หนังสือเล่มนี้ขึ้นต้นด้วยพล็อตแนวถูกใจเพื่อนแม็กซ์คนนึงมาก การพบกันของเด็กสองคนที่คุยกันถูกคอ และนำไปสู่คำสาบานว่าจะแต่งงานกันเมื่อโตขึ้น
ฟังดูน่ารักใช่ไหมคะ
แต่ถ้าแม็กซ์บอกคุณว่า เด็กชายอายุเพียงสิบสองปี ในขณะที่เด็กผู้หญิงอายุสิบห้าปีแล้ว คุณจะนึกว่ายังไง
ไม่รู้นะคะสำหรับคนอื่น แต่กะแม็กซ์มันกึ๋ยน่าดูเลย
ยิ่งเมื่อบวกปัจจัยที่ว่า เล่มนี้เป็นแนวย้อนยุคในสก๊อตแลนด์โบราณ เราก็รู้กันว่าเด็กผู้หญิงโตเร็วกว่าผู้ชาย การที่เด็กหญิงวัยสิบห้าฝากรักฝังใจกับเด็กชายวัยสิบสองมันมากเกินไปค่ะ แม้กระทั่งกับแม็กซ์คนที่ชอบอ่านเรื่องที่พระเอกอ่อนกว่านางเอก
แม็กซ์รู้นะว่าเด็กชายวัยสิบสองมีความรู้สึกแล้ว แต่แม็กซ์ไม่อยากรับรู้ด้วยนะ
Bound to Please ของโฮป ทาร์
หนังสือเล่มแรกของฮาร์ลิควิน เบลซที่เป็นแนวย้อนยุค (เล่มอื่น ๆ ในหัวนี้จะเป็นแนวปัจจุบัน) มีองค์ประกอบเกือบทุกอย่างที่แม็กซ์ชอบในนิยายโรแมนซ์ พระเอกที่อ่อนวัยกว่านางเอก นางเอกที่เป็นหัวหน้าเผ่าซึ่งจับพระเอกไปเป็นตัวประกัน เพื่อให้เป็นพ่อพันธุ์ผลิตลูกให้เธอ เืพราะหวังให้เด็กคนนี้กลายเป็นสื่อสันติภาพสำหรับเผ่าที่เป็นศัตรูกัน
บริแอนน่า แม็คคลาวด์เป็นลูกสาวคนเดียวของหัวหน้าเผ่าแม็คคลาวด์ และเธอได้รับการฝึกและสั่งสอนมาตลอดชีวิตเพื่อให้เป็นเดอะแม็คคลาวด์ (หรือหัวหน้าเผ่าผู้ดูแลชาวแม็คคลาวด์ทั้งปวง) ซึ่งแม้จะหมายถึงการที่เธอจะต้องลืมเด็กชายวัยสิบสองปีที่เธอได้พบและสาบาน ว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันเมื่อสิบปีก่อนก็ตาม เธอรู้ดีว่าความสมหวังระหว่างเธอและยวน เฟรเซอร์เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เผ่าของทั้งคู่เป็นศัตรูกัน
แต่เมื่อสามีของบริแอนน่าเสียชีวิตจากการลอบทำร้ายโดยคัลลัม เฟรเซอร์พี่ชายฝาแฝดของยวน บริแอนน่าก็คิดแผนการอันแสนชาญฉลาดขึ้นมาได้ เธอสั่งให้ลักพาตัวยวน และนำตัวเขามาที่ปราสาทของเธอ เพื่อหวังให้เขาเป็นพ่อของลูกในท้อง ผลิตลูกที่จะเป็นสายสัมพันธ์เชื่อมระหว่างแม็คคลาวด์และเฟรเซอร์ เพื่อสร้างสันติภาพให้เกิดแก่เผ่าทั้งสอง
อ่านมาถึงตอนนี้พอบอกได้ไหมว่า แม็กซ์ไม่ชอบบริแอนน่า
