Thursday, January 22, 2009

Alpha and Omega & Cry Wolf // Patricia Briggs

ปกติแม็กซ์ไม่ใช่คนชอบอ่านเรื่องสั้น เพราะมันสั้นเกินไป และกว่าจะรู้สึกสนุกไปกับเรื่อง มันก็ดันจบลงไปเสียก่อน แต่สำหรับเรื่องนี้ถือเป็นข้อยกเว้นค่ะ นั่นก็เพราะว่า แม็กซ์รู้อยู่แล้วว่า เรื่องสั้นเรื่องนี้มันไม่ได้จบใน 72 หน้า แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของซีรี่ย์ที่น่าติดตามมากที่สุดเรื่องนึง

แพทริเซีย บริกส์เป็นนักเขียนแนวแฟนตาซี ที่แม้จะไม่ได้เขียนโรแมนซ์ แต่เรื่องราวของเธอก็มีองค์ประกอบของโรแมนซ์ชัดเจน แต่ยังไงแม็กซ์ก็ไม่ขอบอกว่าเธอเขียนพารานอมอลโรแมนซ์นะคะ เพราะแม้เรื่องของเธอจะมีหวาน แต่มันไม่เด่น หรือเป็นโฟกัสของเรื่อง

แพทริเซียมีชื่อเสียงดังระเบิดจากการเขียนหนังสือชุดที่เรียกว่า เมอร์ซี่ ธอมป์สัน เรื่องราวของโคโยตี้สาว (ที่ไม่ใช่โคโยตี้อย่างที่คนไทยเรียกขานกันหรอกค่ะ แต่เป็นมนุษย์ที่แปลงร่างเป็นโคโยตี้ได้) ที่แม้จะไม่ได้เก่ง หรือแข็งแรง หรือสวย แต่มีความต้านทานต่อเวทมนตร์ได้ และนั่นทำให้เธอเป็นคนพิเศษ เรื่องราวของเธอออกแนว Urban Fantasy หน่อย ๆ เพราะดำเนินเรื่องผ่านมุมมองของเมอร์ซี่ และยังมีเรื่องรักสามเศร้าเข้ามาเกี่ยวอีก

แต่วันนี้แม็กซ์ไม่ได้พูดถึงเมอร์ซี่ เพราะแม้ชุดนั้นจะดีและน่าติดตาม แต่ก็ไม่มากพอจะทำให้แม็กซ์ชอบได้เท่าชุดนี้

Alpha and Omega

On the Prowl

หนังสือชุดนี้เพิ่งออกมาได้เล่มเดียวค่ะ แต่จุดเล่มต้นของมันอยู่ในหนังสือรวมเรื่องสั้นที่ชื่อ On the prowl โดยเรื่องสั้นที่เปิดตัวหนังสือชุดนี้มีชื่อเดียวกับชุดว่า Alpha and Omega

สำหรับคนที่เคยอ่านชุดเมอร์ซี่ ธอมป์สันแล้ว ก็คงจะพอคุ้นเคยกับพระเอกในเรื่อง นั่นคือชาร์ล คอร์นิค ซึ่งเป็นน้องชายของหนึ่งในผู้ชายที่ตามจีบเมอร์ซี่ (แซมมวล) เพราะหนังสือทั้งสองชุดอยู่ในโลกเดียวกัน เพียงแต่โฟกัสที่ตัวละครต่างกัน รวมทั้งวิธีการเล่าเรื่องก็ต่างกัน เพราะชุดนี้เล่าเรื่องโดยใช้บุคคลที่สาม ไม่ได้มองผ่านสายตาของตัวละครตัวใดตัวหนึ่งเพียงตัวเดียว

