โอเคค่ะ ในที่สุดแม็กซ์ก็พูดได้อย่างเต็มปากแล้วล่ะว่า เราเป็นแฟนหนังสือชุดมิดไนท์บรีด เหมือนกับเพื่อนอีกหลายคนของเราแล้ว
สำหรับคนที่ไม่คุ้นหูกับชื่อนี้ เราคิดว่า คงอีกไม่นานก็น่าจะได้ยินกันบ้าง เพราะบอกตามตรงค่ะ เราเองซึ่งไม่ได้ประทับใจอะไรเลยกับสองเล่มแรกในชุด ตอนนี้ชักจะเอนเอียงไปเป็นกองเชียร์อีกหนึ่งคนของชุดนี้แล้วล่ะ
หนังสือชุดนี้ว่าแล้วก็เดินตามรอยของหนังสือแนวพารานอมอลโรแมนซ์ที่ดัง ติดตลาดหลายชุด แต่ที่หลายคนบอกว่าเหมือนทั้งรสและกลิ่นก็คงจะเป็นชุด BDB ของเจอาร์ วาร์ด ซึ่งแม็กซ์ก็เห็นว่าเหมือนใช้ได้เลยค่ะ แต่ความเป็นเมโลดราม่าของเรื่องยังไม่เท่า (ทำให้อาจจะไม่รู้สึกว่า อยากอ่านเล่มถัดไปในชุดอย่างรุนแรงมากนัก)
Veil of Midnight ของลาร่า เอเดียน
แม็กซ์เพิ่งพูดถึงแบ็คกราวน์ของหนังสือชุดนี้ไปที่บลอกนี้นะคะ (ขี้เกียจพิมพ์ซ้ำน่ะค่ะ ถ้าสนใจก็ตามไปอ่านกันดูค่ะ)
หนังสือเล่มนี้ซึ่งเป็นเล่มที่ห้าในชุด แม้จะไม่ถึงกับต่อเนื่องกับเล่มก่อนหน้า แต่เราคิดว่า ถ้าคุณเปิดเล่มนี้โดยที่ไม่มีพื้นเกี่ยวกับความเป็นแวมไพร์ของหนังสือชุดนี้ เลย ก็อาจจะเกิดอาการงงเล็กน้อย
นิโคลัยซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มออเดอร์ (ก็เหมือนกลุ่ม BDB นั่นแหละ) ถูกส่งมามอนทรีออลเพื่อเจรจากับเซอร์ไก ยาคุตซึ่งเป็นบรีด (หรือแวมไพร์) รุ่นเจนวัน (หรือลูกของมนุษย์ต่างดาวที่มาเยือนโลก) จากเหตุการณ์ในเล่มก่อน กลุ่มออเดอร์ค้นพบว่า ขณะนี้มีความพยายามในการเอาชีวิตบรีดรุ่นเจนวัน ซึ่งบัดนี้เหลือเพียงยี่สิบกว่าคนทั่วโลก นิโก้เคยเตือนเซอร์ไกถึงอันตรายอันนี้มาแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่สนใจ เขาคิดว่าเขาเก่งกาจพอที่จะดูแลตัวเองได้ั แต่ลูแคนซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มออเดอร์ก็ยังยืนยันให้นิโก้เดินทางมายังแคนาดา เพื่อพูดคุยกับเซอร์ไกให้เห็นถึงความสำคัญของการลอบเอาชีวิตครั้งนี้
แต่เมื่อเขาไปถึง นิโก้ก็ได้พบกับเรนาต้า หญิงสาวมนุษย์ธรรมดาที่มีลักษณะพิเศษ นั่นคือเธอเป็นบรีดเมท (หรือผู้หญิงที่มียีนส์ที่ำทำให้เธอสามารถมีลูกกับเหล่าแวมไพร์ซึ่งเป็น ผู้ชายเท่านั้นได้) เรนาต้าทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้กับเซอร์ไก และเรนาต้านี่เองก็ทำให้นิโก้ต้องกลืนน้ำลายตัวเอง
นิโก้เคยเหย้าแหย่และแซวเหล่าบรีดที่พบคู่ชีวิตทั้งหลาย ถึงความคลั่งไคล้หลงใหลที่เกิด แต่กับเรนาต้า เขาก็ได้พบกับผู้หญิงของเขาเอง ปัญหาก็คือ เธอเป็นผู้หญิงของเซอร์ไก
สำหรับเรนาต้า พวกบรีดเป็นคนที่โหดเหี้ยม เธอไม่ต้องการทำงานให้กับเซอร์ไก แต่ก็ไม่มีทางเลือก เธอมีพันธะที่ไม่อาจหนีได้ นั่นก็คือไมร่า เด็กสาวที่ถูกพาตัวมาทำงานให้กับเซอร์ไกเช่นกัน หญิงสาวสองคนที่ไม่มีความเกี่ยวพันกันทางสายเลือด แต่ผูกพักกันยิ่งนัก ไมร่าเป็นบ่วงที่ผูกตัวเธอเอาไว้กับเซอร์ไก แม้ว่าเธอจะเกลียดเขายิ่งนัก
การได้พบกับนิโก้ทำให้เรนาต้าเริ่มเปลี่ยนความคิด เพราะถึงภายนอกนิโก้จะดูไม่ต่างกับพวกบรีดที่เธอคุ้นเคย แต่เขาแตกต่าง เพราะแม้เขาจะเป็นคนเลือดร้อน แต่ความโกรธของเขาก็ไม่เคยรวมเธอเข้าไปอยู่ด้วย ดังนั้นเมื่อเรนาต้าพบว่า ไมร่าหายตัวไป นิโก้จึงเป็นความหวังเดียวของเธอในการตามหาไมร่า
ในบรรดาหนังสือชุดนี้ที่อ่านมาห้าเล่ม เรนาต้าเป็นนางเอกของชุดที่เราชอบมากที่สุด เพราะแม้เธอจะต้องใช้ชีวิตในสถานการณ์ที่ไม่น่าพิศมัยมากนัก แต่เธอไม่เคยยอมแพ้ และเธอเป็นนางเอกที่เก่งจริง ไม่ใช่เก่งแต่ปาก หรือคำบรรยายของคนแต่ง แม็กซ์อ่านเรื่องนี้แล้วเชื่อค่ะ ว่าเธอเอาตัวรอดได้สมกับความเล่าลือ
และแม็กซ์ก็ยอมรับอีกแหละว่า ตั้งแต่อ่านชุดนี้มาแต่แรก เราสนใจในตัวนิโก้มากที่สุดแล้ว เขาเป็นบรีดที่เด็กที่สุด เป็นหนุ่มเลือดร้อน และชอบต่อสู้ชนิดเลือดสาด (ไม่นับว่าเขามีเชื้อสายรัสเซีย ซึ่งก็น่าจะรู้นะคะว่า แม็กซ์กรี๊ดกะหนุ่มรัสเซียยังไง) ในเล่มนี้เขาก็ยังคงลักษณะนั้นอยู่ เพียงแต่เมื่อเขาเจอกับเรนาต้า และยอมรับถึงความรู้สึกลึกซึ้งที่มีต่อเธอ เขาอ่อนโยนลงอย่างไม่เสียความเป็นตัวเอง
เราชอบตัวละครทั้งสองคนนี้ค่ะ ในส่วนของพล็อตก็ถือว่าใช้ได้ทีเดียว เป็นส่วนต่อเนื่องของพล็อตใหญ่ที่เริ่มดำเนินมาแล้วตั้งแต่ในเล่มสาม (Midnight Awakening) เรื่องราวที่มนุษย์ต่างดาวซึ่งเป็นต้นกำเนิดของเหล่าบรีดทั้งหมดหนีรอดออกมา จากที่คุมขังได้สำเร็จ ในเล่มนี้เราได้ล่วงรู้ถึงแผนการที่ของกลุ่มตัวร้ายซึ่งก็ไม่ต้องใช้สติ ปัญญามากอะไรหรอกนะคะในการคาดเดา (แต่เฉลยให้รู้กันจัง ๆ ก็ดี)
นอกจากนี้แล้ว ในเล่มนี้ยังแบ่งเวลาให้กับพระเอกในเล่มต่อไปออกมามีบทบาทนิดหน่อยด้วย (แม้ว่าจะไม่เกี่ยวอะไรกับคู่นิโก้และเรนาต้าเลย) ซึ่งเราค่อนข้างเฉยกับเรื่องของเขานะคะ หันไปสนใจตัวละครที่ออกตอนใกล้จบเรื่องมากกว่า (ไม่บอกนะคะ เพราะอาจจะสปอยล์กันไปมากหน่อย)
โดยสรุป เล่มนี้เราถือว่าดีที่สุดในชุดในเวลานี้ค่ะ และเป็นเล่มที่ทำให้แม็กซ์ยอมรับว่า กลายมาเป็นแฟนหนังสือชุดนี้แล้วล่ะ
คะแนนที่ 73
No comments:
Post a Comment