แม็กซ์สังเกตว่าพล็อตแนวพระเอกเป็นมาเฟียนี่เป็นที่ฮิตโคตร ๆ ในประเทศไทย (ขอบอกว่าประเทศไทยค่ะ เพราะเท่าที่อ่านมา แม็กซ์ยังไม่ค่อยจะเจอพระเอกมาเฟียในนิยายที่ฝรั่งแต่งเท่าไหรนัก) ไม่รู้ว่าเพราะคนไทยคิดว่า การเป็นมาเฟียเป็นสิ่งที่โก้หรู น่าชื่นชม (ตามคำพูดของหลายคนที่แม็กซ์ได้ยินว่า สังคมไทยบูชาคนที่เงินไม่ใช่ความดี ดังนั้นมาเฟียซึ่งมีเงินมากมายจึงกลายเป็นคนที่น่าชื่นชมไปได้) หรือเพราะเอามาเฟียไปผูกกับผู้ชายอิตาเลียนแล้วคิดว่าน่าจะหล่อ (และขอบอกว่า แม็กซ์ไปแบ็คแพ็คอยู่ที่อิตาลีสองอาทิตย์ เจอผู้ชายหล่อนะคะ แต่พอเจอพ่ออีแล้วก็เลิกคิดฟุ้งซ่าน เพราะมันบ่งบอกว่า คนหล่อ ๆ คนนี้จะแก่เป็นยังไงบ้าง ทั้งพุงพุ้ย หัวล้าน และปากเหม็น)
หรือว่าเหตุผลมันหยั่งรากลึกไปถึงสังคมตะวันออกที่มองภาพมาเฟียต่างจากฝรั่ง เราเป็นสังคมอุปถัมภ์ที่ผู้มีอำนาจดูและและช่วยเหลือผู้ด้อยกว่า ดังนั้นมาเฟียจึงถูกเปรียบเทียบกับผู้ถือครองที่ดินในสังคมฝรั่ง มาเฟียแบบตะวันออกจะมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีแบบแผนประเพณีปฏิบัติยาวนาน (อย่างยากูซ่า) และเมื่อบวกกับเงินที่มากมาย คนกลุ่มนี้จึงเป็นตัวละครที่เหมาะกับความเป็นพระเอกในนิยาย
แม็กซ์พยายามนึกนะคะว่ามีโรแมนซ์เล่มไหนบ้างไหมที่พระเอกเป็นเจ้าพ่อมาเฟีย จริง ๆ บ้าง (ไม่ใช่ประเภทสวมรอยหรือยอมเป็นเพื่อทำภารกิจลับอย่างที่เอียน ริชาร์ดทำใน Killer Secrets) แต่ตอนนี้สมองมันแบ็งค์ไปหมดเลยล่ะ มีใครนึกออกบ้างไหมคะ
ในขณะที่นิยายไทยมีเดินชนกันตายเป็นสิบ
และมาเฟียก็มีทุกที่ไม่ใช่เฉพาะในนิยายโรแมนซ์หรือหนังสือการ์ตูนที่เป็นพระเอกหรอกนะคะ
ที่วันนี้พูดเรื่องนี้เพราะว่า ได้ไปอ่านบลอกในเว็บบลอกของฝรั่งที่ชื่อว่า Dear Author (ลิงค์อยู่แถบด้านข้าง) และอีกหลายบลอกทำให้เราเริ่มคิดน่ะค่ะ
ในอดีตถ้าใครสนใจพอจะติดตาม รีวิวหนังสือส่วนใหญ่จะเป็นไปในทางบวกมาก ๆ เรียกว่านักเขียนเขียนอะไรออกมาก็ดีก็สนุกไปหมดทุกเล่ม ซึ่งพวกเราก็รู้กันดีว่า มันเป็นไปไม่ได้เลย
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือรีวิวในนิตยสารโรแมนซ์ไทม์ (ที่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น RT Bookclub ไปแล้ว) แทบไม่มีเรื่องไหนที่ไม่สนุกเลย การเขียนรีวิวเป็นแค่การเล่าพล็อตเรื่อง ไม่มีความเห็น หรือถ้ามีก็เป็นไปแบบไร้ประโยชน์จำพวก "สนุกมาก" "ดีมาก" ที่คนอ่านไปได้อะไรเลย
แม็กซ์คิดว่าทั้งหมดนั่นนำมาซึ่งความผิดหวังของนักอ่านหลายคน ที่หลงเชื่อรีวิวไร้คุณภาพพวกนั้น จนซื้อหนังสือแต่พบกับความผิดหวัง นักอ่านหลายคนที่ไม่พอใจกับข้อมูลที่น้อยมากเกี่ยวกับคุณภาพหนังสือจึงเริ่ม ต้นสร้างพื้นที่ของตัวเอง โดยเฉพาะเมื่ออินเตอร์เน็ตเป็นที่แพร่หลาย
พวกเขาเลือกที่จะทำให้ตัวเองเป็นผู้พูดความจริง แม้ความจริงนั้นจะทำให้พวกเขากลายเป็นที่รังเกียจของนักเขียนและเหล่าแฟน เกิร์ล และนี่ถือเป็นนิมิตใหม่ของโลกโรแมนซ์ในเน็ต
ที่เอามาโยงกับมาเฟียขาใหญ่ก็เพราะ แม็กซ์มองว่าในอดีตนิตยสารอย่างโรแมนซ์ติกไทม์ก็ถือว่าเป็นมาเฟียขาใหญ่ใน โลกโรแมนซ์เช่นกัน เพราะหนังสือของพวกเขาเป็นแหล่งข้อมูลหนึ่งเดียวเกี่ยวกับโรแมนซ์ แต่อำนาจของพวกเขาบั่นทอนลง เพราะการขยายตัวในเน็ต คนอ่านไม่จำเป็นต้องซื้อโรแมนซ์ติกไทม์อ่านเพื่อรู้ความเป็นไปในโรแมนซ์อีก แล้ว พวกเขาหาข้อมูลได้ในเน็ต
แต่นั่นก็ไม่ใช่ว่าโลกอินเตอร์เน็ตปราศจากมาเฟีย ความจริงก็คือ จำนวนขาใหญ่เพิ่มมากขึ้นเสียอีก
ในโลกไซเบอร์แห่งนี้ก็มีมาเฟีย ถ้าไม่รู้ว่าจะเจอตัวได้ที่ไหน ก็ลองเข้าไปอ่านตามบอร์ดพูดคุยเรื่องต่าง ๆ ลองไล่อ่านกระทู้ไปเรื่อย ๆ ก็จะได้พบกับขาใหญ่หลายคนในนั้น พฤติกรรมก็มักคล้ายคลึงกันประเภท ไม่ว่าใครตั้งกระทู้อะไร อาเฮียอาเจ๊แกก็จะเข้าไปตอบหมดทุกกระทู้ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่เขาตั้งกระทู้หรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้เพื่อเพิ่มยอดจำนวนการโพสต์ให้สูงเข้าไว้ เพื่อให้กลายเป็นศักดิ์ศรีว่า กูเก๋าจริงโว้ย
บางคนก็มีวิญญาณของครู (สมัยโบราณ) เข้าสิง ที่ไม่ว่าใครพูดอะไร หรือแสดงความเห็นยังไง แกก็จะต้องรีบไปปรากฎกายอบรมสั่งสอน ถึงมารยาทในการโพสต์ที่บอร์ดที่คุณท่านสิงสถิตย์อยู่ ซึ่งทำเอาสมาชิกใหม่เผ่นหนีกันแทบไม่ทัน เพราะยังไม่ได้รับการต้อนรับ ก็โดนด่าเข้าให้แล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง
พฤติกรรมขาใหญ่นี่เป็นเรื่องปกติในสังคมมนุษย์ค่ะ แม้แม็กซ์จะไม่ได้จบจิตวิทยามา ก็พอจะนึกออกนะ เรานึกถึงอดีตสมัยเรียนประถม (อยู่ป.หนึ่ง) น่ะ ที่เคยหลงผิดไปเข้าแก็งค์มาเฟีย แล้วก็โดนไถทั้งเงินและข้าวของไปหลายอย่าง ก่อนจะคิดได้ตอนขึ้นป.สองแล้วประกาศอิสรภาพด้วยการต่อยหัวหน้าแก็งค์สลบคา เสาธงชาติ ที่นึกถึงเรื่องนี้เพราะแม็กซ์นึกถึงตัวเองว่า ทำไมถึงได้โง่ยอมเป็นเบี้ยล่าง และอดทนต่อการกระทำของขาใหญ่ในโรงเรียนคนนี้ขนาดนั้น
เหตุผลสำคัญก็เพราะ คนเราอยากเป็นส่วนหนึ่งของสังคม อย่างได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง และจะมีวิธีไหนที่เร็วไปกว่าการเข้าไปเป็นลูกน้องขาใหญ่กันเล่า คุณยอมทำหูทวนลม แสร้งไม่ได้ยินว่า บางครั้งขาใหญ่ก็ลอบมากัดคุณบ้างเป็นครั้งคราว เฮละโลเป็นพวกเวลาขาใหญ่เจอศัตรูที่ต้องตีให้ตาย ช่วยกันโพสต์ทำนอง "ใช่ค่ะ" "เห็นด้วยค่ะ" "คุณพี่ XXX เก่งที่สุดเลย"
มันเป็นเรื่องง่าย และทำให้คุณเป็นส่วนหนึ่งในสังคม แม้มันจะทำลายศักดิ์ศรีทั้งหมดของคุณเองก็ตาม
สุดท้ายแล้วแม็กซ์จึงไม่ได้มองว่ามาเฟียเป็นองค์ประกอบสำคัญของโรแมนซ์ แต่เป็นสิ่งที่อาจจะขาดไปได้ในสังคมไทย (หรือสังคมตะวันออก) ที่ยังมองมาเฟียด้วยสายตาที่อ่อนโยนกว่าฝรั่ง ไม่ได้หมายความว่าเราแย่กว่าเขา เพียงแต่เรามองสังคมด้วยสายตาที่ต่างกัน ดังนั้นแม็กซ์เองจึงไม่ค่อยมีปัญหาเวลาอ่านนิยายที่ตัวละครซึ่งเป็นมาเฟีย เป็นชาวตะวันออก แล้วมีพฤติกรรมทำนองเลวอย่างมีเกียรติ (นึกถึงลุงของรีโนใน Fire and Ice) เพราะมันยังดูน่าเชื่อ แต่เราจะมีปัญหามาก เวลาอ่านเจอมาเฟียฝรั่งแล้วยังทำตัวเป็นคนดี (หรือความจริงไม่เคยเลว แต่โดนเข้าใจผิด เขาไม่เคยค้ายา ไม่เคยค้าผู้หญิง อันที่จริงไม่เห็นมันจะทำอะไรให้สมกับเป็นมาเฟียเลยสักนิด)
แต่นั่นก็คือความเห็นของแม็กซ์ค่ะ
No comments:
Post a Comment