แอนนาเป็นมนุษย์หมาป่าในลำดับชั้นต่ำสุด (ที่เรียกกันว่าซับมิสสีฟ) และในตลอดช่วงปีแรกของการโดนเปลี่ยนเป็นหมาป่า แอนนามีชีวิตที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนควรได้พบ เธอไม่ได้ต้องการเป็นหมาป่า แต่ถูกทำร้ายโดยผู้ชายที่เธอออกเดทด้วย และเมื่อลีโอหัวหน้าเผ่ารู้ว่าเธอเป็นซับมิสสีฟ เขาก็ใช้เธอเป็นรางวัลในการส่งมอบให้กับสมาชิกในเผ่าของเขาหลายต่อหลายคน จนกระทั่งอิสซาเบล่า ภรรยาของลีโอยื่นมือมาช่วยเธอไว้ แต่ชีวิตของแอนนาก็เสมือนอยู่ไปวันวัน เธอเป็นพนักงานเสริฟที่ทำงานและส่งเงินให้กับเผ่าหมาป่า จะว่าไปก็เปรียบเสมือนทาสคนนึง

แต่เื่มื่อเธออ่านข่าวและพบเหตุการณ์ฆาตกรรมนักเรียนไฮสคูล เธอรู้ว่าบางสิ่งผิดปกติไป เธอทำในสิ่งที่ไม่มีซับมิสสีฟคนไหนทำได้ เธอโทรศัพท์หามาร์ล็อค (ซึ่งเป็นตำแหน่งของหมาป่าที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ) เพื่อบอกว่า บางสิ่งผิดปกติ และเธอเชื่อว่าลีโอหัวหน้าเผ่าของเธอมีส่วนเกี่ยวข้อง

เบรน หรือมาร์ล็อค บอกแอนนาว่าเขารู้แล้วว่าบางสิ่งผิดปกติ และได้ส่งมือขวาของตัวเองมาจัดการสถานการณ์ ทั้งขอให้แอนนาไปพบกับชายคนนั้น

ชาร์ล คอร์นิคไม่ได้เป็นแค่มือขวาของเบรน เขาเป็นลูกชาย เป็นมือสังหาร และอาจจะเป็นหมาป่าตัวเดียวที่เป็นหมาป่าตั้งแต่เกิด ไม่ได้โดนเปลี่ยนด้วยการโดนกัดเป็นคนอื่น และเพียงแว่บแรก ชาร์ลก็รู้ว่าแอนนาไม่ใช่ซับมิสสีฟ แต่เธอคือโอเมก้า

ซับมิสสีฟคือหมาป่าที่มีธรรมชาติที่เป็นคนอ่อนโยน และต้องได้รับการปกป้อง ในขณะเดียวกันก็ต้องเชื่อฟังสิ่งที่หมาป่าที่เป็นโดมิเน้นท์สั่ง ในทางกลับกันโดมิเน้นท์ซึ่งมีธรรมชาติเป็นคนกร้าวร้าว จะรู้สึกว่าตัวเองจำเป็นต้องปกป้องซับมิสสีฟ การที่ใครจะเป็นพวกไหนอยู่ที่พื้นฐานนิสัยเดิมของพวกเขาก่อนที่จะถูกเปลี่ยน มาเป็นหมาป่า และในเผ่าหมาป่าก็จะมีการเีรียงลำดับกันตามความกร้าวร้าว (แต่ไม่ใช่ว่าซับมิสสีฟจะต้องโดนอย่างที่แอนนาโดน บางอย่างผิดปกติไปในเผ่าของแอนนา)

ในขณะที่โอเมก้าคือหมาป่าที่มีความพิเศษ เพราะโอเมก้าจะนำความสงบมาสู่หมาป่าที่กร้าวร้าวกว่าได้ การได้อยู่ใกล้โอเมก้าทำให้เกิดสันติสุข และในเผ่าหมาป่า โอเมก้าคือสิ่งที่ต้องได้รับการทะนุถนอม

