Thursday, January 22, 2009

Confessions at Midnight // Jacquie D'Alessandro

เล่มนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องค่ะที่มีพระเอกแสนดี และก็ขอบอกตรงนี้เลยนะคะว่าที่คะแนนไม่ค่อยสูงนักก็ไม่ใช่ความผิดของพระเอก เท่าไหรหรอกค่ะ แต่เป็นตัวร้ายมากกว่าที่ทำเสียเรื่องไป

Confession at Midnight ของแจ๊คกี้ ดาเลสซานโด

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่สองในชุด Mayhem in Mayfair และเนื่องจากแม็กซ์อ่านเล่มนี้โดยที่ยังไม่ได้อ่านเล่มแรก (Sleepless at Midnight) แล้วยังอ่านรู้เรื่องไม่มีปัญหา ดังนั้นก็เลยขอบอกว่า ไม่จำเป็นต้องอ่านเรียงกันก็ได้ค่ะ

จุดต่อเชื่อมของตัวละครในชุดนี้ก็คือ ชมรมหนังสือของเหล่าเลดี้สาวในสังคมชั้นสูงยุครีเจนซี่ที่มีสมาชิกสี่คน สมาชิกคนแรกแต่งงานไปแล้ว (เป็นนางเอกเล่มหนึ่ง) และจากการเลือกหนังสือเรื่อง Memoiers of a Mistress ซึ่งเป็นหนังสือแนวอีโรติคสักหน่อย (หมายถึงหนังสือที่ตัวละครเลือกมาอ่านกันนะคะ อย่าเข้าใจผิดว่าเล่มนี้เป็นอีโรติค เพราะมันไม่ใช่ เดี๋ยวเข้าใจผิดแล้วรีบไปซื้อมาอ่านกันจะผิดหวังกัน)

และเพราะความเร้าใจของหนังสือที่เลือกมาอ่านกันนั่นแหละ เลยทำให้คาโรลินหม้ายสาวเริ่มรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวในชีวิต เธอเสียสามีผู้เป็นรักไปเมื่อสามปีก่อนจากความเจ็บป่วย และที่แตกต่างจากนางเอกโรแมนซ์คนอื่น คาโรลินรักเอ็ดเวิร์ดอดีตสามีอย่างสุดใจ ทั้งคู่เป็นคนรักที่รักกันอย่างแท้จริง แม้เอ็ดเวิร์ดจะเป็นขุนนางมียศศักดิ์ในขณะที่เธอเป็นเพียงลูกสาวหมอธรรมดาคน นึง แต่นั่นก็ไม่อาจหยุดเขาจากการเลือกเธอได้ ตลอดเวลาหลายปีที่ใช้ชีวิตร่วมกัน ทั้งสองมีความสุขยิ่งนัก จนกระทั่งโรคร้ายมาพรากเขาไปจากเธอ

สิ่งที่คาโรลินไม่รู้ก็คือ เดเนียล เอิร์ลแห่งเซอร์บรูค ซึ่งเป็นเพื่อนของเอ็ดเวิร์ดก็รู้สึกอะไรบางอย่างกับเธอเช่นกัน นับตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเห็นเธอในงานเลี้ยงเมื่อสิบปีก่อน เมื่อเอ็ดเวิร์ดแนะนำให้เขารู้จักกับคาโรลิน เดเนียลสนใจเธอ และคิดว่าเธอมีความพิเศษเหนือหญิงอื่นใด แต่ในคืนวันเดียวกันนั่นเอง ความตั้งใจที่จะสานสัมพันธ์ต่อกับเธอก็ต้องจบลง เมื่อเอ็ดเวิร์ดประกาศหมั้นกับคาโรลิน เขาไม่อาจทรยศเพื่อนรักได้ และนั่นทำให้เขาพยายามใช้เวลาให้น้อยที่สุดกับเธอ

หลายปีผ่านไป เดเนียลคิดว่าเขาลืมเธอได้แล้ว และการได้พบกันอีกครั้งในงานเลี้ยงที่บ้านของน้องเขยของคาโรลิน (เหตุการณ์นี้เกิดในเล่มแรกของเรื่อง คนอ่านเล่มนี้ไม่เห็นนะคะ) เขาก็รู้ว่า เขายังไม่อาจลืมเธอได้เลย และตั้งใจว่ายังไงครั้งนี้จะต้องไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไปได้