นางเอกที่ตลอดทั้งเรื่อง คนแต่งพยายามบอกว่าเจ้าหล่อนเก่งขนาดไหน ฉลาดขนาดไหน เป็นผู้นำที่ดีขนาดไหน ลงท้ายคุณเธอก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ขึ้นมา แผนการรึก็ปัญญาอ่อน (อันที่จริงมันมีก็เพื่อทำให้เรื่องนี้สมกับเป็นเบลซ นั่นคือนำพระเอกและนางเอกไปสู่ฉากเซ็กส์) ถ้าเพียงแต่คนแต่งไม่พยายามอธิบายถึงความเก่ง ความดี ความฉลาดของบริแอนน่า แม็กซ์คงจะยอมรับเล่มนี้ได้มากกว่านี้ (เพราะจะได้ไม่คาดหวังว่าเธอจะมีสมอง)
ฉากปฏิสัมพันธ์ระหว่างบริแอนน่าและยวนน่ารักดีค่ะ และดูน่าเชื่อถึงความรักที่เกิดขึ้น แม็กซ์ยอมรับในส่วนนี้ ที่ยอมรับไม่ได้ก็คือเหตุผลของการดำเนินเรื่อง และการโกหกซึ่งหน้าถึงมันสมองของบริแอนน่า เพราะเจ้าหล่อนไม่มีมันเลย
ขอโทษนะ สามีหล่อนโดนพี่ชายยวนลอบฆ่าทั้งคน ใช่ เธอไม่ได้รักเขา (เธอยังหลงรักเด็กวัยสิบสองที่เจอกันเมื่อสิบปีก่อน) แต่เขาก็เป็นสามีที่ดี (เจ้าหล่อนบอกเองในเรื่อง) แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่เธอคิดถึงการแก้แค้น แน่นอนว่าคัลลัมไม่ใช่ฆาตกร แต่นั่นไม่ได้ทำให้การที่เธอทุ่มเทเวลาไปกับการผลิตลูกกับยวน น่าให้อภัยขึ้นมาหรอกนะ
อย่างที่บอก แม็กซ์ชอบฉากกุ๊กกิ๊กกันระหว่างบริแอนน่า และยวน (ไม่ได้หมายถึงเซ็กส์อย่างเดียวนะคะ ฉากจีบกันก็ดูน่ารักไม่แพ้กันเลย) แต่แม็กซ์ก็อดจะ "อี๋" ในใจไม่ได้ เมื่อนึกว่า ตอนที่เจอกันยวนเพิ่งจะสิบสอง ตอนที่เขาบอกรัก แล้วพูดว่ารักเธอมาตั้งแต่ตอนได้เจอกัน แม็กซ์ก็ยิ่งแหยะไม่น้อย
คือเราไม่ได้รู้สึกว่ามันน่ารัก หรือโรแมนติคตรงไหนที่เด็กอายุสิบสองตกหลุมรักเด็กอายุสิบห้า ขนาดที่ว่าเจอกันไม่กี่ชั่วโมงก็กรีดเลือดสาบานจะแต่งงานกัน แม็กซ์อาจชอบเรื่องที่นางเอกแก่กว่าพระเอกก็จริง แต่ไม่ใช่ในเวลาที่พระเอกอายุแค่สิบสอง ซึ่งถ้านางเอกเด็กกว่า แม็กซ์ยังอาจพอทำใจได้นะ แต่นี่ก็ไม่ใช่ (มันเลยเป็นเคสที่พล็อตที่ปกติจะถูกใจกลายเป็นไม่ถูกใจไปอีก)
อ่านเรื่องนี้จนจบเรื่อง แม็กซ์ไม่ได้มีศรัทธาในความสามารถของบริแอนน่าเพิ่มขึ้นมาสักนิดเดียว ถ้าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่า แม็กซ์ก็สงสารเผ่าแม็คคลาวด์โคตร ๆ เพราะทุกอย่างที่บริแอนน่าทำก็คือ การช่วยตัวเองไม่ได้ เริ่มตั้งแต่โดนลูกน้องในเผ่าของตัวเองหลอก ไปจนถึงปัญญาอ่อนขี่ม้าออกมากลางดึกจนเกือบถูกฆ่า แล้วก็เดือดร้อนพระเอกต้องตามไปช่วยอีก เธอช่างเป็นผู้หญิงที่ห่วยจริง ๆ
คะแนนที่ 53
No comments:
Post a Comment