นักเขียนบางคนใช้หลายนามปากกาในการเขียนเรื่องด้วยหลายเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นเพราะใช้นามปากกาแรกแล้วไม่เวิร์ค ขายไม่ดี ก็เลยเปลี่ยนชื่อใหม่เอาเคล็ดเหมือนคนไทย (แต่ความจริงง่าย ๆ ค่ะ เพราะถ้านักเขียนคนนั้นเขียนเรื่องแล้วขายไม่ค่อยดี ร้านหนังสือก็จะไม่ยอมสั่งซื้องานของนักเขียนคนนั้นอีกถ้าออกเล่มใหม่ ดังนั้นนักเขียนจึงต้องจับตัวเองใ่ส่ตระกร้าล้าง แล้วขายใหม่ หลอกร้านหนังสือให้สั่งงานของเธอไปขายอีกรอบใหได้) แต่ก็ยังมีเหตุผลอื่นอีก หนึ่งในนั้นก็เพราะว่า พวกเธอเขียนเรื่องที่มีแนวเรื่องแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงใช้นามปากกาในการส่งข่าวกับแฟนหนังสือว่า ถ้าเป็นนามปากกานี้ แนวเรื่องมันก็ประมาณนี้นะ
และสำหรับแคธลีน คอร์เบลเองก็เช่นกัน เธอยังมีอีกนามปากกานึงซึ่งก็คือเอลีน ดายเยอร์ ซึ่งเป็นนามปากกาในการเขียนเรื่องแนวสืบสวนเข้มข้น ในขณะที่แคธลีน คอร์เบลใช้กับการเขียนหนังสือเล่มบาง ๆ ให้กับฮาร์ลิควิน แม็กซ์เองชอบงานในนามปากกาของเอลีนมากกว่าค่ะ มากขนาดที่ว่าไม่เคยซื้องานในนามปากกาขอแคธลีนมาอ่านเลยด้วยซ้ำ แต่มีงานของเอลีนครบทุกเล่ม
จนกระทั่งแคธลีนหันมาเขียนเรื่องแนวพารานอมอลให้กับชิลลูเอ็ต น็อคเทิร์น กับชุด Daughters of Myth ซึ่งสองเล่มแรกก็อยู่ในระดับอ่านได้ แต่ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเท่าไหรนัก
และก็มาถึงเล่มนี้
Deadly Redemption ของแคธลีน คอร์เบล
เล่มนี้คือหนังสือเล่มที่สามในชุด Daughters of Myth ที่เล่าเรื่องของลูกสาวสามคนของราชินีแมบแห่งอาณาจักรภูติ และบอกตามตรงนะคะ หนังสือเล่มนี้แหละคือเหตุผลที่ทำไมแม็กซ์ถึงเสียเวลานั่งอ่านเล่มหนึ่งและ เล่มสองในชุด แม็กซ์รอคอยเพื่ออ่านเล่มนี้มาตลอด
แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอ่านเล่มหนึ่งและสองก่อนเล่มนี้หรอกค่ะ เพื่อที่จะอ่านเล่มนี้รู้เรื่อง แต่การได้อ่านเล่มก่อนหน้าก็จะทำให้เราเข้าใจออล่านางเองของเรื่องมากขึ้น
หนังสือเล่มนี้มีองค์ประกอบเกือบทุกอย่างที่แม็กซ์ชอบ ตัวละครที่เป็นตัวร้ายมาก่อน และพล็อตเรื่องแนว Marriage of convenient แต่ไม่รู้ว่าเพราะมีครบอย่างนี้รึเปล่านะคะ ผลสรุปของมันก็เลยยังไม่ถึงระดับที่เราคาดหวังไว้
ออล่าลูกสาวของราชินีแมบทำความผิดใหญ่หลวง เธอสมคบคิดกับศัตรูและวางแผนแย่งบัลลังค์จากมารดา และเพื่อลงโทษแมบส่งเธอเป็นของขวัญให้กับศัตรูผู้ที่สุดท้ายแล้วทรยศเธอ ไปยังอาณาจักรต้องห้าม ดินแดนที่อาจจะเลวร้ายกว่าความตาย
ในเล่มแรก ออล่าเป็นตัวร้ายที่วางแผนทำลายชีวิตของนางเอกซึ่งเป็นพี่สาวของเธอ เพราะไม่ต้องการให้มารดาเลือกพี่สาวซึ่งเป็นรัชทายาทในการสืบทอดบัลลังค์ แห่งอาณาจักรภูติ และในเล่มนี้เราก็ได้รู้ถึงแรงจูงใจเบื้องหลัง ออล่าไม่ได้ต้องการอำนาจ แต่เธอรู้ดีว่าพี่สาวของตัวเอง แม้จะเป็นคนดียิ่งนัก แต่ไม่ใช่ผู้ปกครองที่เหมาะสม ไม่ใช่คนที่เธอคิดว่าจะนำพาอาณาจักรไปสู่อนาคตได้ เธอรู้ว่าตัวเองเหมาะสมยิ่งกว่า ถ้าเพียงแต่แมบมองเห็นความสำคัญของเธอ และนั่นคือเหตุผลที่เธอทรยศพี่สาวของตัวเองได้
แม็กซ์ไม่ได้คิดว่าเหตุผลนี้ทำให้ออล่ากลายเป็นคนดีขึ้นมาได้หรอกนะคะ การกระทำของเธอยังคงเป็นความผิด แต่แม็กซ์ชอบวิธีการที่คนแต่งทำให้เรามองเห็นเรื่องจากอีกด้าน และที่ยิ่งไปกว่านั้น ออล่าไม่เคยโกรธหรือกล่าวโทษแมบที่ส่งเธอมาเป็นเครื่องบรรณาการให้กับ อาณาจักรศัตรูเลยสักครั้ง อันที่จริงออล่าปกป้องแมบทุกครั้งที่ถูกกล่าวโทษ นี่แสดงให้เห็น (สำหรับแม็กซ์) อย่างชัดเจนว่า ทุกอย่างที่ออล่าทำก็เพื่อความมั่งคงของอาณาจักร ไม่ใช่เพราะการโกรธเกลียดมารดา
ในการเดินทางมายังอาณาจักรศัตรู ออล่ากลายเป็นเจ้าสาวให้กับเลียม หลานชายของกษัตริย์แห่งอาณาจักรดังกล่าว และก็เป็นเลียมนี่แหละที่ทรยศเธอ และขโมยหินวิเศษแห่งอาณาจักรของเธอ จนเป็นเหตุให้เธอต้องถูกเนรเทศออกมา เขาไม่ต้องการเธอเป็นภรรยา แต่ก็ไม่มีทางเลือก ชายและหญิงสองคนที่ไม่มีวันเลือกจะใช้ชีวิตร่วมกัน ต้องถูกกำหนดให้อยู่ร่วมกัน ในความสัมพันธ์ที่ไม่มีวันตัดขาด
การเปลี่ยนแปลงสถานะจากเจ้าหญิงผู้ซึ่งได้รับการยกย่องในอาณาจักรของตัว เอง กลายมาเป็นเป็นเพียงผู้หญิงคนนึงในอาณาจักรที่เห็นเพศชายเป็นใหญ่ (อาณาจักรของออล่ายกย่องสตรีให้เป็นชนชั้นปกครอง ในขณะที่อาณาจักรของเลียมยกย่องผู้ชาย ส่วนผู้หญิงเป็นชายเท้าหลังอยู่บ้านและเลี้ยงลูก) ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คุณไม่อาจเอาความเป็นเจ้าหญิงไปจากออล่าได้ เพราะเพียงไม่นาน เธอก็เริ่มสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้น
แม็กซ์ระบุไม่ได้นะคะว่าส่วนไหนชัดเจนที่ทำให้เรื่องนี้ไม่ค่อยเวิร์คสำ หรับแม็กซ์ เพราะเมื่อดูแยกองค์ประกอบแต่ละส่วนก็ดูเหมือนว่าจะเข้าทางที่เราชอบทั้ง นั้น ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างเลียมและออล่าที่ค่อยพัฒนาขึ้น จนน่าเชื่อว่าเป็นความรัก หรือการแสดงความเชื่อมั่นอย่างสุดใจที่เลียมมีให้ออล่าในยามที่สำคัญที่สุด ทุกอย่างสอบผ่าน แต่เมื่อทั้งหมดนี่มารวมกันอยู่ในเล่มเดียว มันกลับไม่เวิร์ค
ถ้าให้เดาเราก็คิดว่าน่าจะเป็นที่วิธีการเล่าเรื่องค่ะ เหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นผ่านเวลาระยะนึง ในขณะที่ความยาวของหนังสือหนาได้ประมาณ 250 หน้าเท่านั้น การนำเหตุการณ์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวกับชีวิตที่เปลี่ยนไปของออล่า ความพยายามทำให้คนที่อาณาจักรใหม่ของเธอยอมรับตัวเธอ สงครามที่เกิดขึ้น การตามหาหินวิเศษที่หายไป มันมากเกินไปกับจำนวนหน้าที่ถ่ายทอดออกมา สุดท้ายก็เลยดูเหมือนคนแต่งไม่ได้ใช้เวลากับประเด็นไหนเพียงพอเลยสักอย่าง
โดยรวมเราให้สอบผ่านค่ะ แต่ยังไม่ดีเท่าที่ใจเราอยากให้เป็น คะแนนที่ 60
No comments:
Post a Comment