Wednesday, January 21, 2009

นี่คือคนที่เราเป็น

ไม่ได้หลงตัวเองจนต้องมานั่งพูดถึงเรื่องของตัวเองหรอกนะคะ แต่บังเอิญวันนี้ไปเดินเจอประเด็นที่น่าพูดถึงอีกแล้ว

เพื่อนของเราไปงานหนังสือมา พร้อมทั้งหิ้วหนังสือมาฝากเราหลายเล่ม หนึ่งในนั้นคือเรื่องเปลือยสังหารที่เป็นฉบับปรับปรุง เขาฝากให้เราเอาไปให้ม่ามี้ของเรา เพราะเพื่อนรู้ว่า เราคงไม่มีวันกลับไปเหยียบ และซื้อหนังสือของสนพ.นี้ด้วยตัวเองเป็นแน่ เขาก็เลยทำตัวเป็นลูกที่ดีกว่าลูกแท้ ๆ อย่างแม็กซ์เป็น เพราะม่ามี้เราอยากอ่านเล่มนี้มาก แต่ลูกสาวไม่ยอมให้ซื้อ เพราะดันแปลชื่อพระเอกผิด ตอนนี้ทางสนพ.เขาออกฉบับปรับปรุง เปลี่ยนชื่อพระเอกใหม่ ออกเสียงถูกต้อง ม่ามี้เราก็เลยบอกว่า ควรจะซื้อเขาได้แล้วนะ แต่แม็กซ์ก็ยังยึดหลัก เจ็บนี้อีกนาน ไม่ยอมกลับไปเหยียบ จนได้เพื่อนแสนดี (ที่ไม่ขอออกนามนะคะ เพราะไม่คิดว่าคนอ่านบลอกจะรู้จักเขาหรอก) ที่ทั้งออกเงินซื้อมาให้ และเสี่ยงไปที่บู้ทนั้นด้วยตัวเอง

ขอเล่าย้อนความให้กับคนที่ไม่ได้รู้จักแม็กซ์นานพอฟังกันหน่อยแล้วกันค่ะ อันที่จริงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักสองปีก่อนนี่ ถือเป็นเหตุการณ์สร้างชื่อให้กับแม็กซ์เลยก็ว่าได้นะคะ อย่างน้อยเราก็สามารถบอกให้ใครต่อใครฟังได้ว่า เคยมีคนไปโพสต์ด่าเราในเว็บพันทิปมาแล้ว (สะกดชื่อเว็บเขาถูกไหมเนี่ย ถ้าผิดก็ขออภัยด้วยค่ะ)

เรื่องมันเกิด เพราะชื่อมันผิด นี่เป็นการเล่าอย่างย่อของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานสัปดาห์หนังสือเมื่อสอง ปีก่อน (แต่เป็นงานเดือนเมษายนนะคะ) แม็กซ์ด้วยความที่เป็นแฟนหนังสือของเจดี ร็อบบ์ชนิดหายใจเข้าก็เจ หายใจออกก็ดี ดันเดินไปที่บู้ทขายหนังสือของสนพ. เพิร์ล และเห็นหนังสือเรื่องเปลือยสังหารเล่มนี้แหละ ด้วยความดีใจที่ในที่สุดก็มีคนไทยตาถึง แปลหนังสือสุดรักชุดนี้ออกมาขายเสียที เราก็ปาดเข้าไปหยิบ และมองอย่างชื่นชม รูปลักษณ์ภายนอกสวยงามค่ะ พิมพ์ด้วยกระดาษอย่างดี หน้าปกก็ดูโอเค แต่เนื้อในที่แม็กซ์กวาดสายตา่ผ่านก็เจอชื่อประหลาดที่ต้องใช้เวลานานหลาย วินาทีกว่ามันจะซึมซับเข้าสู่สมอง

รออาร์คี

เขาคือใครกันแน่ แม็กซ์คิดในใจ เรายืนงงไปชั่วขณะก่อนที่จะนึกออก นี่มัน Roarke นี่นา

คงนึกภาพออกนะคะสำหรับคนที่รู้จักแม็กซ์ (ซึ่งตัวตนบอกได้เลยว่าไม่ต่างอะไรกับกับภาพที่คุณคิดในใจตอนอ่านบลอกอันนี้ หรอก) ก็ออกอาการผิดหวังไปพอสมควร ซึ่งเด็กที่ขายของก็มองหน้าเหมือน "อีนี่ ท่าจะบ้า"

ถ้าเป็นคนอื่น เรื่องทุกอย่างคงจบลงที่วันนั้น เขาแปลไม่ถูกใจ คุณก็ไม่ต้องซื้อหนังสือของเขาอ่านสิ ไม่เห็นจะต้องทำให้เรื่องมันยุ่งยากเลย ซึ่งนั่นก็คือวิธีคิดแบบนึง

แต่นั่นไม่ใช่แม็กซ์ ไม่ใช่คนที่เราเป็น

วันรุ่งขึ้นเราหาเบอร์โทรศัพท์ของทางสนพ. และโทรศัพท์เข้าไปเพื่อพูดคุยถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งสำหรับเป็นเรื่องใหญ่มากนะคะ คุณเสียเงินซื้อลิขสิทธิ์มาเป็นเงินไม่ใช่น้อย ทำไมถึงไม่มีปัญญาจ้างนักแปลที่มีความสามารถสักหน่อย ทำไมคุณถึงทำลายหนังสือเล่มนี้ (ซึ่งดันเป็นเรื่องที่เราชอบ) ลงด้วยการแปลชื่อพระเอกผิดพลาดขนาดนี้ นี่เรายังไม่ได้พูดถึงความผิดพลาดในการแปลในส่วนอื่นที่อาจจะมี (ซึ่งแม็กซ์ไม่ได้บอกว่ามีนะคะ เพราะไม่ได้ซื้อมานั่งพิจารณาดู)

หลังจากโทรศัพท์เข้าไปคุย แม็กซ์เข้าไปตอบกระทู้ในบอร์ดสาธารณะแห่งนึง ในเรื่องความผิดพลาดในการแปลชื่อพระเอก ผลที่ได้รับก็คือ ในเช้าของวันรุ่งขึ้น (หรืออีกสองวันต่อมา ไม่แน่ใจค่ะ) มีบุคคล (หรือกลุ่มคน ไม่แน่ใจค่ะ) ไปตั้งกระทู้ตามเว็บต่าง ๆ ว่า "เห็นคนโรคจิตโวยวายหน้าบูธเพิร์ล น่ากลัวมากเลย" โพสต์ ด่าแม็กซ์ว่าเป็น "คนโรคจิต" ไปยืนด่าสนพ.เพิร์ลที่หน้าบู้ท เขาไปโพสต์ในเว็บบอร์ดสาธารณะที่แม็กซ์เข้าไปตอบกระทู้ ไปโพสต์ในเว็บของงานสัปดาห์หนังสือ และที่เด็ดสุด เขาไปโพสต์ในพันทิป

เนื้อหาก็สั้น ๆ ง่าย ๆ เล่าว่า เขาเป็นนักอ่าน ไปยืนซื้อหนังสือที่บู้ทของสนพ.เพิร์ล แล้วเจอผู้หญิงคนนึง มาถึงก็ยืนด่าสนพ. เขาสงสัยว่าเจ้าหล่อนคงเป็นบ้า หรือเสียสติแน่ ซึ่งแน่นอนว่าคนคนนี้โพสต์ข้อความโดยที่ไม่ล็อคอิน ไม่สามารถตามตัวได้ว่าเป็นใคร โพสต์ครั้งเดียวแล้วก็หายไปไม่เคยกลับมาอีกเลย

ขอบอกว่าช่วงสองสามวันหลังจากนั้นเป็นช่วงเวลาที่สนุกมากค่ะ แม็กซ์ได้เครื่องหมายการันตี "ความเพี้ยน" ของตัวเอง อย่างน้อยเราก็สามารถบอกใครต่อใครได้ว่า "ฉันเคยเป็นกระทู้ติดอันดับความฮ็อตในเว็บพันทิปเชียวนะ"

ไม่อยากเล่าเรื่องนี้ซ้ำอีกรอบนะคะ แต่อยากจะพูดถึงผลที่ตามมาดีกว่า หลังจากเกิดเรื่องแม็กซ์กลายเป็นคนที่ถูกมองว่า "น่ากลัว" ถูกเขียนถึงโดยหลายบลอก หลายเว็บไซด์ นี่เป็นตัวอย่างขอชื่อที่เขาใช้เรียกแม็กซ์นะคะ ว่าด้วยเรื่องงานแปลผิด และคนที่โวยวายจนเกินงาม

แปลก็คือ แม็กซ์คือคนที่โวยวายจนเกินงาม

ส่วนตัวแล้วเราก็เฉย ๆ นะคะ เพราะคนที่เป็นเพื่อนกับเรา ก็ยังคงเป็นเพื่อนกับเรา คนที่รู้จักเรา ก็รับกับความเป็นแม็กซ์ได้แล้วล่ะ (แม้เขาจะเรียนรู้ว่า ไม่ควรไปเดินซื้อหนังสือกับมัน) แต่เรื่องนี้สอนให้แม็กซ์รู้อะไรหลายอย่าง

คำถามก็คือ ถ้าวันนั้นแม็กซ์ไม่โวยวาย จนกลายเป็นเรื่องในเน็ตตามมา ถ้าแม็กซ์ไม่โทรศัพท์ไปสนพ. ไม่เดินทางไปคุยกับเจ้าหน้าที่ของสนพ.เพิร์ลด้วยตัวเอง (ซึ่งแม็กซ์ทำหลังจากเกิดเรื่อง ซึ่งเขาพูดกับแม็กซ์ว่า เขาไม่ใช่คนที่เอาเรื่องมาโพสต์ในเน็ต และแม็กซ์ก็บอกเขาไปต่อหน้าว่า แม็กซ์ไม่เชื่อ) เราแยกกันด้วยดี เห็นพ้องกันว่า เล่มสองเขาควรเปลี่ยนการแปลชื่อพระเอกให้ถูกต้อง

คำถามก็คือ ถ้าเหตุการณ์ทั้งหมดไม่เกิดขึ้น ทุกวันนี้หนังสือชุดนี้ที่ออกขายถึงเล่มแปดแล้ว จะยังมีพระเอกชื่อว่ารออาร์คีอยู่รึเปล่า

แม็กซ์ไม่ได้กำลังหาความดีใส่ตัวนะคะ เราเชื่อว่าในท้ายที่สุด ก็คงจะต้องมีคนพูดกับสนพ. ประเด็นก็คือ จะมีน้ำหนักมากพอให้สนพ.เปลี่ยนแปลงได้หรือไม่

ตัวอย่างนะคะ แม็กซ์ได้ยินมาจากหลายกระแส (เพราะแม็กซ์ไม่ได้อ่านภาษาไทยเล่มนี้ด้วยตัวเอง) ว่าหนังสือสุดฮิตที่มีพระเอกเป็นแวมไพร์วัยทีน (ที่อายุจริงร้อยกว่าปีแล้ว) พบรักกับสาวน้อยไร้เดียวสาวัยทีนเช่นกัน ที่มีตอนต่อออกมาเป็นภาษาไทยแล้วสามเล่ม เล่มสองมีคนแปลที่ไม่ต้องรสนิยมของคนอ่านอย่างรุนแรง หลายคนบ่นกันเองในบอร์ด ผลก็คือ คนแปลคนนั้นได้รับมอบหมายให้แปลเล่มสามต่ออีก

มันเป็นไปได้ค่ะที่อาจจะมีคนบ่นอยู่แค่นั้น แท้จริงแล้วนักแปลคนนั้นแปลดี มันเป็นไปได้ แต่มันก็เป็นไปได้เช่นกันว่า เพราะทุกคนเงียบ ทุกคนไม่ต้องการมีเรื่อง ทุกคนไม่ต้องได้ชื่อว่าเป็นคนโวยวายจนเกินงาม

ดังนั้นทุกคนก็สมควรได้รับของที่ไม่มีคุณภาพ

ที่เขียนนี่ไม่ใช่ว่า จะบอกว่าการกระทำของเราถูกต้อง หรือดีงามนะคะ เราไม่ใช่คนดีนักหรอก แต่ถ้าทุกคนต้องการเป็น "คนดี" ด้วยการเงียบ ด้วยการอดทน ด้วยการเก็บปากเก็บคำ ด้วยการเป็นคนที่เดินตามคนอื่น ด้วยการเป็นคนที่ก้มหน้าและหุบปาก

ไม่มีวันที่อะไรที่คุณไม่ชอบ ไม่สบอารมณ์ จะมีวันดีขึ้นมาได้หรอกค่ะ

ป.ล. หาลิงค์ที่เขาไปโพสต์ด่าในพันทิปเจอแล้วล่ะ เป็นหน้าเว็บที่ทางกูเกิ้ลเก็บไว้นะคะ เพราะทางพันทิปน่ะลงทิ้งไปนานแล้ว

No comments: