Thursday, January 22, 2009

Fangs but no fangs // Kathy Love

แม็กซ์ไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากการอ่านเล่มนี้ค่ะ เราเคยอ่านงานของแคธี่ เลิฟมาแล้วเล่มนึง (จำชื่อเรื่องไม่ได้ด้วยซ้ำ) แต่ไม่ึถึงกับประทับใจอะไรนัก สาเหตุที่ซื้อเล่มนี้มาก็เพราะเรามีนิสัยแปลกที่เลิกไม่ได้นั่นก้อคือ ถ้าเห็นหนังสือบราว่าออกขายเป็นไซด์แมสมาร์เก็ต (ปกติบราว่าจะออกเป็นไซด์เทรดซึ่งราคาจะแพงกว่าหนังสือไซด์แมสมาร์เก็ตอยู่ ราว 100 - 200 บาท) เห็นเป็นไม่ได้ค่ะ ต้องซื้อ

เล่มนี้ก็ซื้อด้วยเหตุผลนั้นเช่นกัน

แต่แล้วก็ต้องเจอกับความประหลาดใจที่ไม่คาดมาก่อนเมื่ออ่านเล่มนี้จบลง

Fangs but no fangs ของแคธี่ เลิฟ

ก่อนอื่นขอบอกว่าแคธี่เป็นนักเขียนที่น่าสงสารที่สุด เพราะอะไรหรือ นั่นก็เพราะสนพ.ของเธอ (เคนซิงตัน) ทำการตลาดหนังสือของเธอเสมือนมันเป็นแนวโรแมนติค คอมเมดี้ ทั้งที่มันไม่ใช่เลย มันอาจมีฉากที่ฮาฮาขำกันออกมาได้ แต่โดยหัวใจของเรื่องแล้วมันไม่ใช่โรแมนติค คอมเมดี้ และการที่เคนซิงตันทำตลาดอย่างนั้น ก็เป็นการสร้างความเข้าใจผิดให้กับคนอ่านที่หยิบหนังสือเล่มนี้มาโดยคิดว่า จะเป็นเรื่องเบา ๆ ฮา ๆอ่านเพื่อการผ่อนคลาย ทั้งที่ความจริงแล้วสาระของเรื่องถือว่าหนักไม่น้อย มันเป็นผลเสียต่อตัวแคธี่เอง เพราะหนังสือของเธอไปถึงมือของนักอ่านผิดกลุ่ม

ดังนั้นจึงขอบอกว่า หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่โรแมนติค คอมเมดี้ แม้ชื่อเรื่องจะฟังดูงี่เง่าพอที่จะเป็นหนังสือแนวนั้น

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่สองในชุดพี่น้องตระกูลยังค์ เรื่องราวของน้องคนกลาง คริสเตียน ยังค์ ในฐานะของคนที่ไม่ได้อ่านเล่มแรกในชุด (ยังดองอยู่ ดองมาตั้งแต่ปี 2005 แล้วล่ะ) ก็ขอได้เลยว่า ไม่จำเป็นต้องอ่านเล่มแรกเพื่อเข้าใจเล่มนี้ เพราะตลอดเกือบทั้งเรื่องคริสเตียนอยู่ตามลำพัง แทบไม่มีพี่น้องของเขาเข้ามาเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ แม้หัวใจหลักของเรื่องจะยังคงเป็นเรื่องการไถ่บาปของคริสเตียนต่อความผิดที่ เขากระทำลงไปในอดีต

แต่ถึงจะบอกว่าแคธี่ไม่ได้เขียนเรื่องคอมเมดี้ แต่เธอก็มีพรสวรรค์ในการเล่าเรื่องที่เจ็บปวดให้ดูไม่รันทดบัดซบมากจนเกินไป ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ทำเหมือนมันเป็นเรื่องเล็กน้อยไร้ความสำคัญ คนอ่านยังรับรู้และเจ็บปวดไปกับตัวละคร ในขณะที่ตัวละครเริ่มทำใจกับอดีตอันขมขื่นของตัวเองได้แล้ว นี่เป็นจุดที่แม็กซ์ชอบฝีมืองานเขียนของแคธี่มากที่สุด เพราะปกติเวลาอ่านเรื่องที่ภูมิหลังตัวเอกทนทุกข์ วิธีเล่าก็มักมาแนวเดียวกันก็คือ รีดน้ำตาคนอ่านให้มากที่สุด ทำเหมือนตัวละครตัวนั้นเป็นเหยื่อและต้องการความสงสาร แต่ในเล่มนี้คริสเตียนไม่ใช่เหยื่อ หรืออย่างน้อยเขาก็ไม่ได้มองตัวเองอย่างนั้น ในขณะเดียวกันก็ยังทำให้คนอ่านเข้าใจถึงความเจ็บปวดในอดีตของคริสเตียนอย่าง ชัดเจน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเล่มแรกทำให้คริสเีตียนได้คิดทบทวนชีวิตที่ ผ่านมาตลอดสองร้อยปีของการเป็นแวมไพร์ของตัวเอง และตัวตนที่เขาค้นพบก็ไม่ใช่คนที่ดีเท่าไหรนัก ดังนั้นเขาจึงเริ่มต้นการเดินทางเพื่อค้นพบการเป็น "มนุษย์" ของตัวเอง คริสเตียนปฏิเสธที่จะใช้พลังพิเศษในฐานะแวมไพร์ของตัวเอง ไม่ยอมดื่มเลือดโดยใช้เขี้ยว หันมาใช้หลอดในการดื่มเลือดที่เอามาจากธนาคารเลือดแทน นอกจากนี้เขายังย้ายตัวเองออกจากเคหาสน์หรูในแมนฮันตัน ย้ายไปอยู่ในลานจอดรถเทรลเล่อร์เก่า ๆ โทรม ๆ ในเมืองเล็ก ๆ แห่งนึง

ที่นั่นเขาได้พบกับโจลีย์ และเมื่อเขาเกือบขับรถชนจนเป็นเหตุให้เธอบาดเจ็บ เขาก็พาตัวเองเข้าไปยังกับชีวิตมนุษย์ธรรมดาคนนึง มนุษย์ที่ตลอดสองร้อยปีเขามองว่าต้อยต่ำกว่าแวมไพร์ ทว่าก็เป็นโจลีย์นั่นเองที่สอนเขาถึงความเป็นมนุษย์ (ที่ไม่ได้มีความหมายว่าเป็นมนุษย์และไม่ใช่แวมไพร์ แต่ความเป็นมนุษย์ที่เข้าใจจิตใจคนอื่น มีความสงสาร เห็นใจคนอื่น)

เพราะอาการบาดเจ็บทำให้โจลีย์ไม่สามารถทำงานในบาร์คาราโอเกะที่ตัวเองเป็น เจ้าของได้เต็มที่ และนั่นเปิดโอกาสให้คริสเตียนเข้ามาในชีวิตของเธอมากขึ้น ด้วยการเข้ามาช่วยเธอทำงาน ชายหนุ่มที่หล่อเหลาสุดสุด (แวมไพร์ทุกคนหล่อเหนือมนุษย์) ขับรถปอร์เช่ ใส่เสื้อยี่ห้อดีไซด์เนอร์ดัง และรองเท้าหนังอย่างดี เข้ามาเป็นพนักงานเสิร์ฟในบาร์ของเธอ

ความใกล้ชิดกันเปิดโอกาสให้ทั้งสองรู้จักกันมากขึ้น เพราะแม้คริสเตียนจะเป็นแวมไพร์ แต่เขาก็ไม่มีอะไรแตกไปจากมนุษย์ การกระทำในอดีตที่เขาหลงรักผู้หญิงผิดคน จนนำไปสู่การแตกแยกจากพี่และน้องชาย และการที่เขาทรยศพี่ชายด้วยการกระทำอันชั่วร้าย ย้ำเตือนถึงความไม่เหมาะสมของเขาที่มีต่อโจลีย์

เขาเลวเกินกว่าที่จะมีความสุขกับโจลีย์ นี่เป็นเหตุผลในการปฏิเสธความรักของคริสเตียน ซึ่งเราว่าน่าสนใจดี แต่ที่น่าสนใจกว่าก็คือ คริสเตียนไม่อาจเดินออกจากชีวิตของโจลีย์ได้ แม้เขาจะต้องการ (อันนี้แหละเป็นกรี๊ดแฟคเตอร์ของเรา)

แม็กซ์ชอบตัวละครในเรื่องค่ะ ชอบความลึกของคาแร็คเตอร์ มันเหนือคาดจากเมื่อตอนหยิบมาอ่าน แม็กซ์ไม่คิดว่าจะได้พบกับเรื่องราวที่ลึกซึ้งเช่นนี้

หลายคนอาจจะขัดใจนะคะที่ไม่ได้เล่าเรื่องราวในอดีตของคริสเตียนอย่างชัดเจน แต่สำหรับแม็กซ์แล้วเราว่ามันกำัลังพอดีค่ะ เพราะผู้หญิงในอดีตของคริสเตียน (คนที่ทำให้เขาทรยศพี่น้อง) ก็ไม่ได้เข้ามามีบทบาทอะไรในเรื่อง นอกจากเป็นความทรงจำอันเลวร้าย

เราชอบเล่มนี้ค่ะ คะแนนที่ 70

No comments: