Wednesday, January 21, 2009

Bond of Darkness // Diane Whiteside

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่รอคอยด้วยความอยากอ่านมาหลายปีแล้วค่ะ ตั้งแต่ยังไม่รู้ชื่อเรื่อง แต่เพราะพระเอกของเล่มนี้เป็นตัวละครที่ออกมามีบทบาทในหนังสือรวมเรื่องสั้น ที่ชื่อว่า Hunter's Prey ที่ออกขายเมื่อหลายปีก่อน (น่าจะเกือบสี่ห้าปีแล้วมั้งคะ และเกือบสิบปีเมื่อนึกย้อนไปถึงเวลาที่แม็กซ์อ่านเรื่องของเขาสมัยที่ไดแอ นยังเขียนเรื่องให้คนอ่านฟรีในเน็ต)

ด้วยความคาดหวังมากขนาดนี้ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็เลยอาจจะไม่ถึงจุดที่บอกได้ว่าสมใจทุกอย่างหรอกค่ะ แต่ก็ถือว่าเป็นหนังสือที่ดีมากเล่มนึงสำหรับเรา

Bond of Darkness ของไดแอน ไวด์ไซด์

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่สามในชุด และเล่มที่สี่ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแวมไพร์ในเท็คซัส (อ่านแล้วคงงงนะคะ เรื่องมันก็ยังงี้ค่ะ เล่มแรกของชุดเลยเป็นเรื่องสั้นที่เล่า่ชีวิตของแวมไพร์สามคน แต่เล่มนั้นไม่ใช่โรแมนซ์ หลังจากเรื่องสั้นเล่มนั้นออกมาแล้ว คนเขียนก็เริ่มเขียนเรื่องของแวมไพร์ที่เป็นตัวเองในเรื่องสั้นทั้งสามคน เริ่มต้นเล่มแรกที่ Bond of Blood ตามมาด้วย Bond of Fire และลงท้ายด้วยเล่มนี้)

แม็กซ์ชอบวิธีการเขียนของไดแอนในการเล่าเรื่องค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าวิธีที่เธอเลือกใช้นี้จะเหมาะกับคนอ่านที่เริ่มต้นอ่านเรื่อง ในชุดนี้ที่เล่มนี้หรือไม่ นั่นก็เพราะว่า หนังสือทั้งสามเล่มในชุดนี้มีพล็อตเรื่องเดียวกันทั้งหมด เพียงแต่จุดจบของแต่ละเล่มต่างเวลากันเท่านั้น

พล็อตหลักก็คือ ความพยายามแย่งชิงอำนาจที่หัวหน้าแวมไพร์แห่งเมืองนิวออร์ลีนพยายามแย่งจาก ดอน ราฟาเอล ซึ่งเป็นหัวหน้าแวมไพร์แห่งเท็คซัส ดังนั้นจึงส่งลูกน้องสารพัดคนเข้ามาในเท็คซัสเพื่อบ่อนทำลายฐานอำนาจของดอน ราฟาเอล

หนังสือเล่มนี้เปิดเรื่องย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่มาดามเซเลสต์ซึ่งเป็นหัว หน้าแวมไพร์แห่งนิวออร์ลีนเป็นเพียงแวมไพร์กระจอกธรรมดา แต่ด้วยความที่เธออยากเคียงคู่กับดอน ราฟาเอล จึงทำทุกอย่างเพื่อขึ้นสู่อำนาจ เพราะคิดว่าราฟาเอลจะยอมรับเธอเป็นคู่ชีวิตก็ต่อเมื่อเธอยิ่งใหญ่เทียบเคียง เขาได้ แต่เธอคิดผิด ดังนั้นเมื่ออีกสองร้อยปีต่อมาเมื่อเซเลสต์ยื่นข้อเสนอให้ราฟาเอลรวมดินแดน เท็คซัส และนิวออร์ลีนของเธอเข้าด้วยกัน เพราะให้พวกเขาทั้งสองกลายเป็นแวมไพร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ราฟาเอลปฏิเสธ เธอจึงประกาศสงคราม

นี่เป็นพล็อตเรื่องเดียวกับที่ใช้ในเล่มหนึ่ง และสองในชุดค่ะ วิธีการเล่าเรื่องของไดแอนก็คือ ในเล่มนี้มุมมองถูกเล่าผ่านทางอีธาน เทมเพิลตัน ซึ่งเป็นเสมือนแม่ทัพใหญ่ของราฟาเอล เริ่มตั้งแต่การที่เขาต้องวางแผนต่อสู้กับศัตรูที่บุกเข้ามาในพื้นที่ ความพยายามที่ต้องปกป้องราฟาเอลจากคนร้าย สรุปก็คือพล็อตเดียวกัน แต่ต่างมุมมองเท่านั้นเอง

ดังนั้นแม็กซ์จึงไม่คิดว่า คนที่ไม่ได้อ่านเรื่องในชุดนี้มาก่อนควรจะเริ่มต้นอ่านที่เล่มนี้ เพราะมันจะสปอยล์ทุกอย่างในสองเล่มแรกค่ะ นั่นเพราะเล่มนี้พูดถึงบทสรุปในเล่มแรก และเล่มสองไว้พอสมควร นั่นเพราะเล่มนี้เริ่มต้นที่จุดเวลาเดียวกัน แต่เรื่องจบลงทีหลัง เหตุการณ์ที่เป็นตอนจบในสองเล่มแรก ก็ถูกเล่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดในเล่มนี้ด้วย

