Tuesday, January 20, 2009

Night falls darkly // Kim Lenox

ยังยืนยันคำพูดของบลอกเมื่อวานค่ะ ที่ว่าหนังสือแนวชุดพารานอมอลกำลังมาแรงมาก จนนักเขียนหลายคนที่เดิมไม่ได้เขียนเรื่องแนวนี้ ได้เฮโลกันมาเขียนกันใหญ่ และส่วนใหญ่ก็สอบไม่ค่อยจะผ่านกันได้ เพราะความแปลกประหลาดในโลกเหนือจริงมันก็ต้องมีขีดจำกัด หลังจากอ่านหนังสือชุดแนวนี้มาร้อยกว่าชุด (หรือประมาณนั้น) แม็กซ์ก็พบว่าตัวเองไม่ค่อยจะรู้สึกว่ามีอะไรใหม่น่าสนใจอีกต่อไปแล้ว

Night Fals Darkly ของคิม ลีน็อค

เช่นเดียวกับนักเขียนคนอื่น ๆ คิม ลีน็อคก็เป็นนักเขียนในแนวอื่นก่อนที่จะผันตัวเองมาเขียนเรื่องแนวพารานอมอล แต่ถ้าคุณค้นหาข้อมูลก็คงจะไม่พบหรอกว่า มีคิม ลีน็อคเคยเขียนนิยายเรื่องอะไรมาก่อน นั่นก็เพราะว่า เธอเพิ่งเปลี่ยนนามปากกามาใช้ชื่อนี้น่ะสิ

คิม ลีน็อคหรือที่คุณอาจเคยอ่านหนังสือของเธอในนามของโจลี แม็ทธิส ซึ่งแม็กซ์ก็ไม่คิดหรอกนะคะว่า คนส่วนใหญ่จะรู้จักเธอกันนัก (เพราะพูดง่าย ๆ ถ้าเธอเขียนในชื่อโจลีดัง ก็คงไม่ต้องเปลี่ยนนามปากกาและแนวเรื่องมาหรอกค่ะ) โจลี แม็ทธิสมีผลงานออกมาหนึ่งเล่ม ในแนวย้อนยุค

กลับมาที่ชุดนี้กัน ในฐานะเล่มแรกของชุด The Shadow Guard เรื่องราวของผู้เป็นอมตะที่มีหน้าที่ในการติดตาม และกำจัดวิญญาณแห่งความชั่วร้าย เมื่อแม็กซ์อ่านชุดนี้จบลง เราลังเลพอสมควรที่จะสรุปความเห็นว่าเล่มนี้ดีหรือไม่ดี เพราะในส่วนของตัวเนื้อเรื่องหลักของเล่มนี้ เราไม่ชอบมันนัก แต่ในฐานะของการเปิดประเด็นไปยังเล่มถัดไป เรื่องนี้ได้ใจเราไปเต็ม ๆ (แปลว่า ยังไงแม็กซ์ก็ต้องซื้อเล่มสองในชุดมาอ่านแน่ และเป็นการซื้อชนิดที่เราอยากอ่านมาก ๆ ด้วย)

อาร์เชอร์ หรือลอร์ดแบล็ค เป็นหนึ่งในนักรบผู้มีชีวิตเป็นอมตะในกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า Shadow Guard เขามีหน้าที่ในการติดตามวิญญาณแห่งความชั่วร้าย กำจัดพวกมันก่อนที่จะกลายเป็นภัยมากกว่านี้ ในงานหนึ่งที่เขาทำ อาร์เชอร์เผชิญหน้ากับคนเลวที่จับหญิงสาวเป็นตัวประกัน เขาสามารถกำจัดมันได้ แต่ก็ช้าเกินกว่าที่จะช่วยชีวิตเธอ แต่อาร์เชอร์มีอำนาจในการให้โอกาสที่สองแห่งชีวิตได้ เขาเลือกที่จะใช้มันกับเธอ และด้วยความผูกพัน เขารับดูแลเธอเป็นเด็กในปกครอง

เอเลน่าสูญเสียความทรงจำทั้งหมด ในเหตุการณ์ที่เธอถูกบอกเล่าว่าเป็นอุบัติเหตุรถม้า เธอเป็นเด็กในปกครองของลอร์ดแบล็ค แต่เธอไม่เคยเจอหน้าเขาตลอดเวลาเกือบสองปีที่พักอาศัยอยู่ในบ้านของเขา และเอเลน่าก็ไม่ต้องการอนาคตที่เขาวางไว้ เธอไม่ต้องการแต่งงานกับคนที่เหมาะสม แต่เธอต้องการเป็นหมอ และใช้ชีวิตช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส

อาร์เชอร์ไม่คิดว่าเขาจะมีโอกาสได้เจอกับเอเลน่าอีกครั้ง เพราะโดยปกติเขาไม่น่าจะถูกเรียกตัวให้มาทำงานในลอนดอนอีกครั้ง แต่แล้ววิญญาณแห่งความชั่วร้ายที่ประวัติศาสตร์รู้จักกันในนามของแจ๊ค เดอะริปเปอร์ก็ปรากฎตัวขึ้น อาร์เชอร์ในฐานะนักรบผู้มีอาวุโสสูงสุด เขาถูกเรียกตัวกลับมาลอนดอนเพื่อรับวิญญาณชั่วร้ายตนนี้ และนั่นทำให้เขาเผชิญหน้ากับเอเลน่าอีกครั้ง เขาไม่คิดว่าเธอจะพักอยู่ในบ้านของเขา และไม่คิดว่าเธอจะเป็นผู้หญิงคนแรกในรอบหลายพันปีที่ทำให้เขากลับมามีความ รู้สึกอีกครั้ง

ปัญหาแรกและเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของเราในการอ่านเล่มนี้ก็คือ คนแต่งใช้เวลานานมากกว่าที่จะอธิบายให้คนอ่านฟังว่าอะไรคือชาร์โดว์การ์ด แถมในเรื่องมีศัพท์แสงประหลาด ๆ เยอะ แต่ก็ไม่อธิบายว่าคืออะไร แม้ว่าถ้าเราอ่านไปเรื่อย ๆ ก็พอจะเดาได้ล่ะนะว่าหมายถึงอะไรกันบ้าง แต่มันก็น่ารำคาญน่ะ เพราะแม็กซ์ไม่รู้สึกว่า การอธิบายจะใช้เวลา หรือสปอยล์เนื้อเรื่องอะไรเลย พูดถึงบ้างก็น่าจะดี ไม่ใช่ให้คนอ่านนั่งสรุปกันเอง ก่อนจะมาเฉลยท้ายเรื่องว่า สิ่งที่คนอ่านคิดน่ะถูกแล้ว

ปัญหาอีกอย่างที่เล็กกว่าเยอะ แต่มันทำให้แม็กซ์หงุดหงิดอย่างไร้สาเหตุก็คงเป็นวิธีการที่ตัวละครในเรื่อง เรียกอาร์เชอร์ และเพื่อนของเขา คือพล็อตในเรื่องนี้เปิดว่า บรรดาเหล่าชาร์โดว์การ์ดทั้งหลายมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ปกครองประเทศต่าง ๆ ดังนั้นพวกเขาหลายคนจึงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์มาตั้งแต่ในสมัยอดีต อันนี้เราเข้าใจที่มาของชื่อบรรดาศักดิ์ของอาร์เชอร์นะคะ แต่อ่านไปจนจบเล่ม เราก็ยังไม่รู้ว่า ไอ้เจ้าลอร์ดแบล็คนี่เป็นบรรดาศักดิ์อะไรกันแน่ เป็นไวส์เคาท์หรือบารอนกันแน่ เราไม่ได้มีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ในสมัยวิคทอเรียนดีพอ (รู้จากการอ่านนิยายนี่แหละ) แต่เราไม่คิดว่า วิธีการที่คนแต่งใช้ในการเรียกบรรดาศักดิ์ในเล่มนี้จะถูกต้องหรอกนะ ทำให้เวลาเราอ่านไป ก็คิดไปว่า เจ้าลอร์ดแบล็คซึ่งเป็นบรรดาศักดิ์พระเอกนี่ มันคือยศอะไรกันแน่ตลอดทั้งเรื่องเลย

ความสัมพันธ์ระหว่างอาร์เชอร์และเอเลน่าถือว่าโอเค ไม่ได้น่าประทับใจขนาดอ่านแล้วถอนหายใจเฮือก ๆ แต่ก็ไม่เลวร้าย เพียงแต่เราไม่เห็นจะรู้สึกว่าเอเลน่ามีความพิเศษอะไรที่น่าจะถึงขนาดดึงดูด ใจอาร์เชอร์ซึ่งมีชีวิตอยู่เป็นพันปี ให้ตกหลุมรักเป็นครั้งแรกได้เท่านั้นเอง แต่เธอก็ไม่ได้มีข้อบกพร่องอะไรหรอกนะ เพียงแต่ไม่โดดเด่น

พล็อตที่เป็นส่วนพารานอมอลถือว่ามีความน่าสนใจใช้ได้ค่ะ ไม่ถึงกับ ว้าว ดีโคตร ๆ แต่ก็ไม่ใช่พล็อตที่เห็นอันอย่างดาษดื่น ที่สำคัญการทิ้งท้ายตอนจบเรื่อง ที่เกี่ยวเนื่องกับพระเอกในเล่มถัดไปทำได้ดีมาก ดีขนาดที่แม็กซ์อยาก่อานเล่มสองเลยล่ะ ทั้งที่ไม่ค่อยปิ๊งกะเล่มนี้นักหรอกนะ

คะแนนเล่มนี้ที่ 67

No comments: