออก) และเลือดของปีศาจที่แฝงอยู่ในกายของเธอ
แต่รู้อะไรไหมคะ พออ่านเล่มนี้จบลง กลับเป็นเดวิดที่จับใจของเราไว้ได้ทั้งหมด
A Witch's Beauty ของโจอี้ ดับเบิ้ลยู ฮิลล์
หนังสือเล่มนี้เปิดเรื่องเกือบจะต่อเนื่องกับเรื่องราวใน A Mermaid's Kiss แต่กระนั้นเราก็คิดว่า ไม่จำเป็นถึงขนาดต้องอ่านเรียงลำดับกันจึงจะรู้เรื่องหรอกนะคะ เพียงแต่คุณอาจจะพลาดการได้พบกันครั้งแรกระหว่างไมน่า และเดวิดไปเท่านั้นเอง (ทั้งสองพบกันเป็นครั้งแรกใน AMK)
ไมน่าซึ่งเป็นลูกครึ่งระหว่างนางเงือกและดาร์ควัน (หรือปีศาจซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตนอกโลก และมีประเด็นต้องชำระแค้นกับเทพบุตรที่ทำหน้าที่ปกป้องมนุษย์ -- เราไม่เล่านะคะว่าเพราะอะไร มันเป็นสปอยล์ของเล่มแรก) เลือดของปีศาจในกายที่กระหายความรุนแรง ความเจ็บปวด และการทำลายล้าง ทำให้ไมน่าไม่อาจเป็นที่ไว้วางใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศึกใหญ่ระหว่างเทพบุตรจากสวรรค์กับปีศาจ ไมน่าได้แสดงพลังอันเหลือเชื่อ จนทำให้เธอกลายเป็นที่ต้องการตัวทั้งของปีศาจ และสวรรค์
แต่ไมน่ายังไม่เลือกข้าง เธอต้องการเพียงแค่อยู่ตามลำพังในถ้ำใต้น้ำของเธอเท่านั้นเอง แต่นั่นไม่ใช่ทางเลือกที่ใครสามารถมอบให้เธอได้ พลังของเธอยิ่งใหญ่เกินไป
โจนาห์ (พระเอกเล่มแรก) ซึ่งเป็นแม่ทัพแห่งกองทัพสวรรค์ ส่งเทพบุตรลูกน้องของเขาหลายคนมาคุ้มครองดูแลไมน่า แต่บ้างก็ตาย บ้างก็แสดงอาการรังเกียจเธออย่างชัดเจน (ด้วยเลือดปีศาจที่แฝงในกาย) มีเพียงเดวิด เทพบุตรวัยละอ่อน (อายุแค่สามสิบปี ในขณะที่เทพบุตรคนอื่นอายุนับพันปี) ที่เสนอตัวเข้ามาขอเป็นคนคุ้มครองไมน่าเอง แต่เพราะโจนาห์รู้จักเดวิดที่เปรียบเสมือนบุตรชายของเขาเป็นอย่างดี โจนาห์จึงลังเล เพราะเขาไม่ต้องการให้เดวิดอยู่ในอันตราย และการอยู่กับไมน่า มันเกือบจะแน่นอนว่า อันตรายจะต้องมาหา ไม่ว่าจะจากน้ำมือของปีศาจที่ต้องการตัวเธอ หรืออาจเป็นตัวไมน่าเอง ที่อาจจะเลือกข้างปีศาจ และหันมาทำร้ายเดวิด
แต่โจนาห์ก็รู้ดีอีกเช่นกันว่า เขาไม่อาจห้ามเดวิดได้
เทพบุตรจะรักเพียงครั้งเดียว และนั่นจะเป็นความรักตลอดไป สำหรับเดวิดแล้ว ด้วยวัยเพียงสามสิบปี เขาเจอ "รัก" ของเขา เมื่อเขาได้พบไมน่า และไม่มีอะไรสามารถเปลี่ยนแปลงรักนั้นได้
แม็กซ์บอกอย่างไม่อายเลยนะคะว่า เราเริ่มร้องไห้ตั้งแต่อ่านไปได้แค่ร้อยกว่าหน้า ไม่ใช่เรื่องมันเศร้ารันทดอะไรหรอกนะคะ (แม็กซ์ไม่ค่อยร้องเพราะความเศร้า) แต่เพราะอารมณ์ในเรื่องมันท่วมท้น จนเราไม่รู้ว่าจะแสดงออกมายังไง นอกจากน้ำตาที่ไหลเอา จนหายใจไม่ออก
ตลอดชีวิตไมน่าอยู่ตามลำพัง เธอไม่เคยคิดถึงใคร เพราะครั้งเดียวที่เธอคิดถึงคนอื่น และช่วยเหลือแอนนา (นางเอกเล่มแรก) ด้วยการแก้คำสาปที่ติดตามตัวแอนนามาตั้งแต่เด็ก ไมน่าถูกเข้าใจผิด และลงโทษด้วยการเอาไปทิ้งก้นทะเล และการลงโทษนั้นทำให้ไมน่ามีแผลเป็นร้ายแรงที่ซีกหนึ่งของร่างกาย แผลเป็นที่ทำให้เธอดูเหมือนแม่มดใจร้ายในเทพนิยาย แผลเป็นที่ไมน่ารู้สึกว่าสะท้อนความเป็นตัวเธอเองได้มากกว่า ความงามที่อยู่อีกซีกนึงของร่างกายเธอด้วยซ้ำ
ตลอดเวลาไมน่าต้องต่อสู้กับแรงกระตุ้นของเลือดปีศาจในกาย แรงกระตุ้นที่เร่งเร้าเธอให้กลายเป็นปีศาจเต็มตัว แต่ไมน่าไม่เคยยอมแพ้แต่เสียงเรียกร้องนั้น แม้ว่าทุกอย่างในชีวิตจะพยายามผลักเธอให้ไปในทางนั้น ไมน่าไม่แคร์ต่อโลกที่ทำร้ายอย่างแสนสาหัส ชาวเงือกรังเกียจเธอ เหล่าเทพบุตรบนสวรรค์ระแวงเธอ โลกใบนี้ไม่เคยให้อะไรกับเธอเลย จนกระทั่งเดวิด
แม็กซ์เคยคิดว่าเดวิดเป็นเทพบุตรวัยละอ่อน ใสซื่อ และน่ารัก คิดว่าหนังสือเล่มนี้จะออกแนวผู้หญิงเป็นใหญ่หน่อย ๆ เพราะบุคลิกของไมน่าดูข่มเดวิดค่อนข้างมาก แต่ในเล่มนี้ เราได้รู้จักกับตัวตนที่แท้จริงของเดวิด และรู้สึกว่า คนเขียนหาคนที่เหมาะสมที่สุดแล้วให้กับไมน่า (แม้มันจะไม่ใช่เรื่องราวอย่างที่เราคิดเลยก็ตาม ซึ่งเราคิดว่าเรื่องที่เขียนออกมา ดีกว่าสิ่งที่เราคาดหวังเอาไว้ร้อยเท่า)
เทพบุตรส่วนใหญ่ที่รับใช้ "เลดี้" (ซึ่งเป็นเสมือนพระเจ้าในเรื่องนี้) เป็นเทพบุตรที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยมือของเลดี้เอง แต่เดวิดคือดวงวิญญาณของมนุษย์โลกที่ถูกเรียกให้มาเป็นเทพบุตร ความเป็นมนุษย์ที่ยังหลงเหลือในตัวเขา ทำให้เขาเข้าใจไมน่า อย่างที่เทพบุตรแต่กำเนิดไม่เคยเข้าใจ เขาเข้าใจความมืดที่เกาะกุมจิตวิญญาณ เพราะเขาเองก็มีมันอยู่เช่นกัน
คอนเซ็ปต์ในเรื่องนี้ ไม่ใช่เป็นคนดีแล้วได้ขึ้นสวรรค์ กลายเป็นเทพบุตรหรอกนะคะ เพราะการเป็นเทพบุตรไม่ใช่ผลตอบแทนการทำความดี (เทพบุตรต้องต่อสู้กับศัตรูของเลดี้) ดังนั้นการที่เดวิดซึ่งฆ่าตัวตายในวัยเพียงสิบสี่ปี ถูกเรียกมายังสวรรค์จึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในเล่มนี้
หลายคนไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงเป็นเด็กหนุ่มซึ่งมีความโกรธและเกลียดอยู่เต็มจิตวิญญาณอย่างเดวิด ถึงถูกเรียกตัวขึ้นมา ทำไมไม่ปล่อยเขาไปเกิดใหม่ และระบายความเจ็บช้ำในดวงใจ (ที่มากขนาดทำให้เขาฆ่าตัวตายตอนเป็นมนุษย์) แต่ไม่ใครกล้าตั้งคำถามการกระทำของเลดี้ เมื่อขึ้นมาถึงสวรรค์ ด้วยวัยเพียงเล็กน้อย เดวิดกลายเป็นหนึ่งในนักรบที่โดดเด่นแห่งกองทัพ และกลายเป็นหนึ่งในผู้นำกองพลภายตั้งกองทัพของโจนาห์
เรื่องราวของเดวิด ทั้งในเรื่องที่เขาฆ่าตัวตายตอนอายุสิบสี่ และอดีตสมัยที่เขาเป็นมนุษย์ เป็นสิ่งที่แม็กซ์ไม่ได้คาดมาก่อน เราคิดว่า เล่มนี้จะใช้พล็อตชนิดที่พระเอกดีโคตร ๆ จนทำให้นางเอกใจอ่อน ซึ่งว่าไป มันก็เป็นอย่างนั้นนะ แต่มันไม่ได้ตรงไปตรงมาอย่างนั้นเสมอ
ในทางนึง เดวิดผ่านประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่มนุษย์คนนึงจะได้พบเจอ แต่เขายังมีความเชื่อ และศรัทธาในความถูกต้องดีงามเหลืออยู่ และเดวิดก็คือกุญแจในการค้นพบตัวเองของไมน่า
ความต้องการหลักของแม็กซ์ในการอ่านโรแมนซ์ ก็คือ ความเข้ากันได้ของพระนางในเรื่อง และเรื่องนี้ก็สอบผ่านสบาย แม็กซ์เชื่ออย่างหมดใจว่าเดวิดและไมน่าเป็นส่วนประกอบที่เกิดมาเพื่อกัน และไมน่าไม่มีวันเป็นคนอย่างที่เธอเป็นได้ ถ้าขาดเดวิด
สปอยล์ เพราะสุดท้าย แล้ว ไมน่าไม่ได้แคร์ต่อความเป็นไปของมนุษย์โลก ความถูกต้องดีงาม หรือการเป็นข้ารับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า สำหรับไมน่าแล้ว ชีวิตของเธอมีแค่เดวิด และเขาเป็นคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้เธอเลือกข้างเทพบุตร เพราะเดวิดเชื่อในการกระทำของสวรรค์ และปีศาจคือคนที่ทำร้ายเดวิด เหตุผลมันง่าย ๆ แค่นั้นเอง
และก็เป็นไปตามสไตล์ของโจอี้นะคะ ที่ฉากรักร้อนแรงจนสามารถเรียกว่าเป็นอีโรติค โรแมนซ์ได้ แต่เราไม่รู้สึกว่าความอีโรติคมันมาเหนือพล็อตเรื่องเลย เราจึงไม่ได้จัดประเภทให้เป็นอย่างนั้น และขอเตือนไว้หน่อยแล้วกันค่ะ คนที่ขวัญอ่อน อาจมีปัญหาในการอ่านเรื่องนี้นิดนึง ไม่ใช่ว่าฉากเซ็กส์มันพิสดารอะไรหรอกนะคะ เพียงแต่แรงกระตุ้นจากสายเลือดปีศาจในกายของไมน่า ทำให้บางครั้งเธอต้องการ "เลือด" และความเจ็บปวดบ้าง ซึ่งแม็กซ์คิดว่าเขียนได้ดีมาก ๆ แต่อย่างที่เราเคยบอกหลายครั้ง งานของโจอี้ ดับเบิ้ลยู ฮิลล์ไม่ใช่สำหรับทุกคน
แต่เธอใช่มาก ๆ สำหรับแม็กซ์ คะแนนก็สะท้อนความรู้สึกนั้นออกมาที่ 93
No comments:
Post a Comment