กลับมาที่พล็อตเรื่องกันต่อค่ะ (ที่พูดไปทั้งหมดนี่เป็นการเกริ่นเท่านั้นเองค่ะ) ในฐานะของแม่ทัพแห่งกองทัพแวมไพร์เท็คซัส มันเป็นหน้าที่ และเป็นความรับผิดชอบของอีธานในการทำศึก และปกป้องราฟาเอลจากศัตรู เขาทำด้วยความรักและภักดีที่มีต่อแวมไพร์ผู้ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดเขา (ราฟาเอลเป็นคนเปลี่ยนอีธานเป็นแวมไพร์)

ความสัมพันธ์ระหว่างอีธานและราฟาเอลเป็นเรื่องเข้าใจยากพอสมควร (ไม่ใช่เป็นเกย์หรอกนะคะ แต่ถ้าถามว่าทั้งสองคนเคยมีความสัมพันธ์กันไหม คำตอบก็คือว่าใช่) ซึ่งตอนนึงในเรื่องนางเอกก็ถึงกับพูดออกมาว่า ทำไมราฟาเอลถึงได้ทำกับอีธานถึงเพียงนี้ และคำตอบที่เขาให้กับเธอก็คือ เธอไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของพวกเขาหรอก มันเป็นความผูกพันด้วยความมืด (นั่นก็คือชื่อเรื่อง)

ในฐานะของผู้นำ ราฟาเอลเป็นเจ้านายที่เข้มงวด แม้เขาจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องแวมไพร์ผู้รับใช้ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็มีกฎเหล็กที่ไม่อาจฝ่าฝืนได้ หนึ่งในนั้นก็คือ ห้ามแวมไพร์ทุกคนในเท็คซัสเปลี่ยนมนุษย์เป็นแวมไพร์ มีเฉพาะราฟาเอลคนเดียวเท่านั้นที่ทำเช่นนั้นได้ นั่นก็เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้ความจงรักภักดีของแวมไพร์ในดินแดนของตัวเอง ขึ้นตรงกับคนอื่น (แวมไพร์จะมีสายสัมพันธ์ผูกพันกับคนที่เปลี่ยนพวกเขา ดังนั้นหากราฟาเอลเป็นคนเปลี่ยนแวมไพร์เหล่านั้น เขาจะเชื่อมั่นได้ว่าพวกนั้นจะต้องภักดีต่อเขาอย่างไม่มีข้อแม้) และที่มากไปกว่านั้น ราฟาเอลไม่อนุญาตให้เปลี่ยนผู้หญิงเป็นแวมไพร์เด็ดขาด นั่นก็เพราะอัตราความเสี่ยงของแวมไพร์หญิงมีมาก พวกเธอมักจะเป็นบ้าหลังการเปลี่ยน และต้องถูกฆ่าทิ้ง

กฎที่มีเป็นอุปสรรคสำคัญของอีธาน เพราะเป็นเวลาสิบห้าปีแล้วที่เขาได้พบกับผู้หญิงที่เขารัก เธอชื่อสเตฟานี อแมนด้า คนที่ต้องการให้ทุกคนเรียกเธอว่าสตีฟ เพราะเธอเป็นเท็คซัสแรงเจอร์ (เป็นตำรวจชนิดนึงในเท็คซัส เทียบกับเอฟบีไอ แต่ทำงานในรัฐเท็คซัสเท่านั้น) ทั้งคู่พบกัน และมีความสัมพันธ์กันมาตลอดสิบห้าปี จนกระทั่งสตีฟแต่งงานไปเมื่อสามปีก่อน

เพราะรักเธอมาก และรู้ว่า เขาไม่มีวันให้ในสิ่งที่เธอสมควรได้รับได้ (ครอบครัว และลูก) อีธานปล่อยเธอไป ตลอดเวลาเขาไม่เคยแสดงออกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นอะไรมากไปกว่าเซ็กส์ เพราะเขาไม่อาจใช้ชีวิตร่วมกับเธอได้ เขาไม่อาจทรยศและฝืนกฎที่ราฟาเอลตั้งขึ้นได้

แต่แล้วคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในเทคซัสก็พาสตีฟกลับเข้ามาในชีวิตของอีธาน อีกครั้ง เพราะความสัมพันธ์ที่เธอมีกับแวมไพร์ทำให้สตีฟรู้ว่า ศพที่พบด้วยรอยแผลลักษณะนี้มีเพียงแวมไพร์เท่านั้นที่ทำได้ เธอติดต่ออีธานเพื่อขอความช่วยเหลือ (สำหรับคนที่ไม่สบายใจ สตีฟหย่าแล้วค่ะในเวลานั้น) และนั่นทำให้ทั้งคู่กลับเข้าสู่ความสัมพันธ์อีกครั้ง

หนังสือเล่มนี้ต่างจากโรแมนซ์เล่มอื่น ตรงที่พระเอกรักนางเอกหมดใจ ในขณะที่ช่วงแรกเธอคิดถึงเขาในลักษณะของคู่นอนเพื่อผ่อนคลาย แต่ความเชื่อมั่นที่เธอมีให้อีธานอย่างไม่มีข้อแม้ก็เป็นการบอกอย่างลึก ๆ แล้วล่ะว่า เธอรู้สึกเช่นไรกับเขา แม้จะไม่ยอมรับกับตัวเองก็ตาม

โดยรวมทั้งชุด แม็กซ์ชอบเล่มนี้ที่สุดค่ะ คะแนนที่ 73

No comments: