This Man by
Jodi Ellen Malpas My rating:
4 of 5 stars ในเช้าวันก่อนวันส่งท้ายปีเก่า เราตื่นขึ้นมาแบบมึน ๆ (เพราะนอนดึก ไม่ได้ไปฉลองอะไรหรอกนะคะ) พร้อมกับความรู้สึกว่า อยากอ่านหนังสือเรื่องนี้อย่างรุนแรง ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นชิ้นอัน แค่อยากอ่าน
ก่อนจะเริ่มอ่าน เราได้ยินคนพูดถึงหนังสือเล่มนี้ (และชุดนี้) เยอะมาก จำได้ว่า ตอนที่ไปงาน RWA ปีที่ผ่านมา (2013) เล่มสุดท้ายในชุดนี้ (เรื่อง This Man Confessed) ขึ้นถึงอันดับหนึ่งของ NYT ซึ่งทำเอาเราตกใจอย่างมาก เพราะรู้นะคะว่า ดัง แต่ไม่คิดว่าจะดังขนาดนั้น
ด้วยความเป็นคนบ้าพรินต์บุ๊ค ก็เลยรอจนพรินต์บุ๊คออกมาครบสามเล่มก่อน สะสมต้นฉบับเอาไว้ กะว่าจะอ่านทีเดียว แต่ก็บอกตามตรงว่า เราไม่คิดนะคะว่า จะอ่านเรื่องชุดนี้ในเร็ววัน เพราะอย่างที่เราบอกย้ำไปหลายครั้ง เรารู้สึกเบื่อหน่ายกับเรื่องสไตล์ฟิฟตี้เชดออฟเกรย์มาก และเล่มนี้ดูยังไงยังไงก็เข้าแนวที่เดินรอยตามสูตรสำเร็จของฟิฟตี้เชด
เริ่มตั้งแต่นางเอกเป็นสาวน้อยไร้เดียงสา พระเอกที่สูงวัยกว่า แต่เจนโลก รวยล้นฟ้า แถมมีความลับดำมืด รสนิยมทางเพศแบบแปลก ๆ นั่นคือสิ่งที่เราคิดว่าเรื่องชุดนี้เป็น ดังนั้นเราจึงไม่คิดค่ะว่า จะเริ่มอ่าน
แต่ในเช้าวันก่อนวันส่งท้ายปีเก่า อะไรบางอย่างก็ดลใจให้เราไปหยิบเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน จากนั้นก็เกิดอาการสติแตกกระเจิงไปเลย เข้าใจอาการที่นางเอกเป็นเกือบทั้งชุด รวมไปถึงคนอ่านหนังสือชุดนี้หลายคนเป็นกัน อาการที่เรียกว่า Central Jesse Cloud Nine หรืออาการคลั่งเจสซี พระเอกของเรื่อง
ก่อนจะเริ่มรีวิว เราคงต้องบอกเลยนะคะว่า หนังสือเล่มนี้ (หรือชุดนี้) ไม่มีอะไรที่เป็นกลาง เราคิดว่า คนที่อ่าน ถ้าไม่ชอบเรื่องนี้ ก็คงจะเกลียดไปเลย สำหรับเราคือกลุ่มที่ชอบค่ะ เรารู้นะคะว่า มีอะไรหลายอย่างที่ไม่ได้เรื่อง ไม่มีเหตุผล งี่เง่า ไร้สาระ เป็นไปไม่ได้ แต่ความสนุกที่เราได้จากการอ่านเรื่องนี้ มันมากพอที่จะกลบทุกอย่าง สำหรับเราเหมือนการได้นั่งดูหนังสัตว์ประหลาดทุนต่ำเกรดบี ที่คนอื่นอาจจะไม่ต้องรสนิยม แต่สำหรับเรา นั่นมีค่าราวกับภาพยนตร์ที่ได้ออสการ์ เราเปรียบเทียบแบบนี้จริง ๆ นะคะ หนังสือชุด This Man คือหนังสัตว์ประหลาดทุนต่ำเกรดบีที่เราคลั่งไคล้หนักหนา
เอวา โอเชย์สาววัยยี่สิบหกปีที่กำลังสนุกกับอิสระในการใช้ชีวิต หลังจากที่เพิ่งเลิกกับแฟนหนุ่มที่คบหากันมาหลายปี เธอเป็นนักออกแบบภายในที่เริ่มประสบความสำเร็จ ผลงานในการตกแต่งอพาทเมนต์สุดหรูกลางในกรุงลอนดอนทำให้ชื่อเสียของเธอเริ่มเป็นที่รู้จัก และนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอถูกเรียกตัวให้ไปทำงานตกแต่งภายในบ้านพักในชนบทที่มีชื่อว่า เดอะแมนเนอร์
สถานที่ที่เอวาเข้าใจว่า เป็นโรงแรมหรูดูความท้าทายที่เอวากำลังต้องการ แต่งานในเดอะแมนเนอร์ไม่ได้ทำให้หัวใจของเธอปั่นป่วนเท่ากับเจ้าของคฤหาสถ์แห่งนี้ ชายผู้มีนามว่า เจสซี วาร์ด หรือชายคนที่เป็น This Man ของเรา
พล็อตเรื่องค่อนข้างตามรอยฟิฟตี้เชดออฟเกรย์นะคะ คือหลังจากได้เจอกันเพียงแค่ครั้งเดียว พระเอกผู้เป็นชายที่ร่ำรวย ประสบความสำเร็จ ก็เกิดอาการคลั่งรักไล่ล่า ไล่ตามนางเอกที่ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ คนนึง แต่สิ่งที่เราชอบในเรื่องชุดนี้ (และอาจจะเป็นสิ่งที่คนอ่านคนอื่นทนไม่ได้) ก็คือคาแร็คเตอร์ของพระเอก ที่บ้าได้ใจ
ไม่มีการเก็บอาการ วางฟอร์ม หรืออะไรทั้งสิ้น เมือเจสซีต้องการเอวา เขาก็ต้องการเอวา และคนทั้งโลกก็รับรู้มัน เราชอบที่เจสซีไม่แคร์สังคม ไม่สนใจอไรทั้งสิ้น ไม่มีอะไรมาขวางกั้นเขากับเอวาได้ ฉากที่พระเอกของเราหลอกล่อนางเอกให้เข้าไปในห้องนอน แล้วทำทีเป็นนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำในสภาพกึ่งเปลือย (เพื่อเร้าใจนางเอก เพราะรู้อยู่ว่า นางเอกก็หลงใหลเขาอยู่ไม่น้อย) บ่งบอกนิสัย (หรือสันดาน) ของพระเอกมาก ด้วยอะไรบางอย่าง เราชอบความ "บ้า" ของพระเอกค่ะ และนี่ทำให้หนังสือเล่มนี้เวิร์คสำหรับเรา
ที่มากไปกว่านั้น เราชอบนางเอก เพราะเธอก็บ้าไม่แพ้กัน เอวาแตกต่างจากนางเอกของเรื่องแนวนี้หลายคนตรงที่เธอไม่ได้ไร้เดียวสาซะทีเดียว เราชอบที่คนแต่งเขียนให้เธอเคยมีความสัมพันธ์มาก่อนกับคนอื่น เธอมีอาชีพที่กำลังก้าวหน้า มีเงินเป็นของตัวเอง อาจจะไม่มากเท่ากับพระเอก แต่เธอไม่ได้อยู่สภาวะตกถังข้าวสาร หรือช่วยตัวเองไม่ได้ แน่นอนว่า การกระทำและการตัดสินใจหลายอย่างของเอวาสร้างคำถามให้กับคนอ่าน วินาทีนึงเธอบอกว่าไม่ต้องการเจสซี แต่แล้วก็วิ่งกลับไปหาเขา แต่สำหรับเราเธอเป็นนางเอกที่เหมาะกับเขาค่ะ เพราะเมื่อพระเอก "บ้า" ขนาดนี้ นางเอกสติดี ๆ คงเอาเขาไม่อยู่
เราอ่านเล่มนี้จบในเวลาอันรวดเร็ว อ่านไปก็กรี๊ดเจสซีไป รู้สึกผิดไปเล็ก ๆ ที่ตัวเองดันไปชอบพระเอกสไตล์แบบนี้ แต่เล่มนี้เป็นหนังสือไม่กี่เล่มนะคะที่เรารู้สึกหลงรูปของพระเอกอย่างจริงจัง รู้สึกว่า คนแต่งถ่ายทอดเสน่ห์ของชายคนที่ชื่อเจสซี วาร์ดได้อย่างชัดเจนเห็นภาพ (และทำให้เข้าใจได้ว่า ทำไมนางเอกถึงได้ไร้สติไปถึงขนาดนั้น)
เรื่องนี้จบแบบค้างคา มาแนวเดียวกับฟิฟตี้เชดค่ะ ที่นางเอกเลือกที่จะเดินออกไปจากชีวิตของพระเอก หลังจากค้นพบความจริงบางอย่างเกี่ยวกับเขา และนั่นหมายความว่า เราต้องหยิบเล่มสองมาอ่านทันที
ท่ามกลางความไร้สาระ คาแร็คเตอร์ที่งี่เง่าไม่มีเหตุผล แต่เป็นหนังสือที่อ่านเพลินที่สุดเล่มนึงสำหรับเรา คะแนนที่ 78
View all my reviews
No comments:
Post a Comment