ดังนั้นชาร์ลจึงไม่เข้าใจว่าเหตุใด แอนนาจึงได้รับการปฏิบัติเช่นนั้น

และเรื่องก็ยิ่งยุ่งไปอีก เมื่อหมาป่าในตัวชาร์ลเลือกแอนนาเป็นคู่ของเขา ซึ่งมันผิดหลักการทั้งปวง ในโลกที่แพทริเซียสร้างขึ้น มนุษย์หมาป่าก็เหมือนคนที่มีสองบุคลิกแยกจากกัน แต่อยู่ร่วมกันในร่างเดียว ชาร์ลและ "พี่หมา" (ชื่อที่ชาร์ลเรียกหมาป่าในกายเขา) มีความคิดเป็นของตัวเอง และเกือบทั้งหมด ส่วนที่เป็นมนุษย์จะเป็นคนเลือกคู่ พวกเขาก็เหมือนมนุษย์ธรรมดา ปิ๊งหญิง จีบ และแต่งงาน มันต้องใช้เวลากว่าส่วนที่เป็นหมาป่าจะยอมรับหญิงคนนั้นมาเป็นคู่

แต่ในกรณีของชาร์ล พี่หมาเป็นคนตัดสินใจแต่ต้นว่าเขาต้องการแอนนา ในขณะที่ชาร์ลเองยังไม่แน่ใจ

บอกตามตรงค่ะว่าสิ่งที่ทำให้แม็กซ์ปิ๊งเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น ก็คือชาร์ล คนที่รู้จักแม็กซ์ และเคยอ่านหนังสือชุด Otherworld ก็คงจะคุ้น ๆ ว่าชาร์ลนี่มันดูคุ้น ๆ นะ ดูเหมือนใครบางคนที่ไม่ได้มีแต่แม็กซ์ที่กรี๊ดสลบ

แต่ก็ไม่ได้บอกว่าชาร์ลเหมือนเคลย์ เดนเวอร์มากขนาดไม่มีความเป็นตัวเองหรอกนะคะ ชาร์ลและเคลย์ต่างกันมาก และเหมือนกันในส่วนที่สำคัญ ชาร์ลเป็นปีศาจที่มาร์ล็อคใช้ควบคุมหมาป่า เป็นคนที่ไว้วางใจได้ว่า เมื่อถึงคราวที่ต้องทำ ชาร์ลจะทำ ไม่ว่ามันจะยากหรือเจ็บปวดเพียงใด แต่ชาร์ลก็มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมากพอจะไม่ก้าวข้ามเส้น

ส่วนแอนนา แม็กซ์ถือว่าเธอเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของชาร์ล เธอมีชีวิตที่เลวร้าย แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอล้มลงกองกับพื้นแล้วสะอื้นร้องไห้ เธอเลือกที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้มันจะทำให้ชีวิตเธออาจจะแย่ลง

เธอเหมาะสมกับชาร์ลอย่างที่สุด

เรื่องสั้นเรื่องนี้หนาแค่ 72 หน้า แต่เต็มอิ่ม และยิ่งกว่าทำให้เชื่อว่า เหตุใดแอนนาที่เพิ่งเจอชาร์ลได้ไม่กี่วัน ถึงยอมเดินทางตามเขากลับไปยังบ้านเกิดของเขาที่มอนตาน่า ซึ่งนำเรื่องราวไปสู่หนังสือเล่มยาวเล่มแรกของชุดเล่มนี้

Cry Wolf ของแพทริเซีย บริกส์

แม็กซ์ไม่แนะนำให้คนที่ยังไม่ได้อ่าน Alpha and Omega เริ่มต้นอ่านที่เล่มนี้เลยนะคะ เพราะขอบอกว่าคุณจะงงชีวิตอย่างรุนแรง

เรื่องราวต่อเนื่องหลังจากที่แอนนาและชาร์ลแก้ปัญหาในเผ่าของเธอได้ สำเร็จ (ซึ่งก็เป็นตอนจบของเรื่องสั้น) ชาร์ล และ เบรน (มาร์ล็อค) ชักชวนแอนนาให้ย้ายไปมอนตาน่า ซึ่งทำให้เธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับโลกของหมาป่าเป็นครั้งแรก เผ่าของเธอไม่เคยสอนแอนนาถึงความซับซ้อนในโลกที่เธออยู่เลย แอนนาจึงเปรียบเสมือนนักเรียน และผู้เล่าเรื่องให้คนอ่านซึ่งไม่รู้เรื่องเช่นกัน

แม็กซ์ชอบโลกที่แพทริเซียสร้าง โลกของหมาป่าที่ยังคงเต็มไปด้วยความรุนแรง ในขณะเดียวกันก็น่าสนใจอย่างยิ่ง

มีหมาป่านอกรีตออกอาลวาดทำร้ายมนุษย์ และเบรนตัดสินใจส่งชาร์ลไปจัดการ ทั้งที่แผลของเขายังไม่หายดี รวมทั้งยังสั่งให้แอนนาตามไป แม้ชาร์ลจะแสดงความไม่เห็นด้วย ปัญหาก็คือ สิ่งมีชีวิตที่ออกทำร้ายมนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต และไม่ใช่หมาป่าธรรมดา มันรุนแรง และร้ายแรงกว่านั้นมาก

แม็กซ์ชอบเล่มยาวน้อยกว่าเรื่องสั้นค่ะ ส่วนหนึ่งเพราะเวลามากกว่าครึ่งเล่มใช้ในการอธิบายโลกของหมาป่าให้คนอ่าน เห็น หลายส่วนในเรื่องดูจะไม่เกี่ยวข้องกับพล็อตโผล่เข้ามา ซึ่งแม็กซ์เข้าใจว่า คงจะใช้เป็นรากฐานในการเขียนเล่มต่อไปในชุด แต่นั่นก็ทำให้เรื่องดูเยิ่นเย้อไม่น่าสนใจหลายส่วน

นอกจากนี้เหตุการณ์ตอนท้ายเรื่อง (สปอยล์) ที่ เบรนถูกตัวร้ายควบคุมอย่างง่ายดาย ทั้งที่เรื่องเปิดว่าเบรนเป็นหมาป่าที่ทั้งทรงพลัง และเก่งกาจมาก ๆ ทำให้ดูไม่น่าเชื่อเอาเสียเลย

แต่ความสัมพันธ์ระหว่างชาร์ล และแอนนาก็ยังน่าสนใจเช่นเดิม อย่างที่เล่าไปแล้ว พี่หมาในร่างชาร์ลเลือกแอนนาก่อนที่ชาร์ลจะตัดสินใจ แต่เขาก็ตัดสินใจแล้ว และพบว่าตัวเองก็ต้องการแอนนาเช่นกัน แต่บาดแผลในอดีตของแอนนาไม่ใช่เรื่องง่ายที่ลูกผู้หญิงจะเอาชนะ แม็กซ์ชอบที่แอนนาไม่ได้สลัดอดีตทิ้งแล้วก้าวสู่ความสัมพันธ์ใหม่เสมือนไม่ มีอะไรเกิดขึ้น ในขณะเดียวกันการที่แอนนาเกิดอาการไม่มั่นใจตัวเอง หรือประหม่าในบางสถานการณ์ก็ดูเข้ากับบุคลิคของเธอดี

สำหรับตัวร้าย (สปอยล์) ไม่รู้ระยะนี้แม็กซ์เป็นอะไรนะ อ่าน แต่ตัวร้ายที่ชั่วตั้งแต่กำเนิดอยู่เรื่อย การอบรมเลี้ยงดูไม่ทำให้พวกนี้มีพัฒนาการขึ้นมาได้เลย เล่มนี้ก้อเหมือนกัน เพราะตัวร้ายก็เลวมาแต่เกิด ทั้งที่ถูกเลี้ยงด้วยความรัก แต่ก็ยังไม่วายเลวอีก

ขอแนะนำเรื่องนี้สำหรับคนที่อยากอ่านอะไรที่ไม่ใช่โรแมนซ์ แต่ก็ยังมีโรแมนซ์มากพอจะทำให้เรื่องน่าสนใจ

คะแนนที่ 77

No comments: