ขอชื่นชมลินเซย์ แซนด์เลยนะคะว่าเป็นนักเขียนบ้าพลังมาก ก็แหมปีนี้มีผลงานของเธอออกขายถึงสี่เล่ม ซึ่งถ้าไม่นับนอร่า โรเบิร์ต และซูซาน มัลลอรี แล้ว แม็กซ์ว่าเธอเป็นนักเขียนที่มีงานออกขายเยอะมากที่สุดคนนึงของปี
แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น หนังสือของเธอทั้งสี่เล่มที่อยู่ในชุดอาร์ซาโน ก้ออยู่ในระดับที่ไม่ด้อยคุณภาพไปกว่ากันเลยสักเล่ม เรียกว่าแม็กซ์อ่านแล้วชอบทุกเล่มค่ะ
แต่แม้จะใช้ชื่อชุดว่าอาร์ซาโน แต่สำหรับหนังสือเล่มที่สิบในชุดอย่างเล่มนี้ ทั้งพระเอกและนางเอกก็ล้วนไม่ใช่คนในตระกูลนี้หรอกค่ะ ก็เหมือนกับหนังสือชุดทั่วไปแหละที่พอดังแล้ว คนแต่งก็ไม่ค่อยอยากจะจบลงง่าย ๆ ก็ต้องหาตัวละครเขียนต่อไปเรื่อย แต่ครั้งนี้แม็กซ์เห็นด้วยนะคะที่ลินเซย์เขียนชุดนี้ต่อ เพราะว่าหนังสือในชุดนี้ไม่ใช่หนังสือชุดชนิดที่ต้องอ่านต่อเนื่องกันไป หรือว่ามีพล็อตเกี่ยวข้องกันไปทุกเล่ม (ไม่ใช่สไตล์ดาร์คฮันเตอร์ หรือ BDB) ดังนั้นการจับเอาตัวละครอื่นนอกตระกูลมาเขียนก็ไม่ได้เสียหายอะไร
สำหรับพระเอกเล่มนี้ ถ้าเคยอ่านเรื่อง Bite me if you can ก็จะเคยเจอกับเขามาก่อน การ์เร็ตต์ มอร์ติเมอร์เป็นนักล่าแวมไพร์นอกลู่ ครั้งนี้เขาได้รับภารกิจให้ออกล่าแวมไพร์ที่ไปเที่ยวไล่กัดผู้หญิงในเมือง ชนบทแห่งหนึ่งในแคนาดา ทั้งนี้เพราะกฎของแวมไพร์แห่งทวีปอเมริกาเหนือก็คือการห้ามกัด ยกเว้นจะมีเหตุอันจำเป็นจริง ๆ การได้ข่าวว่าพบรอยกัดบนลำคอของหญิงสาวอาจเป็นชนวนทำให้เกิดการล่าแวมไพร์ อีกครั้งนึงก็ได้ ดังนั้นหน้าที่ของมอร์ติเมอร์และเพื่อนคู่หูอย่างบริคเกอร์ต้องทำก็คือ หาตัวแวมไพร์คนนั้นให้เจอ แล้วส่งให้สภาลงโทษ
ขอความกรุณาอย่าคิดว่าหนังสือเล่มนี้จะมีอะไรที่ซีเรียส พล็อตการตามหาตัวแวมไพร์นอกรีตก็แทบจะไม่ได้มีน้ำหนักอะไรเลยนะคะ (แถมผู้ร้ายก็แสนที่จะ... จะบอกว่าฮาก็ฮา จะบอกว่างี่เง่าก็งี่เง่า) เนื้อที่ส่วนใหญ่เทให้กับการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมอร์ติเมอร์และซาแมนธา เพื่อนบ้าน (ที่พวกเขามาพักอยู่เพื่อตามหาแวมไพร์นอกรีต) ซึ่งมอร์ติเมอร์พบว่าหลังจากแปดร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว เขาก้อได้พบกับคู่ชีวิตของตนเอง (ซึ่งต้องเป็นคนที่เขาไม่อาจอ่านความคิด หรือควบคุมการกระทำของเธอได้)
แรกทีเดียวมอร์ติเมอร์ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหรนักที่ได้แซมเป็นคู่ชีวิต เพราะเธอแตกต่างจากนางในฝันของเขาหลายขุม เขานึกว่าตัวเองได้จะสาวสไตล์เจสสิก้า แรบบิท แต่ดันได้แม่สาวโอลีฟมาแทน เพราะแซมไม่อึ๋ม แต่ออกแนวสูงโปร่งมากกว่า
แต่ก็แป๊บเดียวล่ะค่ะ มอร์ติเมอร์ก็เปลี่ยนใจอันมาหลงเสน่ห์แซมเข้าอย่างจัง
พล็อตเรื่องนี้ง่าย ๆ สบาย ๆ ค่ะ เรียกว่าไร้สาระเต็มที่ก็ว่าได้ แต่อ่านไปก็เพลินดี่ ประเด็นที่ติดใจเราหน่อยนึง (และหน่อยเดียวจริง ๆ) ก็คือ การที่คู่แท้ของแวมไพร์จะต้องไม่สามารถอ่านใจกันได้ออกนั้นดูจะเป็นพล็อตที่ บังคับความรักไปหน่อยน่ะ อย่างเคสของมอร์ติเมอร์เนี่ยเห็นได้ชัดเลย เพราะตอนแรกก็ดูไม่ชอบแซมนัก แต่พอแน่ใจว่าเธอเป็นคนที่ฟ้าส่งมาให้ ความรักก็ดูเกิดขึ้นง่ายไปหน่อยน่ะ
ตามไปอ่านในเว็บของนักเขียนได้ข่าวมาว่า เล่มถัดไปในชุดนี้เรื่อง The Immortal Hunter ซึ่งเป็นเรื่องของเด็กเกอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในนักล่าแวมไพร์ที่มีบทบาทในเล่มนี้ด้วย จะมีด้านที่มืดกว่าเล่มนี้มาก และจะเผยความลับของตระกูลอาร์ซาโนอีกต่างหาก ก็เลยทำให้เกิดอาการอยากอ่านเข้าให้แล้วน่ะสิ
สำหรับเล่มนี้คะแนนที่ 70
No comments:
Post a Comment