Review: Wallbanger

Wallbanger by Alice Clayton

My rating: 3 of 5 stars



ความผิดใหญ่หลวงของหนังสือเล่มนี้ก็คือ ตัวเราเองค่ะ จังหวะเวลาในการหยิบเล่มนี้มาอ่านไม่ค่อยถูกต้องนัก เพราะเราเพิ่งอ่านจบเรื่องแนวปัจจุบันที่ชอบมาก ๆ อย่างเรื่อง [b:Tangled|16073738|Tangled (Tangled, #1)|Emma Chase|http://d202m5krfqbpi5.cloudfront.net/books/1369159938s/16073738.jpg|21868234] และ [b:The Nature of Cruelty|17873919|The Nature of Cruelty|L.H. Cosway|http://d202m5krfqbpi5.cloudfront.net/books/1369134073s/17873919.jpg|25025709] ทำให้เราอดไม่ได้ที่เอามาเปรียบเทียบกัน และเราพบว่า ตัวเองชอบสองเล่มนั้นมากกว่า

แต่ไม่ได้ความว่า นี่จะเป็นข้อเท็จจริงสำหรับทุกคน เพราะเราปฏิเสธไม่ได้นะคะว่า หนังสือเรื่องนี้มีเสน่ห์เป็นของตัวเอง และเราคิดว่า คงมีอีกหลายคนที่จะชอบหนังสือเล่มนี้ โดยเฉพาะคนที่คิดถึงงานเขียนแนวชิคลิคที่เคยโด่งดังเมื่อหลายปีก่อน แต่เดี๋ยวนี้หาอ่านค่อนข้างยาก แต่เล่มนี้มีจุดเด่นที่เราชอบมากกว่างานแนวชิคลิคก็คือ ความโรแมนติกของความสัมพันธ์ในเรื่อง

หลังจากเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่ในอพาท์เมนต์แห่งใหม่ได้แค่คืนวันแรก คาโรไลน์ก็ได้รับการต้อนรับจากผู้พักอาศัยห้องข้าง ๆ แบบไม่ทันตั้งตัว เมื่อกลางดึกเธอได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงกระแทกจากผนังห้องนอนของห้องข้าง ๆ ที่อยู่ติดกับห้องนอนของเธอ แรงกระแทกดังขนาดกรอบรูปตกลงมาจากผนังฝั่งห้องของเธอ แถมยังมีเสียงหวีดร้องที่ทำให้รู้ในทันทีว่า ห้องข้าง ๆ กับมีกิจกรรมนอกเวลาอะไรกันอยู่

และถ้ามันเป็นแค่คืนเดียว ก็ยังพอทนกันได้ แต่ตาหนุ่มข้างห้องมีผู้หญิงเปลี่ยนหน้าพาเหรดมาหาติด ๆ กันทุกคืน เสียงกระแทก และหวีดร้องก็ดังตลอด ที่ยิ่งทำให้สาวเจ้าหงุดหงิดมากไปกว่าเดิมก็คือ ระยะหลังมานี่คาโรไลน์เองก็มีปัญหาในการหาความสุขด้วยตัวเองอีกต่างหาก

จนในคืนวันนึงความอดทนก็หมดลง คาโรไลน์ออกไปเผชิญหน้ากับข้างห้องจอมกระแทก นั่นไม่ใช่การเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดีนัก โดยเฉพาะเมื่อต่อมาทั้งคู่พบว่า ต่างมีเพื่อนของเพื่อน และของเพื่อนที่รู้จักกัน แถมเพื่อนของเธอ และเพื่อนของเขายังจับคู่ออกเดทกันอีกต่างหาก นั่นทำให้เธอ และไซมอน (เจ้าหนุ่มข้างห้อง) กลายมาเป็นเพื่อนกันกลาย ๆ

นางเอกเล่มนี้น่ารักดีนะคะ อย่างที่บอกสำนวนการเขียน และการเล่าเรื่อง รวมทั้งเหตุการณ์หลายอย่างในเรื่องทำให้เรานึกถึงหนังสือแนวชิคลิค แต่เล่มนี้เอนเอียงไปในส่วนของโรแมนซ์มากกว่า และคาโรไลน์ก็เป็นคนเล่าเรื่องที่น่าสนใจ เธอไม่ใช่หญิงสาวที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง ต้องควบคุมอาหาร หรือวิ่งไล่ตามผู้ชาย เธอเป็นหญิงสาววัยยี่สิบหกปีที่มีความสุขในชีวิต มีอาชีพที่ตัวเองรัก และพร้อมที่จะใช้ชีวิต เราชอบทัศนคติที่คาโรไลน์มองโลก

ในขณะที่ไซมอน เนื่องจากเรื่องนี้เล่าเรื่องผ่านสายตาของคาโรไลน์อย่างเดียว เขาเริ่มต้นกับการเป็นชายที่มีความสัมพันธ์กับผู้หญิงไม่เลือกหน้า ช่างภาพหนุ่มที่รักอิสระที่ไม่ชอบการผูกมัด แต่ช้า ๆ เมื่อทั้งเธอและเขากลายเป็นเพื่อน และความสัมพันธ์ดำเนินลึกซึ้งกันไปมากขึ้น เราก็มองเห็นเขาในด้านอื่น ๆ กระนั้นเราก็ไม่ค่อยรู้สึกเชื่อเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อคิดว่า ไซมอนที่บอกรักกับคาโรไลน์คือชายคนเดียวกับที่พาผู้หญิงสามคนผลัดเปลี่ยนวันมานอนด้วยที่อพาทเม้นต์

อย่างที่บอกไปค่ะ ถ้าเราอ่านเรื่องนี้เมื่อสามเดือนก่อน หรือสามเดือนถัดจากนี้ เราน่าจะชอบเรื่องนี้มากกว่านี้ แต่นี่เราอดไม่ได้ค่ะที่จะเอาไปเปรียบเทียบกับสองเรื่องที่พูดถึงไป

เราคิดว่าเล่มนี้เหมาะกับคนที่อ่านเรื่องแนวอื่นเป็นหลัก แล้วอยากหันมาลองอ่านเรื่องแนวโรแมนซ์ พัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างคาโรไลน์และไซมอนเป็นไปอย่างเนิบนาบ มีที่มาที่ไป และคนอ่านเข้าใจได้ว่า มันเกิดขึ้นเมื่อไหร (ไม่ได้ร้อนแรง รุนแรงแบบที่โรแมนซ์ส่วนใหญ่ใช้เป็นแบบ)

คะแนนที่ 70
ป.ล. อย่าให้หน้าปกมาคิดว่า เล่มนี้เป็นแนวอีโรติกนะคะ เล่มนี้เป็นโรแมนซ์ยุคปัจจุบันมากกว่า




View all my reviews