ในงานเลี้ยงสวมหน้ากาก เดเนียลในคราบโจรปล้นทางหลวงเดินเข้าไปทักทายคาโรลินที่แต่งตัวเป็นกาลาเธีย (หญิงสาวที่เป็นรูปปั้น แล้วกลายมีชีวิตหลังจากได้รับพรจากเทพ เมื่อคนปั้นที่หลงรักเธอร้องขอเทพเจ้า -- ตำนานมันยาวและละเอียดกว่านี้ค่ะ แต่ขี้เกียจเล่าน่ะ) ทั้งคู่รู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นใครตั้งแต่ต้น แต่ก็เล่นละครเหมือนไม่รู้จักกัน การพบกันครั้งนั้นจบลงด้วยจูบที่ยากลืมเลือน

และมันสร้างความรู้สึกผิดอย่างมากให้กับคาโรลิน นั่นเพราะเธอคิดว่ามันเป็นการทรยศต่อความทรงจำของเอ็ดเวิร์ด เธอคิดว่าหัวใจของเธอควรจะตายไปพร้อมกับชายที่เธอรัก เธอไม่เึคยคิดว่า คนเราจะรักได้มากกว่าครั้งเดียว และเมื่อเดเนียลยื่นข้อเสมอให้ทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน เธอปฏิเสธ แต่แล้วเหตุการณ์นำพาให้เธอได้มีโอกาสได้รู้จักเขามากขึ้น รู้ว่าเขาเป็นมากกว่าขุนนางที่ใช้ชีวิตเสเพลไปวัน ๆ เธอก็รู้ว่า ไม่อาจห้ามใจไปกับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ได้อีก

ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นขึ้น โดยที่คาโรลินคาดหวังว่าจะไม่มีความรัก และเดเนียลที่เป็นพระเอกโรแมนซ์ซึ่งต้องไม่ชอบการผูกมัดทำให้เขายอมรับว่า เขาจะได้เพียงแค่ตัวเธอชั่วขณะ ในขณะที่หัวใจยังคงเป็นของเอ็ดเวิร์ด

แม็กซ์ชอบเล่มนี้ตรงที่ไม่ได้ทำอะไรตามสูตร ชอบที่คาโรลินไม่ตกลงมีความสัมพันธ์กับเดเนียลง่าย ๆ เพราะแรงเรียกร้องทางร่างกาย เธอสนใจเขา และเกือบจะห้ามใจไม่อยู่ แต่ก็ปฏิเสธ จนกระทั่งเธอได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขา รู้ว่าเขาเป็นมากกว่าคนที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวัน ๆ (เหมือนพระเอกโรแมนซ์ย้อนยุคคนอื่น) และนั่นเป็นแรงผลักดันสุดท้ายที่ำทำให้เธอรู้ว่าไม่อาจห้ามตัวเองได้อีกต่อ ไป จะว่าไปพล็อตนี้ก็เหมือนความดีชนะใจนางเอกนั่นแหละ

และแม็กซ์ก็ชอบเดเนียล แม้ว่าหลายครั้งมันจะดูเหมือนจงใจเน้นความเป็นคนดีของเดเนียลมากไปหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับมากจนดูน่าเกลียดหรอกนะ แล้ววิธีเล่าก็ไม่ดูยัดเยียดจนเกินไป จากเริ่มต้นที่แม็กซ์คิดว่าเดเนียลเป็นแค่พระเอกโรแมนซ์เสเพลคนนึง แต่เมื่อท้ายเรื่องเรารู้ว่าเขาเป็นมากกว่านั้น เป็นคนที่ดีจริง ๆ (เป็นคนที่แม็กซ์อยากรู้จักในชีวิตจริง ซึ่งต่างจากพระเอกโรแมนซ์คนอื่น ๆ อย่างพระเอกของแชนน่อน แม็คเคนน่านี่แม็กซ์ชอบอ่านถึงนะคะ แต่ไม่อยากเจอเอาเสียเลยชีวิตนี้นี่)

เล่มนี้มาตกม้าตายตอนจบค่ะ กับพล็อตรองที่เป็นเหตุการณ์ฆาตกรรมสาวในสังคมชั้นสูง ที่สุดท้ายก็มายุ่งกะพระเอกนางเอกจนได้ เหตุผลที่ตัวร้ายทำ มันอ่อนที่สุดเท่าที่เคยอ่านมาในชีวิต เลยทำให้เล่มนี้สะดุดไปมากเลยทีเดียว

คะแนนที่ 60

No comments: